"อลงกรณ์"จี้"แม้ว"ชี้แจงเที่ยวบินฉาวใช้ ซี 130 ขนวีไอพีร่วมเบิร์ดเดย์"แป๋ว"ที่เชียงใหม่ "ธรรมรักษ์"ยันเป็นเรื่องธรรมดาหากที่นั่งเหลือขนญาติโยมไปได้ แต่ไม่ยอมเปิดปากกรณีใช้ไทยคู่ฟ้าขนลูกหลานนายกฯ ไปเล่นสาดน้ำสงกรานต์ที่เชียงใหม่
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฏรวานนี้(24 พ.ย.) ได้มีการพิจารณากระทู้สดของ นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ถามนายกรัฐมนตรี กรณีใช้ทรัพย์สินทางราชการ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่ากรณีที่มีการใช้ขอเครื่องบินซี 130 ขนคนไปจัดงานขึ้นบ้านใหม่ และฉลองวันเกิดของ นางมณฑาทิพย์ โกวิทย์เจริญกุล หรือ แป๋ว น้องสาวนายกรัฐมนตรี ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีหนังสือทางราชการ ของสำนักงานรองปลัดกระทรวงกลาโหม ลงวันที่ 31 ตุ.ค.48 ว่าขอเชิญร่วมงานเลี้ยงฉลองดังกล่าว ซึ่งจะจัดในวันที่ 14 พ.ย.48 โดยให้มาขึ้นที่ บน.6(กองทัพอากาศ)เพื่อไปยัง จ.เชียงใหม่ ด้วยเครื่องซี 130 ลงชื่อ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เสนาธิการกองทัพอากาศ โดยให้ยืนยันเรื่องพาหนะได้ที่ พล.อ.ต.ประสิทธิ์ ธนณาเคนทร์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ในฐานะผู้เสียภาษีอากร โดยมีการใช้อภิสิทธิ์ในงานดังกล่าวทั้งที่เป็นเอกชน จึงอยากถามว่า ทางกองทัพอากาศหรือกระทรวงกลาโหม มีหลักเกณฑ์อย่างไร มีการสนับสนุนการจัดงานวันเกิด หรือบ้านใหม่ โกนจุก เผาศพ ให้กับประชาชนอย่างไร จริงหรือไม่ที่มีการใช้เครื่องบินลำเลียงปกติ หรือใช้เครื่องบินเพื่อให้วีไอพีใช้เดินทางด้วย
พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า เครื่องบินลำเลียงของกองทัพอากาศจะต้องบินทำชั่วโมง จะจอดไว้เฉยๆไม่ได้ จึงมีการบินไปเหนือและอีสาน อาทิตย์ละ 2 วันเพื่อขนส่งสัมภาะและอุปกรณ์ต่างๆ หากมีที่นั่งเหลือ ก็สามารถให้ญาติมิตรโดยสารไปได้ แต่ต้องทำสัญญาว่าหากเกิดอุบัติเหตุตาย หรือเสียหายจะไม่เอาเรื่อง จึงถือว่า ซี 130 ที่ใช้บินไปเชียงใหม่เป็นเครื่องบินเมล์ตามปกติที่ใครจะขอก็ได้ แต่ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ของกองทัพอากาศ ว่าจะเหลือเนื้อที่โดยสารกี่ที่ ซึ่งที่โดยสารไป จ.เชียงใหม่ก็ไปไม่มากไปเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น ตอนกลับก็ตัวใครตัวมัน ไม่ใช่ที่จัดไว้พิเศษ
นายอลงกรณ์ ถามต่อว่า เครื่องบินซี 130 ของทางราชการมี 12 ลำ แต่ใช้จริงๆ ได้เพียง 3-4 ลำ นอกนั้นต้องซ่อม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการปฏิบัติราชการ จึงขอถามว่ารายชื่อสิบกว่าคนที่โดยสารไปขอให้มีการแจ้งรายชื่อว่าเป็นใครบ้าง และมีการสนับสนุนให้ญาติพี่น้องของนายกฯใช้ ซี 130 และเครื่องบินไทยคู่ฟ้า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 12-15 เม.ย. ที่ผ่านมาหรือไม่ รมว.กลาโหมตอบ คำถามเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ในหนังสือที่ออกมา ไม่ได้อนุมัติโดยสำนักงานรองปลัด แต่อาจเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ใช้หัวจดหมายทางราชการ โดยในหนังสือระบุอย่างชัดเจนว่า ผู้จะไปร่วมงานจะมีเครื่องบิน ซี 130 โดยสาร เรื่องนี้เหมือนเป็นการเอาน้ำกรดไปรดหัวใจประชาชน ไม่ตายแต่เจ็บปวด ที่อภิสิทธิชนได้ใช้สิทธิพิเศษ การใช้เครื่องบิราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตนนั้นเกิดขึ้นหลายครั้ง เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 16 ที่เกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่อ.บางเลน จ.นครปฐม เรื่องจึงแดงขึ้นว่า มีการไปล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร แต่ทางราชการแจ้งว่าเป็นการปฏิบัติภารกิจลับ แต่ผลสอบสรุปออกมาว่า ไม่ใช่ตามที่อ้าง และเรื่องนี้ก็มีลักษณะคล้ายกัน จนที่นายสนธิ (ลิ้มทองกุล)ใช้ว่าคำว่า"ทุ่งใหญ่ ดิจิตอล" แต่ตนขอเรียกว่า"แอร์ฟอร์ซ แป๋ว" ตนอยากถามว่า เรื่องนี้จะมีการสอบสวนหรือไม่ และขอถามว่า หากมีคนเมืองเพชร ไปสู่ขอสาวที่เชียงใหม่ และทำเรื่องขอโดยผ่านเสนาธิการ ทอ. หรือรอง ผบ.ทอ.ได้หรือไม่ ตรงกับหลักเกณฑ์หรือไม่ และ จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเท่าไร
รมว.กลาโหมกล่าวว่า เรื่องนี้ตนร้อนใจ หลังจากทราบเรื่องก็ให้ปลัดกลาโหมสอบ พล.อ.ต.ประสิทธิ์ ว่ามีการใช้หนังสือหัวราชการได้อย่างไร พร้อมทั้งมีการคาดโทษไว้แล้ว ส่วนเรื่องการขอใช้เครื่องบินนั้น ตนได้เรียกเสนาธิการกองทัพอากาศมาชี้แจงด้วยตัวเอง โดยชี้แจงว่า ได้มีการขอขึ้นเครื่องบินไป จ.เชียงใหม่ โดยระบุว่า นักเรียน วปอ.รุ่น 46 มีกิจกรรมกลุ่มที่เชียงใหม่ จึงขอโดยสารร่วมไปด้วย
หากคนเพชรบุรีจะไปขอสาวที่เชียงใหม่ ก็ไปได้เลยหากที่ว่าง แต่ต้องทำสัญญาว่าถ้าตายจะไม่มีการชดใช้ แต่ถ้าอนุมัติให้เป็นกรณีพิเศษ ก็ไม่ได้ พร้อมยืนยันว่า เครื่องบินกองทัพอากาศจะบินส่วนตัวไม่ได้จะต้องไปเฉพาะงานราชการเท่านั้น แต่ยืนยันว่า หนังสือที่ส่งมาไม่ได้ระบุว่าไปงานขึ้นบ้านใหม่แต่ขออาศัยเครื่องบินเมล์ไป ไม่ได้ไปส่วนตัวแน่นอนเพราะทำไม่ได้
อย่างไรก็ตามพล.อ.ธรรมรักษ์ พยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถามกรณีที่มีการใช้ ซี 130และ ไทยคู่ฟ้า ไปบริการลูกท่านหลานเธอ ตระกูลชินวัตร ที่ไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ จ.เชียงใหม่ แม้นายอลงกรณ์ พยายามที่จะถามซ้ำหลายครั้งก็ตาม
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฏรวานนี้(24 พ.ย.) ได้มีการพิจารณากระทู้สดของ นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ถามนายกรัฐมนตรี กรณีใช้ทรัพย์สินทางราชการ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่ากรณีที่มีการใช้ขอเครื่องบินซี 130 ขนคนไปจัดงานขึ้นบ้านใหม่ และฉลองวันเกิดของ นางมณฑาทิพย์ โกวิทย์เจริญกุล หรือ แป๋ว น้องสาวนายกรัฐมนตรี ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีหนังสือทางราชการ ของสำนักงานรองปลัดกระทรวงกลาโหม ลงวันที่ 31 ตุ.ค.48 ว่าขอเชิญร่วมงานเลี้ยงฉลองดังกล่าว ซึ่งจะจัดในวันที่ 14 พ.ย.48 โดยให้มาขึ้นที่ บน.6(กองทัพอากาศ)เพื่อไปยัง จ.เชียงใหม่ ด้วยเครื่องซี 130 ลงชื่อ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เสนาธิการกองทัพอากาศ โดยให้ยืนยันเรื่องพาหนะได้ที่ พล.อ.ต.ประสิทธิ์ ธนณาเคนทร์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ในฐานะผู้เสียภาษีอากร โดยมีการใช้อภิสิทธิ์ในงานดังกล่าวทั้งที่เป็นเอกชน จึงอยากถามว่า ทางกองทัพอากาศหรือกระทรวงกลาโหม มีหลักเกณฑ์อย่างไร มีการสนับสนุนการจัดงานวันเกิด หรือบ้านใหม่ โกนจุก เผาศพ ให้กับประชาชนอย่างไร จริงหรือไม่ที่มีการใช้เครื่องบินลำเลียงปกติ หรือใช้เครื่องบินเพื่อให้วีไอพีใช้เดินทางด้วย
พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า เครื่องบินลำเลียงของกองทัพอากาศจะต้องบินทำชั่วโมง จะจอดไว้เฉยๆไม่ได้ จึงมีการบินไปเหนือและอีสาน อาทิตย์ละ 2 วันเพื่อขนส่งสัมภาะและอุปกรณ์ต่างๆ หากมีที่นั่งเหลือ ก็สามารถให้ญาติมิตรโดยสารไปได้ แต่ต้องทำสัญญาว่าหากเกิดอุบัติเหตุตาย หรือเสียหายจะไม่เอาเรื่อง จึงถือว่า ซี 130 ที่ใช้บินไปเชียงใหม่เป็นเครื่องบินเมล์ตามปกติที่ใครจะขอก็ได้ แต่ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ของกองทัพอากาศ ว่าจะเหลือเนื้อที่โดยสารกี่ที่ ซึ่งที่โดยสารไป จ.เชียงใหม่ก็ไปไม่มากไปเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น ตอนกลับก็ตัวใครตัวมัน ไม่ใช่ที่จัดไว้พิเศษ
นายอลงกรณ์ ถามต่อว่า เครื่องบินซี 130 ของทางราชการมี 12 ลำ แต่ใช้จริงๆ ได้เพียง 3-4 ลำ นอกนั้นต้องซ่อม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการปฏิบัติราชการ จึงขอถามว่ารายชื่อสิบกว่าคนที่โดยสารไปขอให้มีการแจ้งรายชื่อว่าเป็นใครบ้าง และมีการสนับสนุนให้ญาติพี่น้องของนายกฯใช้ ซี 130 และเครื่องบินไทยคู่ฟ้า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 12-15 เม.ย. ที่ผ่านมาหรือไม่ รมว.กลาโหมตอบ คำถามเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ในหนังสือที่ออกมา ไม่ได้อนุมัติโดยสำนักงานรองปลัด แต่อาจเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ใช้หัวจดหมายทางราชการ โดยในหนังสือระบุอย่างชัดเจนว่า ผู้จะไปร่วมงานจะมีเครื่องบิน ซี 130 โดยสาร เรื่องนี้เหมือนเป็นการเอาน้ำกรดไปรดหัวใจประชาชน ไม่ตายแต่เจ็บปวด ที่อภิสิทธิชนได้ใช้สิทธิพิเศษ การใช้เครื่องบิราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตนนั้นเกิดขึ้นหลายครั้ง เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 16 ที่เกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่อ.บางเลน จ.นครปฐม เรื่องจึงแดงขึ้นว่า มีการไปล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร แต่ทางราชการแจ้งว่าเป็นการปฏิบัติภารกิจลับ แต่ผลสอบสรุปออกมาว่า ไม่ใช่ตามที่อ้าง และเรื่องนี้ก็มีลักษณะคล้ายกัน จนที่นายสนธิ (ลิ้มทองกุล)ใช้ว่าคำว่า"ทุ่งใหญ่ ดิจิตอล" แต่ตนขอเรียกว่า"แอร์ฟอร์ซ แป๋ว" ตนอยากถามว่า เรื่องนี้จะมีการสอบสวนหรือไม่ และขอถามว่า หากมีคนเมืองเพชร ไปสู่ขอสาวที่เชียงใหม่ และทำเรื่องขอโดยผ่านเสนาธิการ ทอ. หรือรอง ผบ.ทอ.ได้หรือไม่ ตรงกับหลักเกณฑ์หรือไม่ และ จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเท่าไร
รมว.กลาโหมกล่าวว่า เรื่องนี้ตนร้อนใจ หลังจากทราบเรื่องก็ให้ปลัดกลาโหมสอบ พล.อ.ต.ประสิทธิ์ ว่ามีการใช้หนังสือหัวราชการได้อย่างไร พร้อมทั้งมีการคาดโทษไว้แล้ว ส่วนเรื่องการขอใช้เครื่องบินนั้น ตนได้เรียกเสนาธิการกองทัพอากาศมาชี้แจงด้วยตัวเอง โดยชี้แจงว่า ได้มีการขอขึ้นเครื่องบินไป จ.เชียงใหม่ โดยระบุว่า นักเรียน วปอ.รุ่น 46 มีกิจกรรมกลุ่มที่เชียงใหม่ จึงขอโดยสารร่วมไปด้วย
หากคนเพชรบุรีจะไปขอสาวที่เชียงใหม่ ก็ไปได้เลยหากที่ว่าง แต่ต้องทำสัญญาว่าถ้าตายจะไม่มีการชดใช้ แต่ถ้าอนุมัติให้เป็นกรณีพิเศษ ก็ไม่ได้ พร้อมยืนยันว่า เครื่องบินกองทัพอากาศจะบินส่วนตัวไม่ได้จะต้องไปเฉพาะงานราชการเท่านั้น แต่ยืนยันว่า หนังสือที่ส่งมาไม่ได้ระบุว่าไปงานขึ้นบ้านใหม่แต่ขออาศัยเครื่องบินเมล์ไป ไม่ได้ไปส่วนตัวแน่นอนเพราะทำไม่ได้
อย่างไรก็ตามพล.อ.ธรรมรักษ์ พยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถามกรณีที่มีการใช้ ซี 130และ ไทยคู่ฟ้า ไปบริการลูกท่านหลานเธอ ตระกูลชินวัตร ที่ไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ จ.เชียงใหม่ แม้นายอลงกรณ์ พยายามที่จะถามซ้ำหลายครั้งก็ตาม