“เลอโนท” ครบรอบ 1 ปี จุดพลุสร้างแบรนด์ช่วงเทศกาลปีใหม่ ผุดสาขาที่เอ็มโพเรียม “เลอโนท แอท บาทนิก้า คาเฟ่” ทุ่ม 90 ล้านบาท รุกเปิด 3 ทำเลทอง สยามพารากอน ทองหล่อ เซ็นทรัล เวิลด์ ส่วนปีหน้าตั้งเป้าเปิดครบ 6 แห่ง เล็งติดปีกเป็นผู้ผลิตป้อนโรงแรม-โกอินเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน
นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาร์ค ควิซีน จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์ในการผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่ “เลอโนท” เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดบริษัทฯต้องการขยายสาขาร้านเบเกอรี่ภายใต้แบรนด์ “เลอโนท” ให้ครบ 6 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 2 สาขา ได้แก่ ซ.หลังสวน และโซฟิเทล สีลม แต่เนื่องจากตราสินค้ายังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง บริษัทฯจึงได้ทุ่มงบ 6-7 ล้านบาท เปิดสาขา 3 ย่านสุขุมวิท ที่ เอ็มโพเรียม ชั้น 5 ขนาดพื้นที่ 60 ตร.ม.ภายใต้คอนเซปต์ “เลอโนท สไตล์ เมกาแซง” ร้านเบเกอรี่เน้นขายนำกลับบ้าน
พร้อมกันนี้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ บริษัทฯได้เปิดเลอโนท แอท โบทานิก้า คาเฟ่ ที่ ชั้น จี ชั่วคราวขึ้น เพื่อสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างในช่วงพิเศษนี้ นอกจากนี้ยังได้เตรียมทุ่มงบ 90 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ สยามพารากอนใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 250 ตร.ม.โดยจะเปิดในปลายปีนี้ ส่วนอีกสองสาขาที่จะเปิดในปีหน้า คือ ที่ ทองหล่อ ขนาดพื้นที่ 100-200 ตร.ม.มีแนวโน้มจะเป็นรูปแบบสแตนอะโลน และสาขาสุดท้าย ที่ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซาใช้งบรวมราว 40 ล้านบาท
สำหรับรูปแบบร้านเลอโนท แบ่งเป็น 3 คอนเซปต์ ได้แก่ คาเฟ่,บูติก และเมกาแซงหรือซื้อกลับบ้าน ซึ่งภายในร้านจะมีสินค้า 3 แคธิกอรี่ ประกอบด้วย ชอกโกแลต เบเกอรี่ และไอศกรีม โดยสินค้ามี 1,000 รายการ ราคาสินค้าเริ่มต้นตั้งแต่ 40-135 บาท เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบีบวกขึ้นไป โดยมีค่าใช้จ่าย 200-300 บาทต่อคน ทั้งนี้หลังจากเปิดสาขาใหม่คาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 2 ปี
พฤติกรรมของคนไทยเลือกสรรเบเกอรี่ทั้งด้านรสชาติ และคุณภาพมากขึ้น แต่กลุ่มผู้บริโภคยังมีไม่มากนัก ส่งผลให้ธุรกิจมีการแข่งขันรุนแรงเพิ่มขึ้นเพื่อช่วงชิงลูกค้า โดยมีแนวโน้มว่าจะมีแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น ส่วนผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ เชื่อว่าร้านเบเกอรี่ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนจะไม่ได้รับผลกระทบ
สำหรับปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีรายได้ 60 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มวัยทำงาน 60% นักเรียน-นักศึกษา 20% และอื่นๆ 20% โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2 เดือนนี้ คาดว่าจะมียอดขาย 14-15 ล้านบาท และภายหลังจากเปิดสาขา ที่ สยามพารากอนบริษัทฯตั้งเป้ามีรายได้ 150-200 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังจากขยายสาขาครบ 6 แห่ง บริษัทฯวางแผนผลิตสินค้าจำหน่ายให้ทางโรงแรม ฯลฯ รวมทั้งมีแผนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาร์ค ควิซีน จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์ในการผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่ “เลอโนท” เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดบริษัทฯต้องการขยายสาขาร้านเบเกอรี่ภายใต้แบรนด์ “เลอโนท” ให้ครบ 6 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 2 สาขา ได้แก่ ซ.หลังสวน และโซฟิเทล สีลม แต่เนื่องจากตราสินค้ายังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง บริษัทฯจึงได้ทุ่มงบ 6-7 ล้านบาท เปิดสาขา 3 ย่านสุขุมวิท ที่ เอ็มโพเรียม ชั้น 5 ขนาดพื้นที่ 60 ตร.ม.ภายใต้คอนเซปต์ “เลอโนท สไตล์ เมกาแซง” ร้านเบเกอรี่เน้นขายนำกลับบ้าน
พร้อมกันนี้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ บริษัทฯได้เปิดเลอโนท แอท โบทานิก้า คาเฟ่ ที่ ชั้น จี ชั่วคราวขึ้น เพื่อสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างในช่วงพิเศษนี้ นอกจากนี้ยังได้เตรียมทุ่มงบ 90 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ สยามพารากอนใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 250 ตร.ม.โดยจะเปิดในปลายปีนี้ ส่วนอีกสองสาขาที่จะเปิดในปีหน้า คือ ที่ ทองหล่อ ขนาดพื้นที่ 100-200 ตร.ม.มีแนวโน้มจะเป็นรูปแบบสแตนอะโลน และสาขาสุดท้าย ที่ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซาใช้งบรวมราว 40 ล้านบาท
สำหรับรูปแบบร้านเลอโนท แบ่งเป็น 3 คอนเซปต์ ได้แก่ คาเฟ่,บูติก และเมกาแซงหรือซื้อกลับบ้าน ซึ่งภายในร้านจะมีสินค้า 3 แคธิกอรี่ ประกอบด้วย ชอกโกแลต เบเกอรี่ และไอศกรีม โดยสินค้ามี 1,000 รายการ ราคาสินค้าเริ่มต้นตั้งแต่ 40-135 บาท เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบีบวกขึ้นไป โดยมีค่าใช้จ่าย 200-300 บาทต่อคน ทั้งนี้หลังจากเปิดสาขาใหม่คาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 2 ปี
พฤติกรรมของคนไทยเลือกสรรเบเกอรี่ทั้งด้านรสชาติ และคุณภาพมากขึ้น แต่กลุ่มผู้บริโภคยังมีไม่มากนัก ส่งผลให้ธุรกิจมีการแข่งขันรุนแรงเพิ่มขึ้นเพื่อช่วงชิงลูกค้า โดยมีแนวโน้มว่าจะมีแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น ส่วนผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ เชื่อว่าร้านเบเกอรี่ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนจะไม่ได้รับผลกระทบ
สำหรับปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีรายได้ 60 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มวัยทำงาน 60% นักเรียน-นักศึกษา 20% และอื่นๆ 20% โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2 เดือนนี้ คาดว่าจะมียอดขาย 14-15 ล้านบาท และภายหลังจากเปิดสาขา ที่ สยามพารากอนบริษัทฯตั้งเป้ามีรายได้ 150-200 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังจากขยายสาขาครบ 6 แห่ง บริษัทฯวางแผนผลิตสินค้าจำหน่ายให้ทางโรงแรม ฯลฯ รวมทั้งมีแผนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน