ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ททท.คาดช่วง 3 เดือนไฮซีซันเชียงใหม่ กวาดรายได้ท่องเที่ยวอย่างน้อย 9,000 ล้านบาท เชื่อ "ไนท์ซาฟารี" เป็นปัจจัยหนุนชั้นดี ส่วนยอดจองห้องพักฉลุย 70% ขณะที่ราคาน้ำมัน-ไข้หวัดนกน่าจะส่งผลกระทบน้อย ด้านแหล่งท่องเที่ยวกรมอุทยานฯ บ้านพักถูกจองเต็มเหลือเพียงที่กางเตนท์นอน โดยที่ "ดอยอินทนนท์" เริ่มเกิดน้ำค้างแข็งแล้ว เชื่อเร็วๆ นี้นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวแน่
นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือเขต 1(ททท.) เปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ช่วงไฮซีซันว่า เมื่อประเมินสถานการณ์จากช่วงการจัดงานเทศกาลลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ที่มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ พบว่า เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้มีเงินรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวสะพัด ในช่วงดังกล่าวสูงถึงประมาณ 500 ล้านบาท
ประกอบกับจากการสอบถามโรงแรมที่พักต่างๆ พบว่า ขณะนี้มีอัตราการจองห้องพักและเข้าพักสูงกว่าร้อยละ 70 ดังนั้นจึงค่อนข้างเชื่อมั่นว่าในช่วงไฮซีซันของจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างเดือนพ.ย.-ม.ค. รายได้จากภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ น่าจะขยายตัวขึ้นประมาณร้อยละ 3-5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยประมาณการว่าในช่วง 3 เดือนนี้น่าจะมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่อย่างน้อย 9,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 100 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยบวกที่จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงไฮซีซันปีนี้ มองว่าการเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่อย่างเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จะเป็นสิ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงนี้ที่เป็นการทดลองเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าชมได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ก่อนที่จะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ม.ค.49 จะส่งผลดีทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทย เดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่หากเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะยิ่งส่งผลดีจากการทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ สนใจเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ จะเห็นว่าการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ รวมทั้งในช่วงเดือนธ.ค.ที่มีช่วงวันหยุดยาวหลายครั้ง ยังจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมัน และการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก นายจุณพงศ์ กล่าวว่า ในแง่ของนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว การแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวมากนัก เพราะส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นในมาตรการป้องกันของหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ขณะที่ราคาน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบบ้าง แต่เชื่อว่าไม่มากนักและไม่ทำให้ถึงกับตัดสินใจยกเลิกการเดินทาง เพียงแต่อาจจะเป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการท่องเที่ยวเท่านั้น เช่น เปลี่ยนจากการใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางท่องเที่ยวลำพัง มาเป็นการเดินทางท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ การใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือการซื้อแพกเกจทัวร์ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ราคาน้ำมันแทบจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว แต่ข่าวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกจะมีผลกระทบมากกว่า เพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่จะทำให้ตัดสินใจชะลอหรือยกเลิกการเดินทางได้ ซึ่งเวลานี้ททท. จึงมีการนำวิธีการประชาสัมพันธ์ มาใช้ในการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยการรวบรวมข้อมูล และติดตามสถานการณ์ไข้หวัดนกในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ว่ามีแหล่งท่องเที่ยวใดที่ได้รับผลกระทบจากไข้หวัดนกหรือไม่อย่างไร แล้วส่งข้อมูลให้สำนักงานในต่างประเทศได้ทราบ และใช้ในการให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจอีกทางหนึ่ง
ด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีรายงานว่าหลังจากที่สภาพอากาศหนาวเย็นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จนเวลานี้ที่พักในส่วนที่เป็นบ้านพักได้ถูกจองเต็มหมดแล้ว เหลือเพียงพื้นที่กางเต็นท์
โดยที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ เปิดเผยว่า อากาศที่หนาวเย็น ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลมาท่องเที่ยวไม่ขาดสายเพื่อชื่นชมความสวยงามตามธรรมชาติของจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทยและสัมผัสความหนาวเย็น โดยนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยคาดหวังเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้เห็นน้ำค้างแข็งหรือที่บ้างก็เรียกกันว่าเหมยขาบหรือแม่คะนิ้ง ล่าสุดได้เริ่มมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นแล้วเป็นบางจุด ตามยอดดอยและคาดว่าหากอุณหภูมิยังคงลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้มีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นมากกว่านี้ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้สถานที่พักของทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่มีไว้รองรับนักท่องเที่ยว ขณะนี้มีบ้านพักทั้งหมด 13 หลัง ซึ่งแต่ละหลังสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 3 คนไปจนถึง 23 คน รองรับได้รวมทั้งหมดประมาณ 130 กว่าคน ในส่วนของห้องพักนี้ปรากฏว่าในช่วงนี้มีการจองผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตจนเต็มหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่ที่ เป็นลานสำหรับให้นักท่องเที่ยวกางเตนท์ได้ ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อีกมากพอสมควร นอกจากนี้ อุทยานกำลังทำการปรับปรุงพื้นที่ เพื่อเป็นลานกางเต็นท์เพิ่มเติม พร้อมทั้งจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น คาดว่า จะแล้วเสร็จในช่วงปีใหม่นี้