คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อฟังเสียงบทความนี้โดยเจ้าของคอลัมน์
คำประกาศของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดจากสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์นี้ว่า จะปิดโรงงานประกอบรถยนต์ถึง 9 แห่งในอเมริกาเพื่อตัดรายจ่าย รวมทั้งเพื่อลดต้นทุนให้บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ ประหยัดเงินนับ 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ดูจะไม่พอด้วยซ้ำ
แต่บริษัทยังโละพนักงานอีกกว่า 3 หมื่นกว่าตำแหน่งลงพร้อมๆ กันด้วย
ทั้งนี้จากคำแถลงจากหัวหน้าฝ่ายบริหาร นายริค แวคกอนเนอร์ ซึ่งชี้ว่า ทุกอย่างต้องเรียบร้อยภายในปลายปีหน้าเป็นอย่างช้าครับ
ทั้งนี้คำแถลงของ GM อย่างเป็นทางการนี้เกิดขึ้นจากการประชุมนักข่าวที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทว่าเหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อลดต้นทุนในการปิดโรงงานหลายแห่งดังกล่าวแล้ว และเขาชี้ด้วยว่าทางสหภาพแรงงานผู้ประกอบรถยนต์กำลังมีโครงการที่จะซื้อตัวแรงงานที่อาจทำงานโดยรับค่าจ้างเต็ม แม้ว่าจะถูกเลิกจ้างไป
ผู้บริหารสูงสุดของ GM ยังบอกด้วยว่า อาจต้องลดพนักงานลงอีกร้อยละ 7 ในปีหน้า ทำให้มีพนักงานลดจำนวนลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา
GM นั้น มีแผนการผลิตรถยนต์แค่ล้านคันต่อปี ในขณะที่คู่แข่งที่สำคัญในอเมริกาคือ โตโยต้านั้นกำลังมีแผนขยายงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหวังครองตำแหน่งที่หนึ่งของโลกในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ภายในปีหน้า
แต่นายริค แวคกอนเนอร์นั้น ก็พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า เราไม่ยอมแพ้ใครแน่นอนที่สุด เพราะว่าทางบริษัทของเรามีกำลังการผลิตเหลือเฟืออยู่แล้วทั่วโลก
GM นั้นได้ขยายกำลังการผลิตนอกประเทศไปมากโดยเฉพาะในประเทศจีน แต่ในอเมริกานั้นมีความจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตลง เพราะว่าต้องปิดโรงงานที่ไม่มีความจำเป็นเพื่อลดค่าใช้จ่ายซึ่งทำให้ต้องลดจำนวนพนักงานลงโดยอัตโนมัติ
แน่นอนว่า GM คงต้องปะทะกับสหภาพแรงงานอีกหลายยก ภายในปี 2007 ครับ
เหตุผลส่วนหนึ่งที่การต่อสู้ระหว่าง GM กับสหภาพแรงงานคงดุเดือดเป็นเพราะมันมีข้อตกลงร่วมกันอยู่ว่า GM นั้นห้ามปิดโรงงานอยู่ในสัญญาที่ตกลงกันไว้ พนักงานที่ตกงานเพราะโรงงานถูกปิดหรือหยุดชั่วคราวจะต้องได้รับค่าจ้างตามเงินเดือนเต็มและได้รับเงินชดเชยหรือสวัสดิการเต็มจำนวนด้วย
ประธานสหภาพแรงงานริชาร์ด ชูเมคเกอร์ กล่าวต่อปฏิกิริยาของฝ่ายนายจ้างว่า น่าผิดหวังที่สุด และไม่ยุติธรรมต่อลูกจ้าง แม้ว่าหุ้นของ GM จะตกต่ำลงในตลาดทุน แต่ก็ไม่ได้เป็นความผิดพลาดที่มาจากพนักงาน และทางสหภาพจะปกป้องบรรดาสมาชิกให้ได้ผลประโยชน์ที่พึงได้รับ รวมทั้งจะรักษาตำแหน่งงานไว้ให้ได้ รวมทั้งต้องประกันรายได้ให้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย
แม้ว่าผู้บริหาร GM เลี่ยงที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับสหภาพตั้งแต่เกิดการนัดหยุดงานที่ทำให้ GM เสียหาย ด้านการเงินไปเยอะมากในช่วงปี 1998 และทางตลาดทุนที่วอลล์สตรีทก็วิตกมากว่า GM กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์รอบใหม่กับภาวะวิกฤตด้านแรงงานอีกครั้ง
แน่นอนว่าตลาดทุนเล็งผลร้ายว่าการผลิตของ GM จะมีปัญหาแน่นอน หากสถานการณ์เลวร้ายตามที่คาดหมาย
ถ้าปลดพนักงานลงและปิดโรงงานเท่ากับว่า GM กำลังถดถอยในตลาดของประเทศตัวเอง ซึ่งเวลานี้ตลาดรถยนต์ก็เหลือแค่ 26.4 เปอร์เซ็นต์ หรือลดจาก 40 เปอร์เซ็นต์ในช่วงต้นปี 1980
กระนั้นก็ตาม GM ยังแย้มว่า อาจต้องปิดโรงงานเพิ่มอีก 4 โรง ในปี 2008 ทั้งหมดเป็นโรงงานประกอบรถยนต์สปอร์ตขนาดกลางในเมืองโอคลาโอมาและโรงงานผลิตรถมินิแวนในโดราวิลล์ มลรัฐจอร์เจีย และโรงงานเล็กๆ ในเมืองแลนซิง มลรัฐมิชิแกน ที่ผลิตรถแบบพิเศษ ส่วนโรงงานที่ 4 อยู่ที่โรงงานโอชาวา ออนตาริโอ
GM ยังคิดมีแผนที่จะให้โรงงานอีกแห่งหนึ่งที่เทนเนสซีหยุดประกอบรถยนต์ไว้พลางก่อนถึงสองส่วนภายในสิ้นปีหน้า แถมจะลดการผลิตโรงงานประกอบรถยนต์อเนกประสงค์ลงด้วย
สิริรวมแล้วทั้งหมดนี้จะทำให้กำลังประกอบการผลิตรถยนต์ของ GM เลิกผลิตรถยนต์ถึงหนึ่งล้านคัน หรือเทียบได้ 19 เปอร์เซ็นต์ ทำให้จำนวนการผลิตรถยนต์ของ GM เหลือแค่ 4.2 ล้านคันเท่านั้น
ไม่พอเท่านั้น GM ยังจะปิดศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ลงอีก 3 แห่ง
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ทำให้บริษัทขาดทุนไป 4 หมื่น 8 พันล้านเหรียญในอเมริกาในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ครับ
ผู้บริหาร GM ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เมื่อไรที่ GM จะฟื้นตัวและมองเห็นกำไรอีกครั้ง แต่เขาเลี่ยงไปตอบว่า การตัดสินใจคราวนี้เป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ GM และจะช่วยให้ GM ยกระดับในด้านการปฏิบัติการด้วยซ้ำไป
ความจริงแล้วหุ้นของ GM ตกต่ำสุดตั้งแต่ปี 1987 แต่หลังจากมีข่าวนี้ หุ้นก็กระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เพราะว่านักลงทุนมองว่า การตัดต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายลงน่าจะเป็นผลดี
กระนั้นก็ตามหุ้น GM นั้นตกลงมาถึง 41 เปอร์เซ็นต์จากที่เคยขึ้นสูงในรอบหนึ่งปี
คำประกาศของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดจากสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์นี้ว่า จะปิดโรงงานประกอบรถยนต์ถึง 9 แห่งในอเมริกาเพื่อตัดรายจ่าย รวมทั้งเพื่อลดต้นทุนให้บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ ประหยัดเงินนับ 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ดูจะไม่พอด้วยซ้ำ
แต่บริษัทยังโละพนักงานอีกกว่า 3 หมื่นกว่าตำแหน่งลงพร้อมๆ กันด้วย
ทั้งนี้จากคำแถลงจากหัวหน้าฝ่ายบริหาร นายริค แวคกอนเนอร์ ซึ่งชี้ว่า ทุกอย่างต้องเรียบร้อยภายในปลายปีหน้าเป็นอย่างช้าครับ
ทั้งนี้คำแถลงของ GM อย่างเป็นทางการนี้เกิดขึ้นจากการประชุมนักข่าวที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทว่าเหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อลดต้นทุนในการปิดโรงงานหลายแห่งดังกล่าวแล้ว และเขาชี้ด้วยว่าทางสหภาพแรงงานผู้ประกอบรถยนต์กำลังมีโครงการที่จะซื้อตัวแรงงานที่อาจทำงานโดยรับค่าจ้างเต็ม แม้ว่าจะถูกเลิกจ้างไป
ผู้บริหารสูงสุดของ GM ยังบอกด้วยว่า อาจต้องลดพนักงานลงอีกร้อยละ 7 ในปีหน้า ทำให้มีพนักงานลดจำนวนลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา
GM นั้น มีแผนการผลิตรถยนต์แค่ล้านคันต่อปี ในขณะที่คู่แข่งที่สำคัญในอเมริกาคือ โตโยต้านั้นกำลังมีแผนขยายงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหวังครองตำแหน่งที่หนึ่งของโลกในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ภายในปีหน้า
แต่นายริค แวคกอนเนอร์นั้น ก็พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า เราไม่ยอมแพ้ใครแน่นอนที่สุด เพราะว่าทางบริษัทของเรามีกำลังการผลิตเหลือเฟืออยู่แล้วทั่วโลก
GM นั้นได้ขยายกำลังการผลิตนอกประเทศไปมากโดยเฉพาะในประเทศจีน แต่ในอเมริกานั้นมีความจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตลง เพราะว่าต้องปิดโรงงานที่ไม่มีความจำเป็นเพื่อลดค่าใช้จ่ายซึ่งทำให้ต้องลดจำนวนพนักงานลงโดยอัตโนมัติ
แน่นอนว่า GM คงต้องปะทะกับสหภาพแรงงานอีกหลายยก ภายในปี 2007 ครับ
เหตุผลส่วนหนึ่งที่การต่อสู้ระหว่าง GM กับสหภาพแรงงานคงดุเดือดเป็นเพราะมันมีข้อตกลงร่วมกันอยู่ว่า GM นั้นห้ามปิดโรงงานอยู่ในสัญญาที่ตกลงกันไว้ พนักงานที่ตกงานเพราะโรงงานถูกปิดหรือหยุดชั่วคราวจะต้องได้รับค่าจ้างตามเงินเดือนเต็มและได้รับเงินชดเชยหรือสวัสดิการเต็มจำนวนด้วย
ประธานสหภาพแรงงานริชาร์ด ชูเมคเกอร์ กล่าวต่อปฏิกิริยาของฝ่ายนายจ้างว่า น่าผิดหวังที่สุด และไม่ยุติธรรมต่อลูกจ้าง แม้ว่าหุ้นของ GM จะตกต่ำลงในตลาดทุน แต่ก็ไม่ได้เป็นความผิดพลาดที่มาจากพนักงาน และทางสหภาพจะปกป้องบรรดาสมาชิกให้ได้ผลประโยชน์ที่พึงได้รับ รวมทั้งจะรักษาตำแหน่งงานไว้ให้ได้ รวมทั้งต้องประกันรายได้ให้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย
แม้ว่าผู้บริหาร GM เลี่ยงที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับสหภาพตั้งแต่เกิดการนัดหยุดงานที่ทำให้ GM เสียหาย ด้านการเงินไปเยอะมากในช่วงปี 1998 และทางตลาดทุนที่วอลล์สตรีทก็วิตกมากว่า GM กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์รอบใหม่กับภาวะวิกฤตด้านแรงงานอีกครั้ง
แน่นอนว่าตลาดทุนเล็งผลร้ายว่าการผลิตของ GM จะมีปัญหาแน่นอน หากสถานการณ์เลวร้ายตามที่คาดหมาย
ถ้าปลดพนักงานลงและปิดโรงงานเท่ากับว่า GM กำลังถดถอยในตลาดของประเทศตัวเอง ซึ่งเวลานี้ตลาดรถยนต์ก็เหลือแค่ 26.4 เปอร์เซ็นต์ หรือลดจาก 40 เปอร์เซ็นต์ในช่วงต้นปี 1980
กระนั้นก็ตาม GM ยังแย้มว่า อาจต้องปิดโรงงานเพิ่มอีก 4 โรง ในปี 2008 ทั้งหมดเป็นโรงงานประกอบรถยนต์สปอร์ตขนาดกลางในเมืองโอคลาโอมาและโรงงานผลิตรถมินิแวนในโดราวิลล์ มลรัฐจอร์เจีย และโรงงานเล็กๆ ในเมืองแลนซิง มลรัฐมิชิแกน ที่ผลิตรถแบบพิเศษ ส่วนโรงงานที่ 4 อยู่ที่โรงงานโอชาวา ออนตาริโอ
GM ยังคิดมีแผนที่จะให้โรงงานอีกแห่งหนึ่งที่เทนเนสซีหยุดประกอบรถยนต์ไว้พลางก่อนถึงสองส่วนภายในสิ้นปีหน้า แถมจะลดการผลิตโรงงานประกอบรถยนต์อเนกประสงค์ลงด้วย
สิริรวมแล้วทั้งหมดนี้จะทำให้กำลังประกอบการผลิตรถยนต์ของ GM เลิกผลิตรถยนต์ถึงหนึ่งล้านคัน หรือเทียบได้ 19 เปอร์เซ็นต์ ทำให้จำนวนการผลิตรถยนต์ของ GM เหลือแค่ 4.2 ล้านคันเท่านั้น
ไม่พอเท่านั้น GM ยังจะปิดศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ลงอีก 3 แห่ง
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ทำให้บริษัทขาดทุนไป 4 หมื่น 8 พันล้านเหรียญในอเมริกาในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ครับ
ผู้บริหาร GM ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เมื่อไรที่ GM จะฟื้นตัวและมองเห็นกำไรอีกครั้ง แต่เขาเลี่ยงไปตอบว่า การตัดสินใจคราวนี้เป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ GM และจะช่วยให้ GM ยกระดับในด้านการปฏิบัติการด้วยซ้ำไป
ความจริงแล้วหุ้นของ GM ตกต่ำสุดตั้งแต่ปี 1987 แต่หลังจากมีข่าวนี้ หุ้นก็กระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เพราะว่านักลงทุนมองว่า การตัดต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายลงน่าจะเป็นผลดี
กระนั้นก็ตามหุ้น GM นั้นตกลงมาถึง 41 เปอร์เซ็นต์จากที่เคยขึ้นสูงในรอบหนึ่งปี