สมาคมเคเบิลทีวีฯมีมติร่วมยืนยัน ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ได้ตามปกติหากเห็นว่าเหมาะสม เพราะกรมกร๊วกแค่แจ้งเตือนไม่ได้ระบุให้งดแพร่ภาพรายการใด ส่วนกรณี “เมืองไทยรายสัปดาห์” ยอดฮิตให้เป็นดุลยพินิจของเคเบิลแต่ละแห่งบนหลักการถ่ายทอดด้วยความระมัดระวังรอบคอบไม่พาดพิง“นายกฯทักษิณ” ใน 5 ประเด็นที่ศาลสั่งคุ้มครอง เผย KCTV เคเบิลทีวี ของนายกสมาคมฯ ยังยืนหยัดถ่ายทอดรายการ “สนธิ” เปิดหูเปิดตาให้กับชาวโคราชเช่นเดิม พร้อมออกหนังสือเวียนทั่วประเทศย้ำจุดยืนสื่อเสรี-เป็นกลาง
วานนี้ ( 18 พ.ย.) นายบำรุง วสันต์กรณ์ นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เฉินเจียนวันเจริญ จำกัด ผู้ให้บริการโทรทัศน์ตอบรับสมาชิกหรือ เคเบิลทีวี “KCTV”ในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการประชุมของกรรมการและที่ปรึกษาด้านกฎหมายของสมาคมฯว่า ที่ประชุมได้หารือ 2 เรื่องหลักคือ กรณีที่ กรมประชาสัมพันธ์ ทำหนังสือเรื่อง การแจ้งเตือนระงับการแพร่ภาพรายการที่ไม่เหมาะสม ที่ นร. 0205/6559 ลงวันที่ 16 พ.ย. 2548 ถึงผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นทุกแห่ง และกรณีมีคำสั่งคุ้มครองจากศาลชั่วคราวมิให้ผู้ดำเนินรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ที่เผยแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่อง NEWS 1 พูดพาดพิงให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี)
“ที่ประชุมมีความเห็นว่า กรณีหนังสือกรมประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่คำสั่งให้หยุดแพร่ภาพแต่เป็นการแจ้งเตือนไม่ให้แพร่ภาพรายการที่ไม่เหมาะสม และไม่ได้ระบุรายการใดเป็นการชัดเจน ดังนั้นผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นทุกรายสามารถแพร่ภาพรายการของตัวเองได้ตามปกติ”
ส่วนกรณีที่มีคำสั่งจากศาลชั่วคราว มิให้ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ พูดพาดพิงให้เกิดความเสียหายแก่โจทย์ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องในสำนวนคดี 5 ประเด็นหลัก คือ เรื่องการขอสัมปทานดาวเทียม การวิ่งเต้นขอสัมปทานดาวเทียมไทยคม การเอื้อประโยชน์ให้แก่เครือญาติและพวกพ้อง การวิ่งเต้นสัมปทานระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 900 และการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตน ผู้ประกอบเคเบิลทีวีท้องถิ่นต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเผยแพร่รายการและผู้ดำเนินการรายการพูดพาดพิง ถึงเรื่องที่ศาลคุ้มครอง ผู้ประกอบการอาจถูกฟ้องร้องได้ในฐานะผู้เผยแพร่โฆษณา
**เคเบิลนายกสมาคมฯยืนหยัดถ่ายทอด“เมืองไทยฯ”
นายบำรุง กล่าวต่อว่า ในส่วนเคเบิลทีวีของตนคือ KCTV ซึ่งให้บริการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกในจ.นครราชสีมา นั้น ยังคงจะถ่ายทอดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียว ASTV ต่อไป รวมทั้งรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ บนหลักการที่รายการหรือผู้ดำเนินการรายไม่พูดพาดพิง ในประเด็นที่ศาลคุ้มครองโจทก์ไว้
ล่าสุด วานนี้ ( 18 พ.ย.) ณ เวลา 17.30 น. จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า เคเบิลทีวีท้องถิ่นรายใหญ่ 2 ราย คือ KCTV กับ DTV เคเบิลทีวี ที่ให้บริการในพื้นที่เขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ยังคงถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ ASTV ช่อง NEWS 1 รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ในช่วงชมการแสดงดนตรี โดยยังไม่มีการตัดสัญญาณเกิดขึ้น
ยึดมั่นจุดยืนสื่อเสรี-เป็นกลาง
ทางสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ได้ออกหนังสือถึงสมาชิกทุกคนทั่วประเทศระบุว่า
“ตามที่กรมประชาสัมพันธ์ได้มีหนังสือถึงผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ในเครือข่ายของกรมประชาสัมพันธ์ เรื่อง การแจ้งเตือนให้ระงับการแพร่ภาพรายการไม่เหมาะสมตามหนังสือที่อ้างถึง นั้น สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยในฐานะของตัวแทนผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทั่วประเทศ ขอชี้แจงให้ท่านสมาชิกทุกท่านได้ทราบถึงจุดยืนในการดำเนินการของสมาคมฯ ดังนี้
-ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ถือเป็นสื่อมวลชนแขนงหนึ่งที่มีหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนโดยเสรีด้วยความเป็นกลาง ตามบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ดี
-ในการประกอบการของสมาชิกสมาคม มีหลักการเพื่อให้สมาชิกถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดกล่าวคือ
-ไม่เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร
-ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์รายการของผู้อื่น
-ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
กรณีการออกคำสั่งของกรมประชาสัมพันธ์นั้น เป็นการแจ้งเตือนให้ระงับการแพร่ภาพรายการที่ไม่เหมาะสมซึ่งมีรายการหนึ่งที่สมาชิกเผยแพร่อยู่ คือรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่ผู้ดำเนินรายการถูกฟ้อง และมีคำสั่งคุ้มครองจากศาลชั่วคราวมิให้ผู้ดำเนินรายการพูดพาดพิงให้เกิดความเสียหายแก่โจทย์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องในสำนวนคดี
การเผยแพร่รายการนี้ สมาคมฯ ได้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ศาลปกครองแล้วเห็นว่า หากท่านเผยแพร่รายการและผู้ดำเนินรายการพูดพาดพิงถึงเรื่องที่ศาลคุ้มครอง ท่านอาจถูกฟ้องร้องได้ในฐานะผู้เผยแพร่โฆษณา จึงขอให้ท่านพิจารณาเผยแพร่รายการนี้อย่างรอบคอบ”
**เคเบิลทั่วประเทศร้อยละ 99
งดแพร่ภาพ “เมืองไทยรายสัปดาห์”
ผู้สื่อข่าว “ผู้จัดการรายวัน” รายงานว่า เคเบิลท้องถิ่นที่มีอยู่ทั่วประเทศ ประมาณ 150 ราย ได้หยุดการแพร่ภาพรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรแล้ว ทั้งๆที่ สมาคมเคเบิลฯมีมติสรุปออกมาอย่างเป็นทางการว่า เคเบิลท้องถิ่นสามารถแพร่ภาพรายการ
บรรดาผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ได้รับโทรศัพท์ต่อว่าจากสมาชิกเคเบิลทีวีต่างๆ ที่ไม่แพร่ภาพรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรเช่นปกติ เพราะติดขัดที่หนังสือเตือนของกรมประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการไม่ให้แพร่ภาพ
ขณะที่เคเบิลท้องถิ่นบางแห่ง ต้องขึ้นหนังสือประกาศเตือนดังกล่าว ผ่านสัญญาณเคเบิลทีวี เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ ถึงสาเหตุที่ต้องตัดสัญญาณดังกล่าว
ที่ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันภาคตะวันออก (ศรีราชา) ตลอดทั้งวันก็ได้รับการสอบถามจากประชาชนในจังหวัดชลบุรี ระยอง และจังหวัดตราด เกี่ยวกับที่ตั้งสำนักงาน เพื่อสอบถามเรื่องการรับชมรายการดังกล่าว และให้กำลังใจนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ขณะเดียวกันยังประกาศขอรับรู้ข้อมูลอีกด้านของรัฐบาลด้วย
**ทรท.กดดัน “เคเบิลตราด”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ตราดว่า มีตัวแทนของพรรคไทยรักไทย ประกอบด้วย นายเอนก ทองย้อย ทนายความของนายสิงหา สง่าศิลป์ อดีตผู้สมัครสส.ตราดพรรคไทยรักไทย ,นายสมเกียรติ สว่างไสว นักธุรกิจใหญ่ ของ จ.ตราด และตัวแทนธุรกิจในเครือซีพี ได้ขอพบนายสมชาย วิสัยงาม ผู้จัดการและเจ้าของแสงสยามเคเบิลทีวี และขอความร่วมมือให้หยุดแพร่ภาพ ASTV และรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
นอกจากนี้ พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด ได้เดินทางเข้าพบนายสมชาย วิสัยงาม เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 พร้อมร้องขอให้ยุติการแพร่ภาพรายการเมืองไทยรายสัปดาห์และ ASTV
นายสมชาย เปิดเผยว่า รู้สึกอึดอัดใจกับสิ่งที่บุคคลทั้งสามได้ขอร้องและขอความร่วมมือในการยุติการ แพร่ภาพ ASTV รวมทั้งเมืองไทยรายสัปดาห์
สำหรับชาวตราดส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย กับการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ขอให้ศาลยุติการ แพร่ภาพเมืองไทยรายสัปดาห์
**เชียงใหม่ป่วน.. โดนสั่งห้ามใช้พื้นที่กะทันหัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า เดิม ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและโทรทัศน์ NEWS1 ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับชมรมสื่อเสรีเชียงใหม่ กำหนดจัดถ่ายทอดสด ที่ บริเวณลานจอดรถข้างอาคารภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ แต่เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อย ปรากฏว่า อธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ สั่งงดการใช้สถานที่อย่างกะทันหัน จนต้องย้ายไปถ่ายทอดบริเวณ หน้าศูนย์ข่าวเชียงใหม่ อาคารศรีอนันต์ซิตี้แทน
**ศูนย์ภูเก็ตคนล้นจนต้องปรับแผน
สำหรับบรรยากาศการถ่ายทอดสด รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่จังหวัดภูเก็ต มี 2 จุด คือ จุดแรก ที่ ศูนย์ข่าวภูเก็ต ที่อยู่บนถนนภูเก็ต ตรงข้ามห้องสมุดประชาชน และจุดที่ 2 บริเวณชุมชนบ้านมอญ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ปรากฏว่า มีประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง สนใจมาชมการถ่ายทอดสดจำนวนมาก
**หาดใหญ่เปิดถ่ายทอด 5 จุดพร้อมกัน
ด้านอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีการถ่ายทอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้ง ที่ 9 ถึง 5 จุด ประกอบด้วย 1.ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์และสื่อในเครือผู้จัดการ ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ (ข้างสำนักงาน ททท.ภาคใต้เขต 1) 7/2 ถ.นิพัทธ์อุทิศ 3 ซ.2 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชมผ่านทีวีของศูนย์ข่าว 2.ที่วิทยาลัยวันศุกร์ คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (มอ.หาดใหญ่) ชมผ่านจอโปรเจคเตอร์ 3.ที่ร้านธำรงค์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งอยู่ในตลาดเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ชมผ่านทีวี
4.ที่ร้านไวไฟวีดีโอ ตั้งอยู่ในตลาดเทศบาลตำบลนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ชมผ่านทีวี 5.ลานกลางแจ้ง บริเวณหลังสถานีรถไฟหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมกับ เปิดวีซีดี สารคดีความล้มเหลวในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะการไฟฟ้า ให้ประชาชนได้เห็นถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นด้วย
**ศรีราชา-ขอนแก่นคนล้นหลาม
ส่วนที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ศูนย์ข่าวผู้จัดการ ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอศรีราชา เป็นจุดที่มีการถ่ายทอดสดรายการ ผ่านจานรับดาวเทียม ASTV จากความร่วมมือหลายๆฝ่าย ชาวศรีราชาและใกล้เคียงได้เดินทางมาร่วมรับชมรายการพร้อมกับประชาชนทั่วประเทศด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เสื้อและวีซีดี ได้รับการสั่งจองจากประชาชนจำนวนมาก
ขณะที่ จ.ขอนแก่น ศูนย์ข่าวฯ ได้ตั้งจอโปรเจ็คเตอร์ให้แฟนรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่เคยรับชมจากเคเบิลทีวีท้องถิ่นผ่าน ASTV NEWS 1และผู้สนใจสถานการณ์บ้านเมืองทั่วไปได้รับชม บริเวณด้านหน้าสำนักงานศูนย์ข่าวฯเลขที่ 433/22 ถ.มิตรภาพ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านโนนม่วง เยื้องปั๊มน้ำมันบางจาก)โดยปรากฏว่า ก็มีสภาพเหมืองทุกจุดที่มีการถ่ายทอด คือ มีประชาชนให้ความสนใจชมการถ่ายทอดเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลสั่งสันติบาล-ข่าวกรองฯจับตาช่องทาง-คนดูเมืองไทยรายสัปดาห์ทั่วปท.
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และตำรวจสันติบาลทุกจุดทั่วประเทศ ได้รับคำสั่งใหม่จากหน่วยเหนือ ให้เป็นแม่งานหลักในการตรวจสอบช่องทางการเผยแพร่รายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ในช่องทางอื่น ๆ หลังจากที่มีคำสั่งไม่ให้เคเบิลทีวี.ทั่วประเทศ 513 แห่ง ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV-รายการเมืองไทยรายสัปดาห์
โดยมีการตั้งหัวข้อให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 หน่วยอย่างละเอียด เพื่อนำไปประเมินสถานการณ์ต่อไป ในการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงของแต่ละจังหวัด ตลอดระยะหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะมีการหยิบยกกรณีของ “เมืองไทยรายสัปดาห์” เข้าหารือในที่ประชุมเป็นประจำทุกครั้ง
**เคเบิลพัทยาตั้งโปรเจ็คเตอร์หน้าออฟฟิศ
เนื่องจากบริษัทโสภณเคเบิลทีวีพัทยา ได้รับคำสั่งจากกรมประชาสัมพันธ์ให้ตัดสัญญาณช่องเคเบิล ASTV ซึ่งดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ กระแสดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าและสมาชิกจำนวนมาก ในที่สุดนายชาญยุทธ เฮงตระกูล ส.ส.เขต 6 ชลบุรี พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท โสภณ เคเบิล ทีวี พัทยา ได้ติดตั้งจอโปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ บริเวณใกล้เคียงอาคาร เพื่อเผยแพร่ภาพรายการเมืองไทยรายสัปดาห์อย่างเร่งด่วน
บริษัทเคเบิล ซีทีวี ชลบุรี จำกัด ซึ่งแพร่ภาพเคเบิล ในเขตพื้นที่คาบเกี่ยวในส่วนของอำเภอเมืองชลบุรี และอำเภอใกล้เคียง มีกระแสความต้องการของสมาชิกเรียกร้องให้ออกอากาศรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 9 อย่างเนื่องแน่นตลอดทั้งวัน จนผู้บริหารระดับสูงต้องมีคำสั่งให้เผยแพร่ภาพรายการในทันที แต่ปรากฏว่าเมื่อออกอากาศไปเพียง 15 นาทีเท่านั้น ได้มีอำนาจมืดโทรศัพท์สายตรงไปสั่งระงับการออกอากาศในทันทีทันทันใด จนบริษัทต้องหยุดการเผยแพร่ภาพ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าและสมาชิกเป็นจำนวนมาก
**เจิมศักดิ์ชี้ต้องมีเสรีภาพ
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กทม กล่าวว่าคำกล่าวอ้างของนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ระบุว่าการสั่งปิดเคเบิลทีวีที่ถ่ายทอดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ที่ใช้ พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498 มาตรา 5 ฟังไม่ขึ้นเพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยที่ตนยังเด็ก ขณะที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาตรา 39 ที่ระบุว่าบุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความ คิดเห็นการพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพตามวรรค 1 จะกระทำมิได้ และในมาตรา 41 ก็ได้ระบุไว้ว่าพนักงานโดยลูกจ้างของเอกชนที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์ ย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็นภายใต้ข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าของกิจการนั้น
วานนี้ ( 18 พ.ย.) นายบำรุง วสันต์กรณ์ นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เฉินเจียนวันเจริญ จำกัด ผู้ให้บริการโทรทัศน์ตอบรับสมาชิกหรือ เคเบิลทีวี “KCTV”ในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการประชุมของกรรมการและที่ปรึกษาด้านกฎหมายของสมาคมฯว่า ที่ประชุมได้หารือ 2 เรื่องหลักคือ กรณีที่ กรมประชาสัมพันธ์ ทำหนังสือเรื่อง การแจ้งเตือนระงับการแพร่ภาพรายการที่ไม่เหมาะสม ที่ นร. 0205/6559 ลงวันที่ 16 พ.ย. 2548 ถึงผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นทุกแห่ง และกรณีมีคำสั่งคุ้มครองจากศาลชั่วคราวมิให้ผู้ดำเนินรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ที่เผยแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่อง NEWS 1 พูดพาดพิงให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี)
“ที่ประชุมมีความเห็นว่า กรณีหนังสือกรมประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่คำสั่งให้หยุดแพร่ภาพแต่เป็นการแจ้งเตือนไม่ให้แพร่ภาพรายการที่ไม่เหมาะสม และไม่ได้ระบุรายการใดเป็นการชัดเจน ดังนั้นผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นทุกรายสามารถแพร่ภาพรายการของตัวเองได้ตามปกติ”
ส่วนกรณีที่มีคำสั่งจากศาลชั่วคราว มิให้ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ พูดพาดพิงให้เกิดความเสียหายแก่โจทย์ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องในสำนวนคดี 5 ประเด็นหลัก คือ เรื่องการขอสัมปทานดาวเทียม การวิ่งเต้นขอสัมปทานดาวเทียมไทยคม การเอื้อประโยชน์ให้แก่เครือญาติและพวกพ้อง การวิ่งเต้นสัมปทานระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 900 และการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตน ผู้ประกอบเคเบิลทีวีท้องถิ่นต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเผยแพร่รายการและผู้ดำเนินการรายการพูดพาดพิง ถึงเรื่องที่ศาลคุ้มครอง ผู้ประกอบการอาจถูกฟ้องร้องได้ในฐานะผู้เผยแพร่โฆษณา
**เคเบิลนายกสมาคมฯยืนหยัดถ่ายทอด“เมืองไทยฯ”
นายบำรุง กล่าวต่อว่า ในส่วนเคเบิลทีวีของตนคือ KCTV ซึ่งให้บริการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกในจ.นครราชสีมา นั้น ยังคงจะถ่ายทอดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียว ASTV ต่อไป รวมทั้งรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ บนหลักการที่รายการหรือผู้ดำเนินการรายไม่พูดพาดพิง ในประเด็นที่ศาลคุ้มครองโจทก์ไว้
ล่าสุด วานนี้ ( 18 พ.ย.) ณ เวลา 17.30 น. จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า เคเบิลทีวีท้องถิ่นรายใหญ่ 2 ราย คือ KCTV กับ DTV เคเบิลทีวี ที่ให้บริการในพื้นที่เขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ยังคงถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ ASTV ช่อง NEWS 1 รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ในช่วงชมการแสดงดนตรี โดยยังไม่มีการตัดสัญญาณเกิดขึ้น
ยึดมั่นจุดยืนสื่อเสรี-เป็นกลาง
ทางสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ได้ออกหนังสือถึงสมาชิกทุกคนทั่วประเทศระบุว่า
“ตามที่กรมประชาสัมพันธ์ได้มีหนังสือถึงผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ในเครือข่ายของกรมประชาสัมพันธ์ เรื่อง การแจ้งเตือนให้ระงับการแพร่ภาพรายการไม่เหมาะสมตามหนังสือที่อ้างถึง นั้น สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยในฐานะของตัวแทนผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทั่วประเทศ ขอชี้แจงให้ท่านสมาชิกทุกท่านได้ทราบถึงจุดยืนในการดำเนินการของสมาคมฯ ดังนี้
-ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ถือเป็นสื่อมวลชนแขนงหนึ่งที่มีหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนโดยเสรีด้วยความเป็นกลาง ตามบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ดี
-ในการประกอบการของสมาชิกสมาคม มีหลักการเพื่อให้สมาชิกถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดกล่าวคือ
-ไม่เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร
-ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์รายการของผู้อื่น
-ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
กรณีการออกคำสั่งของกรมประชาสัมพันธ์นั้น เป็นการแจ้งเตือนให้ระงับการแพร่ภาพรายการที่ไม่เหมาะสมซึ่งมีรายการหนึ่งที่สมาชิกเผยแพร่อยู่ คือรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่ผู้ดำเนินรายการถูกฟ้อง และมีคำสั่งคุ้มครองจากศาลชั่วคราวมิให้ผู้ดำเนินรายการพูดพาดพิงให้เกิดความเสียหายแก่โจทย์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องในสำนวนคดี
การเผยแพร่รายการนี้ สมาคมฯ ได้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ศาลปกครองแล้วเห็นว่า หากท่านเผยแพร่รายการและผู้ดำเนินรายการพูดพาดพิงถึงเรื่องที่ศาลคุ้มครอง ท่านอาจถูกฟ้องร้องได้ในฐานะผู้เผยแพร่โฆษณา จึงขอให้ท่านพิจารณาเผยแพร่รายการนี้อย่างรอบคอบ”
**เคเบิลทั่วประเทศร้อยละ 99
งดแพร่ภาพ “เมืองไทยรายสัปดาห์”
ผู้สื่อข่าว “ผู้จัดการรายวัน” รายงานว่า เคเบิลท้องถิ่นที่มีอยู่ทั่วประเทศ ประมาณ 150 ราย ได้หยุดการแพร่ภาพรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรแล้ว ทั้งๆที่ สมาคมเคเบิลฯมีมติสรุปออกมาอย่างเป็นทางการว่า เคเบิลท้องถิ่นสามารถแพร่ภาพรายการ
บรรดาผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ได้รับโทรศัพท์ต่อว่าจากสมาชิกเคเบิลทีวีต่างๆ ที่ไม่แพร่ภาพรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรเช่นปกติ เพราะติดขัดที่หนังสือเตือนของกรมประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการไม่ให้แพร่ภาพ
ขณะที่เคเบิลท้องถิ่นบางแห่ง ต้องขึ้นหนังสือประกาศเตือนดังกล่าว ผ่านสัญญาณเคเบิลทีวี เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ ถึงสาเหตุที่ต้องตัดสัญญาณดังกล่าว
ที่ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันภาคตะวันออก (ศรีราชา) ตลอดทั้งวันก็ได้รับการสอบถามจากประชาชนในจังหวัดชลบุรี ระยอง และจังหวัดตราด เกี่ยวกับที่ตั้งสำนักงาน เพื่อสอบถามเรื่องการรับชมรายการดังกล่าว และให้กำลังใจนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ขณะเดียวกันยังประกาศขอรับรู้ข้อมูลอีกด้านของรัฐบาลด้วย
**ทรท.กดดัน “เคเบิลตราด”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ตราดว่า มีตัวแทนของพรรคไทยรักไทย ประกอบด้วย นายเอนก ทองย้อย ทนายความของนายสิงหา สง่าศิลป์ อดีตผู้สมัครสส.ตราดพรรคไทยรักไทย ,นายสมเกียรติ สว่างไสว นักธุรกิจใหญ่ ของ จ.ตราด และตัวแทนธุรกิจในเครือซีพี ได้ขอพบนายสมชาย วิสัยงาม ผู้จัดการและเจ้าของแสงสยามเคเบิลทีวี และขอความร่วมมือให้หยุดแพร่ภาพ ASTV และรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
นอกจากนี้ พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด ได้เดินทางเข้าพบนายสมชาย วิสัยงาม เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 พร้อมร้องขอให้ยุติการแพร่ภาพรายการเมืองไทยรายสัปดาห์และ ASTV
นายสมชาย เปิดเผยว่า รู้สึกอึดอัดใจกับสิ่งที่บุคคลทั้งสามได้ขอร้องและขอความร่วมมือในการยุติการ แพร่ภาพ ASTV รวมทั้งเมืองไทยรายสัปดาห์
สำหรับชาวตราดส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย กับการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ขอให้ศาลยุติการ แพร่ภาพเมืองไทยรายสัปดาห์
**เชียงใหม่ป่วน.. โดนสั่งห้ามใช้พื้นที่กะทันหัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า เดิม ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและโทรทัศน์ NEWS1 ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับชมรมสื่อเสรีเชียงใหม่ กำหนดจัดถ่ายทอดสด ที่ บริเวณลานจอดรถข้างอาคารภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ แต่เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อย ปรากฏว่า อธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ สั่งงดการใช้สถานที่อย่างกะทันหัน จนต้องย้ายไปถ่ายทอดบริเวณ หน้าศูนย์ข่าวเชียงใหม่ อาคารศรีอนันต์ซิตี้แทน
**ศูนย์ภูเก็ตคนล้นจนต้องปรับแผน
สำหรับบรรยากาศการถ่ายทอดสด รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่จังหวัดภูเก็ต มี 2 จุด คือ จุดแรก ที่ ศูนย์ข่าวภูเก็ต ที่อยู่บนถนนภูเก็ต ตรงข้ามห้องสมุดประชาชน และจุดที่ 2 บริเวณชุมชนบ้านมอญ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ปรากฏว่า มีประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง สนใจมาชมการถ่ายทอดสดจำนวนมาก
**หาดใหญ่เปิดถ่ายทอด 5 จุดพร้อมกัน
ด้านอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีการถ่ายทอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้ง ที่ 9 ถึง 5 จุด ประกอบด้วย 1.ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์และสื่อในเครือผู้จัดการ ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ (ข้างสำนักงาน ททท.ภาคใต้เขต 1) 7/2 ถ.นิพัทธ์อุทิศ 3 ซ.2 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชมผ่านทีวีของศูนย์ข่าว 2.ที่วิทยาลัยวันศุกร์ คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (มอ.หาดใหญ่) ชมผ่านจอโปรเจคเตอร์ 3.ที่ร้านธำรงค์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งอยู่ในตลาดเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ชมผ่านทีวี
4.ที่ร้านไวไฟวีดีโอ ตั้งอยู่ในตลาดเทศบาลตำบลนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ชมผ่านทีวี 5.ลานกลางแจ้ง บริเวณหลังสถานีรถไฟหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมกับ เปิดวีซีดี สารคดีความล้มเหลวในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะการไฟฟ้า ให้ประชาชนได้เห็นถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นด้วย
**ศรีราชา-ขอนแก่นคนล้นหลาม
ส่วนที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ศูนย์ข่าวผู้จัดการ ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอศรีราชา เป็นจุดที่มีการถ่ายทอดสดรายการ ผ่านจานรับดาวเทียม ASTV จากความร่วมมือหลายๆฝ่าย ชาวศรีราชาและใกล้เคียงได้เดินทางมาร่วมรับชมรายการพร้อมกับประชาชนทั่วประเทศด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เสื้อและวีซีดี ได้รับการสั่งจองจากประชาชนจำนวนมาก
ขณะที่ จ.ขอนแก่น ศูนย์ข่าวฯ ได้ตั้งจอโปรเจ็คเตอร์ให้แฟนรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่เคยรับชมจากเคเบิลทีวีท้องถิ่นผ่าน ASTV NEWS 1และผู้สนใจสถานการณ์บ้านเมืองทั่วไปได้รับชม บริเวณด้านหน้าสำนักงานศูนย์ข่าวฯเลขที่ 433/22 ถ.มิตรภาพ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านโนนม่วง เยื้องปั๊มน้ำมันบางจาก)โดยปรากฏว่า ก็มีสภาพเหมืองทุกจุดที่มีการถ่ายทอด คือ มีประชาชนให้ความสนใจชมการถ่ายทอดเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลสั่งสันติบาล-ข่าวกรองฯจับตาช่องทาง-คนดูเมืองไทยรายสัปดาห์ทั่วปท.
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และตำรวจสันติบาลทุกจุดทั่วประเทศ ได้รับคำสั่งใหม่จากหน่วยเหนือ ให้เป็นแม่งานหลักในการตรวจสอบช่องทางการเผยแพร่รายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ในช่องทางอื่น ๆ หลังจากที่มีคำสั่งไม่ให้เคเบิลทีวี.ทั่วประเทศ 513 แห่ง ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV-รายการเมืองไทยรายสัปดาห์
โดยมีการตั้งหัวข้อให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 หน่วยอย่างละเอียด เพื่อนำไปประเมินสถานการณ์ต่อไป ในการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงของแต่ละจังหวัด ตลอดระยะหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะมีการหยิบยกกรณีของ “เมืองไทยรายสัปดาห์” เข้าหารือในที่ประชุมเป็นประจำทุกครั้ง
**เคเบิลพัทยาตั้งโปรเจ็คเตอร์หน้าออฟฟิศ
เนื่องจากบริษัทโสภณเคเบิลทีวีพัทยา ได้รับคำสั่งจากกรมประชาสัมพันธ์ให้ตัดสัญญาณช่องเคเบิล ASTV ซึ่งดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ กระแสดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าและสมาชิกจำนวนมาก ในที่สุดนายชาญยุทธ เฮงตระกูล ส.ส.เขต 6 ชลบุรี พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท โสภณ เคเบิล ทีวี พัทยา ได้ติดตั้งจอโปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ บริเวณใกล้เคียงอาคาร เพื่อเผยแพร่ภาพรายการเมืองไทยรายสัปดาห์อย่างเร่งด่วน
บริษัทเคเบิล ซีทีวี ชลบุรี จำกัด ซึ่งแพร่ภาพเคเบิล ในเขตพื้นที่คาบเกี่ยวในส่วนของอำเภอเมืองชลบุรี และอำเภอใกล้เคียง มีกระแสความต้องการของสมาชิกเรียกร้องให้ออกอากาศรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 9 อย่างเนื่องแน่นตลอดทั้งวัน จนผู้บริหารระดับสูงต้องมีคำสั่งให้เผยแพร่ภาพรายการในทันที แต่ปรากฏว่าเมื่อออกอากาศไปเพียง 15 นาทีเท่านั้น ได้มีอำนาจมืดโทรศัพท์สายตรงไปสั่งระงับการออกอากาศในทันทีทันทันใด จนบริษัทต้องหยุดการเผยแพร่ภาพ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าและสมาชิกเป็นจำนวนมาก
**เจิมศักดิ์ชี้ต้องมีเสรีภาพ
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กทม กล่าวว่าคำกล่าวอ้างของนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ระบุว่าการสั่งปิดเคเบิลทีวีที่ถ่ายทอดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ที่ใช้ พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498 มาตรา 5 ฟังไม่ขึ้นเพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยที่ตนยังเด็ก ขณะที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาตรา 39 ที่ระบุว่าบุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความ คิดเห็นการพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพตามวรรค 1 จะกระทำมิได้ และในมาตรา 41 ก็ได้ระบุไว้ว่าพนักงานโดยลูกจ้างของเอกชนที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์ ย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็นภายใต้ข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าของกิจการนั้น