ม็อบต้านแปรรูป กฟผ.เดือด กลุ่มคัดค้านปะทะตำรวจ ม็อบบาดเจ็บ ขณะที่ "เอกยุทธ-สมาน" สับเละยืนศาลปกครองแค่เกมการเมืองประวิงเวลาแล้วเดินหน้าต่อ ลั่น "ทักษิณ" ต้องคืนอำนาจให้ในหลวงแล้วตั้งรัฐบาลพระราชทานดูแลแทนชั่วคราว โทษฐานขายชาติ "รสนา" เตรียมส่งหนังสือถึงสถานทูตต่างๆ ไม่ให้ซื้อหุ้น กฟผ. เหตุเป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติ ม็อบยันจะปักหลักที่กฟผ.ต่อไป
วานนี้ (14 พ.ย.) ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ร่วมกับตำรวจภูธร จ.นนทบุรี ประมาณ 100 นาย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กฟผ. ได้เข้าทำการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งปักหลักชุมนุมประท้วงประมาณกว่า 100 คน ที่บริเวณหน้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เป็นเหตุให้มีการปะทะกันโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้วิธีเบียดตัวดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้มารวมอยู่ที่จุดเดียวกัน ทั้งนี้ ระหว่างนั้นทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งก่อนที่หน่วยกู้ชีพนเรนทรจะนำส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อทำการรักษา ส่วนใหญ่มีบาดแผลถลอกฟกช้ำ และมีบางคนบาดเจ็บเพราะหกล้มและถูกเหยียบ
ทั้งนี้ระหว่างการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีพนักงาน กฟผ.จำนวนมากที่เดินทางมาทำงานและยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ บางคนร้องตะโกนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้คลี่คลายลงด้วยดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงวางกำลังคอยดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดประตูทางเข้าออกทั้งหมด เพื่อกันไม่ให้คนเข้าไปร่วมชุมนุมเพิ่ม โดยมีตำรวจในสังกัด ภ.จว.นนทบุรีกว่า 40 นายตรึงกำลังดูแลความสงบอยู่ภายนอก
ต่อมาในช่วงสายวันเดียวกัน เกิดกระแสข่าวว่าตำรวจจะใช้กำลังในการสลายม็อบกลุ่มผู้ชุมนุมอีกรอบ ส่งผลให้เกิดการแตกตื่นในกลุ่มผู้ชุมนุม และได้พากันบอกปากต่อปากว่าให้ระมัดระวังตัวในการถูกสลายการชุมนุมอีกรอบ แต่ก็ไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด โดยกล่มผู้คัดค้านยังคงปักหลักชุมนุมประท้วงต่อไป
เวลาประมาณ 13.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม ได้วิ่งเข้าไปหลบฝน ทำให้เกิดโกลาหลเล็กน้อย ขณะที่ กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณด้านนอก ต่างได้ชูแผ่นป้ายขนาดใหญ่ มีข้อความเขียนว่า"ที่นี่ประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศทักษิณ หรือ ต่างชาติ"พร้อมกับได้อภิปรายโจมตีการทำงานของรัฐบาล และคัดค้านการแปรรูป กฟผ.อยู่เป็นระยะๆ
หลังจากนั้น พ.ต.อ.สุพจน์ เกษมชัยนันท์ รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้ขอเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอให้เปิดประตูทางเข้า-ออก เพื่อให้รถบัสประมาณ 30-40 คัน เข้าไปรับส่งพนักงาน กฟผ. โดยผลการเจราจาทางกลุ่มผู้ชุมนุม ยอมเปิดประตูตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอ
**"เอกยุทธ"จี้ทักษิณรับผิดชอบ
นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานเครือโอเรียนเต็ลมาร์ท กรุ๊ป ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของกลุ่มผู้คัดค้านนำ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ จากนั้นได้เปิดแถลงข่าวร่วมกับ นายสมาน ศรีงาม เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และสมบัติของชาติ นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงาน กฟน.
โดยนายเอกยุทธ กล่าวว่า ที่เดินทางมาครั้งนี้ เพื่อให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการที่ตำรวจทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องในการปกป้อง กฟผ. ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ แต่รัฐบาลรวมทั้งนายกรัฐมนตรี กับเมินเฉย จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการกระจายหุ้น กฟผ.ที่องค์กรภาคประชาชนฟ้องให้ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยศาลจะมีคำวินิจฉัยในวันนี้(15 พ.ย.)นั้น คิดว่าเป็นแค่การ ปลุกเร้าประชาชนให้ออกมาต่อต้านการแปรูป ส่วนศาลปกครองสูงสุด ในความคิดเห็นส่วนตัวถือเป็นศาลการเมือง ที่ยอมให้รัฐบาลประวิงเวลา เลื่อนการวินิจฉัยออกไปอย่างที่เห็นอยู่ และสุดท้ายเชื่อว่าคำวินิจฉัยน่าจะอนุญาตให้รัฐบาลดำเนินการต่อไปได้
"ผมขอยืนยันจะต่อสู้เรื่องนี้ต่อไป โดยจะยืนปักหลักเคียงข้างกับประชาชนอีกจำนวนหนึ่งเพื่อจะไปประท้วงที่หน้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป"นายเอกยุทธ กล่าว
**ฟ้องต่างชาติซื้อหุ้นกฟผ.
นางสาวรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลยกเลิก เพิกถอน พ.ร.บ.2 ฉบับ เพราะไม่ต้องการให้ใครเอาสมบัติชาติไปขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) โดยการเข้าฟังข้อมูลชี้แจงของ รมว.พลังงาน วานนี้(14 พ.ย.)ได้ให้ตัวแทนคือทนายความเข้าไปรับฟังแทน ซึ่งหากศาลมีการพิจารณาตัดสินและมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาก็จะดำเนินการเคลื่อนไหวต่อไป
ทั้งนี้ทางมูลนิธิต้องการสอบถามนายวิเศษ จูภิบาล รมว.พลังงาน แทนประชาชนที่คัดค้านการแปรรูป กฟผ.ใน 3 ประเด็นคือ 1.ประชาชนทำผิดอะไรจึงถูกรัฐบาลยึดทรัพย์เพื่อนำไปขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2.ระหว่างประชาชนผู้มีอุปการะคุณที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้า ทำไมถึงได้ซื้อหุ้นในราคาที่แพงกว่าพนักงาน กฟผ.ที่ได้ซื้อหุ้นกันในราคา 10 บาทต่อหุ้นเท่านั้น และ 3.ประชาชนที่ยากจนจะได้รับการปันผลได้อย่างไร
"มูลนิธิจะทำหนังสือแจ้งไปยังสถานทูตต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือชี้แจงให้กับนักลงทุนต่างประเทศที่จะมาซื้อหุ้น กฟผ.ว่าอย่าได้มาซื้อหุ้นดังกล่าวเพราะถือว่าเป็นสมบัติของคนไทยด้วย "
**เรียกร้องทักษิณคืนอำนาจในหลวง
นายสมาน ศรีงาม เลขาธิการขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ ได้แถลงเรื่องให้ยุติการแปรรูป กฟผ.ร่วมกับเครือข่ายปกป้องไฟฟ้า ประปาเพื่อชาติและประชาชนและ ชมรมรักการบินไทยในช่วงบ่ายวานนี้(14 พ.ย.) โดยนายสมาน ได้แถลงข้อเรียกร้อง 5 ประเด็นได้แก่ 1.ประชาชนในฐานะเป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจแต่รัฐบาลทักษิณกลับจะดำเนินการขายให้กับต่างชาติ โดยไม่ได้รับฟังเสียงของ ซึ่งถือเป็นการทรยศประชาชน ดังนั้นทักษิณจึงตกเป็นฝ่ายผิดอย่างร้ายแรงในการขายชาติ 2.ประชาชนไม่มีทางเลือกเพราะรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามคำสัญญาและเดินหน้าขายชาติต่อไป จึงต้องเดินทางมาเพื่อพิทักษ์กฟผ.ด้วยตนเอง แต่ทางรัฐบาลได้ใช้ความรุนแรงปราบปรามทำลาย ทั้งที่เป็นสิทธิตามประชาธิปไตย จึงขอให้รัฐบาลทักษิณรับผิดชอบที่ทำลายสิทธิเสรีภาพทั้งการเมือง กฎหมายและทางศีลธรรมทันที
3.เมื่อเกิดการต่อสู้แบบสันติ(อหิงสา) ทางรัฐบาลได้ใช้กำลังรุนแรงต่อประชาชนจนถูกผลักดันให้เข้าไปในกฟผ.และกฟผ.ปิดประตูกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ไม่ให้ออก-เข้าและใช้กำลังทุบตีประชาชนอย่างโหดร้ายเหมือนทรราชทำกันเช่นนี้ จึงขอให้รัฐบาลรับผิดชอบทั้งการเมือง กฎหมาย และทางศีลธรรมและสังคม
4. อำนาจประชาธิปไตยของทักษิณเป็นภัยอันร้ายแรงต่อประชาชน ขอให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบและแสดงความจงรักภักดีด้วยการถวายคืนอำนาจอธิปไตย ให้แด่พระมหากษัตริย์เพื่อมอบอำนาจคืนให้กับประชาชนต่อไป โดยให้มีการปกครองเฉพาะกาล เช่น รัฐบาลเฉพาะกาล หรือรัฐบาลแห่งชาติพระราชทาน ทำหน้าที่ในระยะเปลี่ยนผ่านในระบอบเผด็จการทักษิณเป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และ 5. ขอให้นายไกรสีห์ กรรณสูต กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บมจ.กฟผ. มาพบกับตัวแทนของประชาชนเพื่อรับทราบความต้องการของประชาชนโดยเร็วที่สุด
**เตรียมฟ้องกลับตร.ชุดสลายม็อบ
ขณะที่นายเพียร กล่าวว่า เหตุการณ์สลายม็อบทำให้มีผู้บาดเจ็บซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชราประมาณ 20 คน และฝ่ายผู้ชุมนุมมีทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งเงินบริจาค 20,000 บาท หายไปด้วย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีการบันทึกภาพและรวบรวมข้อมูลไว้หมดแล้ว เพื่อเตรียมฟ้องคดีอาญากับตำรวจและเจ้าหน้าที่ รปภ.ของ กฟผ. รวมทั้งจะนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปร้องเรียนต่อสหประชาชาติต่อไปด้วย
"การชุมนุมในครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการคัดค้านการแปรรูป กฟผ. โดยที่ผ่านมาพวกตนได้มีการประชุมมาโดยตลอดและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อขณะนี้ประชาชนได้รับข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ถูกต้องทำให้ประชาชนเริ่มเข้ามาร่วมชุมนุมคัดค้านกันมากขึ้น และยืนยันว่าม็อบนี้ไม่ใช่ม็อบจัดตั้ง แต่เป็นม็อบที่เกิดขึ้นจากประชาชนที่ไม่ต้องการให้มีการแปรรูป กฟผ."นายเพียร กล่าว
นายเพียร กล่าวอีกว่า มีประชาชนมาร่วมชุมนุมประมาณ 500 คน ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาโดยชุมนุมกันอย่างสงบที่บริเวณด้านหน้า กฟผ. จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นายเข้ามาสลายกลุ่มผู้ชุมนุม โดยอ้างว่าขอให้เปิดเส้นทางเข้าเพื่อให้พนักงาน กฟผ.เข้าไปทำงาน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อป้ายทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมลุกฮือและเกิดปะทะกันขึ้นทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บทั้งหมดประมาณ 20 คน
ด้านนายดำรงศักดิ์ ธารดำรง เลขาธิการคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้เดินทางไปยังหน้า กฟผ.และจะขอเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากตำรวจให้เข้าไป พร้อมได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ขออย่าใช้กำลังกับผู้ชุมนุม เพราะการรชุมนุมเป็นไปอย่างสันติ ตามระบอบประชาธิปไตย และขอให้รอฟังคำสั่งขอศาลปกครองเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันนี้ก่อน เพราะส่วนตัวยังเชื่อว่า การแปรรูป กฟผ.น่าจะผ่านการประชาพิจารณ์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการชุมนุมคัดค้าน ได้มีกลุ่มบุคคลที่ 3 ซึ่งทราบว่าเป็นผู้ดูแลสวนใน กฟผ.เข้ามาแทรกซึมอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อหวังก่อหวอดให้เกิดความรุนแรงและโยนความผิดให้กลุ่มผู้ชุมนุมว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยมือที่ 3 รับแจ้งว่าได้รับการว่าจ้างจากผู้บริหารใน กฟผ.บางคนมากระทำการก่อกวนกลุ่มผู้ชุมคัดค้านการแปรรูป
**กฟผ.ชี้ม็อบมีเบื้องหลัง
นายพิชัย จุลพงศธร รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายบริหาร บริษัทกฟผ. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้เชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังและถือเป็นการประท้วงรุนแรงสุดเท่าที่ผ่าน ซึ่งครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่กฟผ. 2 รายได้รับบาดเจ็บ ทำให้กฟผ.ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธร อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นอกจากนี้ช่วงค่ำของวันที่ 13.พ.ย.การชุมนุมได้มีการถ่ายทอดสดผ่านคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 92.25 วิทยุชุมชนถึงการปราศรัยการคัดค้านการกระจายหุ้นกฟผ. นานถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งไม่ทราบถึงจุดประสงค์การถ่ายทอดเสียงปราศรัยการประท้วงครั้งนี้ว่ามีเจตนาเช่นไร
นายคำผุย จิราระรื่นศักดิ์ ผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจระบบขนส่ง บริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) ยืนยัน ว่าการกระจายหุ้นกฟผ. ในตลาดหลักทรัพย์เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่มีกฎหมายรองรับอย่างถูกต้องถึง 2 ฉบับและกฟผ.ก็ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายอย่างดี
ด้าน พ.ต.อ.สุพจน์ เกษมชัยนันท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวว่า จากการพูดคุยกับแกนนำ ได้รับปากกับเจ้าหน้าที่ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 60-70 คน จะยังคงปักหลักชุมนุมต่ออย่างสงบที่บริเวณหน้า กฟผ.เพื่อรอฟังผลการชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ โดยตนได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 30 นาย คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อย ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกด้วย
วานนี้ (14 พ.ย.) ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ร่วมกับตำรวจภูธร จ.นนทบุรี ประมาณ 100 นาย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กฟผ. ได้เข้าทำการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งปักหลักชุมนุมประท้วงประมาณกว่า 100 คน ที่บริเวณหน้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เป็นเหตุให้มีการปะทะกันโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้วิธีเบียดตัวดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้มารวมอยู่ที่จุดเดียวกัน ทั้งนี้ ระหว่างนั้นทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งก่อนที่หน่วยกู้ชีพนเรนทรจะนำส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อทำการรักษา ส่วนใหญ่มีบาดแผลถลอกฟกช้ำ และมีบางคนบาดเจ็บเพราะหกล้มและถูกเหยียบ
ทั้งนี้ระหว่างการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีพนักงาน กฟผ.จำนวนมากที่เดินทางมาทำงานและยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ บางคนร้องตะโกนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้คลี่คลายลงด้วยดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงวางกำลังคอยดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดประตูทางเข้าออกทั้งหมด เพื่อกันไม่ให้คนเข้าไปร่วมชุมนุมเพิ่ม โดยมีตำรวจในสังกัด ภ.จว.นนทบุรีกว่า 40 นายตรึงกำลังดูแลความสงบอยู่ภายนอก
ต่อมาในช่วงสายวันเดียวกัน เกิดกระแสข่าวว่าตำรวจจะใช้กำลังในการสลายม็อบกลุ่มผู้ชุมนุมอีกรอบ ส่งผลให้เกิดการแตกตื่นในกลุ่มผู้ชุมนุม และได้พากันบอกปากต่อปากว่าให้ระมัดระวังตัวในการถูกสลายการชุมนุมอีกรอบ แต่ก็ไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด โดยกล่มผู้คัดค้านยังคงปักหลักชุมนุมประท้วงต่อไป
เวลาประมาณ 13.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม ได้วิ่งเข้าไปหลบฝน ทำให้เกิดโกลาหลเล็กน้อย ขณะที่ กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณด้านนอก ต่างได้ชูแผ่นป้ายขนาดใหญ่ มีข้อความเขียนว่า"ที่นี่ประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศทักษิณ หรือ ต่างชาติ"พร้อมกับได้อภิปรายโจมตีการทำงานของรัฐบาล และคัดค้านการแปรรูป กฟผ.อยู่เป็นระยะๆ
หลังจากนั้น พ.ต.อ.สุพจน์ เกษมชัยนันท์ รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้ขอเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอให้เปิดประตูทางเข้า-ออก เพื่อให้รถบัสประมาณ 30-40 คัน เข้าไปรับส่งพนักงาน กฟผ. โดยผลการเจราจาทางกลุ่มผู้ชุมนุม ยอมเปิดประตูตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอ
**"เอกยุทธ"จี้ทักษิณรับผิดชอบ
นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานเครือโอเรียนเต็ลมาร์ท กรุ๊ป ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของกลุ่มผู้คัดค้านนำ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ จากนั้นได้เปิดแถลงข่าวร่วมกับ นายสมาน ศรีงาม เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และสมบัติของชาติ นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงาน กฟน.
โดยนายเอกยุทธ กล่าวว่า ที่เดินทางมาครั้งนี้ เพื่อให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการที่ตำรวจทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องในการปกป้อง กฟผ. ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ แต่รัฐบาลรวมทั้งนายกรัฐมนตรี กับเมินเฉย จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการกระจายหุ้น กฟผ.ที่องค์กรภาคประชาชนฟ้องให้ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยศาลจะมีคำวินิจฉัยในวันนี้(15 พ.ย.)นั้น คิดว่าเป็นแค่การ ปลุกเร้าประชาชนให้ออกมาต่อต้านการแปรูป ส่วนศาลปกครองสูงสุด ในความคิดเห็นส่วนตัวถือเป็นศาลการเมือง ที่ยอมให้รัฐบาลประวิงเวลา เลื่อนการวินิจฉัยออกไปอย่างที่เห็นอยู่ และสุดท้ายเชื่อว่าคำวินิจฉัยน่าจะอนุญาตให้รัฐบาลดำเนินการต่อไปได้
"ผมขอยืนยันจะต่อสู้เรื่องนี้ต่อไป โดยจะยืนปักหลักเคียงข้างกับประชาชนอีกจำนวนหนึ่งเพื่อจะไปประท้วงที่หน้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป"นายเอกยุทธ กล่าว
**ฟ้องต่างชาติซื้อหุ้นกฟผ.
นางสาวรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลยกเลิก เพิกถอน พ.ร.บ.2 ฉบับ เพราะไม่ต้องการให้ใครเอาสมบัติชาติไปขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) โดยการเข้าฟังข้อมูลชี้แจงของ รมว.พลังงาน วานนี้(14 พ.ย.)ได้ให้ตัวแทนคือทนายความเข้าไปรับฟังแทน ซึ่งหากศาลมีการพิจารณาตัดสินและมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาก็จะดำเนินการเคลื่อนไหวต่อไป
ทั้งนี้ทางมูลนิธิต้องการสอบถามนายวิเศษ จูภิบาล รมว.พลังงาน แทนประชาชนที่คัดค้านการแปรรูป กฟผ.ใน 3 ประเด็นคือ 1.ประชาชนทำผิดอะไรจึงถูกรัฐบาลยึดทรัพย์เพื่อนำไปขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2.ระหว่างประชาชนผู้มีอุปการะคุณที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้า ทำไมถึงได้ซื้อหุ้นในราคาที่แพงกว่าพนักงาน กฟผ.ที่ได้ซื้อหุ้นกันในราคา 10 บาทต่อหุ้นเท่านั้น และ 3.ประชาชนที่ยากจนจะได้รับการปันผลได้อย่างไร
"มูลนิธิจะทำหนังสือแจ้งไปยังสถานทูตต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือชี้แจงให้กับนักลงทุนต่างประเทศที่จะมาซื้อหุ้น กฟผ.ว่าอย่าได้มาซื้อหุ้นดังกล่าวเพราะถือว่าเป็นสมบัติของคนไทยด้วย "
**เรียกร้องทักษิณคืนอำนาจในหลวง
นายสมาน ศรีงาม เลขาธิการขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ ได้แถลงเรื่องให้ยุติการแปรรูป กฟผ.ร่วมกับเครือข่ายปกป้องไฟฟ้า ประปาเพื่อชาติและประชาชนและ ชมรมรักการบินไทยในช่วงบ่ายวานนี้(14 พ.ย.) โดยนายสมาน ได้แถลงข้อเรียกร้อง 5 ประเด็นได้แก่ 1.ประชาชนในฐานะเป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจแต่รัฐบาลทักษิณกลับจะดำเนินการขายให้กับต่างชาติ โดยไม่ได้รับฟังเสียงของ ซึ่งถือเป็นการทรยศประชาชน ดังนั้นทักษิณจึงตกเป็นฝ่ายผิดอย่างร้ายแรงในการขายชาติ 2.ประชาชนไม่มีทางเลือกเพราะรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามคำสัญญาและเดินหน้าขายชาติต่อไป จึงต้องเดินทางมาเพื่อพิทักษ์กฟผ.ด้วยตนเอง แต่ทางรัฐบาลได้ใช้ความรุนแรงปราบปรามทำลาย ทั้งที่เป็นสิทธิตามประชาธิปไตย จึงขอให้รัฐบาลทักษิณรับผิดชอบที่ทำลายสิทธิเสรีภาพทั้งการเมือง กฎหมายและทางศีลธรรมทันที
3.เมื่อเกิดการต่อสู้แบบสันติ(อหิงสา) ทางรัฐบาลได้ใช้กำลังรุนแรงต่อประชาชนจนถูกผลักดันให้เข้าไปในกฟผ.และกฟผ.ปิดประตูกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ไม่ให้ออก-เข้าและใช้กำลังทุบตีประชาชนอย่างโหดร้ายเหมือนทรราชทำกันเช่นนี้ จึงขอให้รัฐบาลรับผิดชอบทั้งการเมือง กฎหมาย และทางศีลธรรมและสังคม
4. อำนาจประชาธิปไตยของทักษิณเป็นภัยอันร้ายแรงต่อประชาชน ขอให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบและแสดงความจงรักภักดีด้วยการถวายคืนอำนาจอธิปไตย ให้แด่พระมหากษัตริย์เพื่อมอบอำนาจคืนให้กับประชาชนต่อไป โดยให้มีการปกครองเฉพาะกาล เช่น รัฐบาลเฉพาะกาล หรือรัฐบาลแห่งชาติพระราชทาน ทำหน้าที่ในระยะเปลี่ยนผ่านในระบอบเผด็จการทักษิณเป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และ 5. ขอให้นายไกรสีห์ กรรณสูต กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บมจ.กฟผ. มาพบกับตัวแทนของประชาชนเพื่อรับทราบความต้องการของประชาชนโดยเร็วที่สุด
**เตรียมฟ้องกลับตร.ชุดสลายม็อบ
ขณะที่นายเพียร กล่าวว่า เหตุการณ์สลายม็อบทำให้มีผู้บาดเจ็บซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชราประมาณ 20 คน และฝ่ายผู้ชุมนุมมีทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งเงินบริจาค 20,000 บาท หายไปด้วย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีการบันทึกภาพและรวบรวมข้อมูลไว้หมดแล้ว เพื่อเตรียมฟ้องคดีอาญากับตำรวจและเจ้าหน้าที่ รปภ.ของ กฟผ. รวมทั้งจะนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปร้องเรียนต่อสหประชาชาติต่อไปด้วย
"การชุมนุมในครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการคัดค้านการแปรรูป กฟผ. โดยที่ผ่านมาพวกตนได้มีการประชุมมาโดยตลอดและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อขณะนี้ประชาชนได้รับข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ถูกต้องทำให้ประชาชนเริ่มเข้ามาร่วมชุมนุมคัดค้านกันมากขึ้น และยืนยันว่าม็อบนี้ไม่ใช่ม็อบจัดตั้ง แต่เป็นม็อบที่เกิดขึ้นจากประชาชนที่ไม่ต้องการให้มีการแปรรูป กฟผ."นายเพียร กล่าว
นายเพียร กล่าวอีกว่า มีประชาชนมาร่วมชุมนุมประมาณ 500 คน ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาโดยชุมนุมกันอย่างสงบที่บริเวณด้านหน้า กฟผ. จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นายเข้ามาสลายกลุ่มผู้ชุมนุม โดยอ้างว่าขอให้เปิดเส้นทางเข้าเพื่อให้พนักงาน กฟผ.เข้าไปทำงาน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อป้ายทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมลุกฮือและเกิดปะทะกันขึ้นทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บทั้งหมดประมาณ 20 คน
ด้านนายดำรงศักดิ์ ธารดำรง เลขาธิการคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้เดินทางไปยังหน้า กฟผ.และจะขอเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากตำรวจให้เข้าไป พร้อมได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ขออย่าใช้กำลังกับผู้ชุมนุม เพราะการรชุมนุมเป็นไปอย่างสันติ ตามระบอบประชาธิปไตย และขอให้รอฟังคำสั่งขอศาลปกครองเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันนี้ก่อน เพราะส่วนตัวยังเชื่อว่า การแปรรูป กฟผ.น่าจะผ่านการประชาพิจารณ์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการชุมนุมคัดค้าน ได้มีกลุ่มบุคคลที่ 3 ซึ่งทราบว่าเป็นผู้ดูแลสวนใน กฟผ.เข้ามาแทรกซึมอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อหวังก่อหวอดให้เกิดความรุนแรงและโยนความผิดให้กลุ่มผู้ชุมนุมว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยมือที่ 3 รับแจ้งว่าได้รับการว่าจ้างจากผู้บริหารใน กฟผ.บางคนมากระทำการก่อกวนกลุ่มผู้ชุมคัดค้านการแปรรูป
**กฟผ.ชี้ม็อบมีเบื้องหลัง
นายพิชัย จุลพงศธร รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายบริหาร บริษัทกฟผ. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้เชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังและถือเป็นการประท้วงรุนแรงสุดเท่าที่ผ่าน ซึ่งครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่กฟผ. 2 รายได้รับบาดเจ็บ ทำให้กฟผ.ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธร อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นอกจากนี้ช่วงค่ำของวันที่ 13.พ.ย.การชุมนุมได้มีการถ่ายทอดสดผ่านคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 92.25 วิทยุชุมชนถึงการปราศรัยการคัดค้านการกระจายหุ้นกฟผ. นานถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งไม่ทราบถึงจุดประสงค์การถ่ายทอดเสียงปราศรัยการประท้วงครั้งนี้ว่ามีเจตนาเช่นไร
นายคำผุย จิราระรื่นศักดิ์ ผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจระบบขนส่ง บริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) ยืนยัน ว่าการกระจายหุ้นกฟผ. ในตลาดหลักทรัพย์เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่มีกฎหมายรองรับอย่างถูกต้องถึง 2 ฉบับและกฟผ.ก็ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายอย่างดี
ด้าน พ.ต.อ.สุพจน์ เกษมชัยนันท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวว่า จากการพูดคุยกับแกนนำ ได้รับปากกับเจ้าหน้าที่ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 60-70 คน จะยังคงปักหลักชุมนุมต่ออย่างสงบที่บริเวณหน้า กฟผ.เพื่อรอฟังผลการชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ โดยตนได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 30 นาย คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อย ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกด้วย