xs
xsm
sm
md
lg

ซีวีดีปรับแผนหยุดหนังฝรั่งอิสระเลิกบังคับศูนย์ฯซื้อยกแพคเกจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซีวีดีเผยแผนปีหน้าเตรียมอัดงบตลาด 80-90 ล้านบาท พร้อมขนหนังฟอร์มยักษ์อวดโฉมผู้ชมอีกเพียบ ระบุปรับแผนใหม่ไม่บังคับลูกค้าให้ซื้อหนังเป็นแพคเกจแล้ว เตรียมหยุดทำหนังฝรั่งอิสระ เพราะตลาดมีคนทำมาก   คาดการณ์ยอดรายได้ปีหน้าโต15-20%   ส่วนช่วงปลายปีนี้คึกคักเตรียมส่งหนังดีลุยจอ  ตั้งเป้าโกยยอดขายสิ้นปีทะลุ 1 พันล้านบาท  เผยยอดขายปีนี้โตสวนกระแสเศรษฐกิจ เพราะศูนย์เช่าเปิดเพิ่มกว่า 20%และราคาแผ่นปรับลดเหลือ 80-100 บาท    

นายเผด็จ หงษ์ฟ้า กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีวีดี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ CVD ผู้ได้รับสิทธิ์และผู้แทนจำหน่ายภาพยนตร์ในรูปแบบโฮมเอ็นเอตร์เทนเมนต์  เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี2549 ซึ่งเป็นปีที่ซีวีดีจะครบรอบ 21 ปี  บริษัทฯเตรียมปรับกลยุทธ์ธุรกิจ การบริหาร และการบริการ โดยวางแผนที่จะใช้งบทางการตลาด 80-90 ล้านบาทในการทำตลาดให้กับซีวีดีอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการนำหนังใหม่ๆเข้ามา  อาทิ  ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องชิคเก้น ลิตเติ้ลหรือเดอะ ดาวินชี่ โค้ต  รวมถึงยังมีการทำโปรโมชั่นเสริมต่างๆ  อาทิ นำภาพยนตร์ในแคตตาล็อกหรือนำภาพยนตร์เก่ามาวางขายใหม่ ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า  

ประกอบกับปีหน้าบริษัทฯจะไม่มีการบังคับลูกค้าให้เลือกซื้อสินค้าเป็นแพคเกจเหมือนอย่างในปัจจุบันแล้ว เพราะปีหน้าจะมีภาพยนตร์ดีเข้ามามากจึงต้องการเปิดโอกาสให้แก่ลูกค้าในการเลือกเต็มที่   โดยปัจจุบันลูกค้าหลักของซีวีดีมี 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มภาพยนตร์ต่างประเทศ 80%และที่เหลือ 20% เป็นภาพยนตร์จีน ไทยและอิสระ   นอกจากนี้ปีหน้าสัญญาใหม่ของบริษัทฯจะไม่ทำภาพยนตร์ฝรั่งอิสระแล้ว หลังจากที่ปีนี้ทำ 8 เรื่อง เนื่องจากในตลาดมีคนทำมากแล้ว   โดยซีวีดีจะจำหน่ายหนังเมเจอร์ 22 เรื่อง, หนังชุด 25 แผ่น และหนังไทย 2 เรื่องต่อเดือน

“ธุรกิจประเภทนี้ในปัจจุบันมีให้เลือกมาก ดังนั้นจึงต้องมีการพิจารณาถึง 2 ประเด็นหลัก คือ ในแง่ผู้ประกอบการที่มีการแข่งขันมากขึ้นและผู้บริโภคเองก็มีความหลากหลายมากขึ้น และการใช้จ่ายก็มีมากขึ้น ดังนั้นเราต้องพัฒนารูปแบบสินค้าและบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า”

สำหรับภาพยนตร์เด่นในปีหน้าของซีวีดีเตรียมนำเสนอภาพยนตร์จาก 4 สตูดิโอดัง อาทิ จากค่ายบัวนา วิสต้า ได้แก่ เรื่องชิคเก้น ลิตเติ้ล, ไฟท์ แพลน และโกล    ส่วนค่ายโซนี่ พิคเจอร์ เช่น เรื่องลีเจนท์ ออฟ โซโล, เดอะ ดาวินชี่ โค้ต  ค่ายทเว็นตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ เช่น เรื่องไนท์ วอชและสเตย์  ค่ายเอ็มจีเอ็ม เช่น อินทู เดอะ บลู    ขณะที่ภาพยนตร์ไทยค่ายจีทีเอชส่งเรื่องเพื่อนสนิทและเด็กหอ ส่วนภาพยนตร์จีนชุดของทีวีบีที่จะออกฉายพร้อมช่อง 3 มี 4-5 เรื่อง บราเทอร์ เป็นต้น  รวมถึงยังมีภาพยนตร์เกาหลี 1-2 ชุด ทั้งนี้ในปีหน้าบริษัทฯคาดการณ์ว่ายอดขายจะโตขึ้นจากปีนี้ 15-20%

สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะมียอดรายได้ 1,050 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโตจากปีที่แล้ว 10% ซึ่งสาเหตุที่ยอดขายโตแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะไม่ดีและหลายธุรกิจก็แย่ตาม แต่ของซีวีดีโตเป็นเพราะจำนวนศูนย์เช่าเปิดเพิ่มขึ้น 20% และการที่ซีวีดีมีหนังดีอยู่ในมือมาก ทั้งภาพยนตร์ต่างประเทศและหนังไทย ซึ่งได้พันธมิตรอย่างแกรมมี่ อาทิ เรื่องมหาลัยเหมืองแร่ มียอดขายเกินเป้าถึง 20% หรือเรื่องแจ๋วมียอดขายเกิน 30%   ประกอบกับการลดราคาหนังแผ่นลงจาก 120-150 บาทเหลือ 80-100 บาท   ล่าสุดช่วงปลายปีเตรียมเปิดตัวหนังอีกมาก เช่น สตาร์วอร์,แฟนตาสติค 4 และมิสเตอร์ แอนด์ มิสซิส สมิท ฯลฯ   
กำลังโหลดความคิดเห็น