ผู้จัดการรายวัน – สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดย ททท. ทุ่ม 60 ล้านบาท เปิดการแสดงโขน-ศาลาเฉลิมกรุง หวังดันขึ้นเดสติเนชั่น ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพ ชูจุดขายศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ดูดนักท่องเที่ยว กลุ่มญี่ปุ่นและยุโรป ขณะที่ แอตต้าออกโรงเตือน ระวังเรื่องการตลาดและประชาสัมพันธ์ ที่ต้องแรงและต่อเนื่อง มีภาษาที่สื่อสารเข้าใจ ระบุคู่แข่งที่มาแรงคือสยามนิรมิตร หวั่นซ้ำรอยโรงละครแห่งชาติ ด้าน ททท. เร่งอัดสั่งการสำนักงานต่างประเทศเร่งโปรโมต
นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการเป็นประธาน ในพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ระหว่างสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ , มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ในการสนับสนุนการจัดกิจกรรมการแสดงโขน ซึ่งจะจัดแสดง ณ ศาลาเฉลิมกรุง ทั้งนี้โครงการดังกล่าว จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการฟื้นฟูศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ให้เป็นที่รู้จักของคนต่างชาติ โดยจะเริ่มเปิดการแสดงรอบแรกในวันที่ 3 ธันวาคมศกนี้ และจะเปิดแสดงตลอดไปทุกวันเว้นวันอาทิตย์
“จุดเริ่มของโครงการนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ขณะเดียวกันก็ต้องการเพิ่มสินค้าทางการท่องเที่ยวให้คนต่างชาติ นำเสนอในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมการแสดงชั้นสูงของคนไทยซึ่งมีมาแต่โบราณ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนของเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน จับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มครอบครัว เพิ่มทางเลือกฉีกจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่มีอยู่”
สำหรับกลุ่มคนไทย มุ่งเป้าหมายให้เป็นแหล่งทัศนะศึกษาของเยาวชน ซึ่งจะเปิดการแสดงในรอบกลางวัน โดยมีภาคเอกชนและนักธุรกิจเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ออกค่าใช้จ่ายให้ สำหรับรอบกลางคืนจะเน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก เบื้องต้น จะมีไกด์บุ๊คแจกให้กับลูกค้า เป็น 3 ภาษา คือ อังกฤษ จีนและญี่ปุ่น
ทางด้านนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนโครงการ โขน-ศาลาเฉลิมกรุง หรือ Royal Masked Dance At Sala Chalermkrung Royal Theatre ในวงเงิน 40 ล้านบาท นอกจากนั้นยังบรรจุไว้ในแผนส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของ ททท.ในปีงบประมาณ 2549 ด้วย โดยได้สั่งการให้สำนักงาน ททท. ในต่างประเทศ 18 แห่ง บรรจุไว้ในแผนส่งเสริมการตลาด สร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นทางของประเทศนั้นๆ ในเบื้องต้นจะขอความร่วมมือกับโรงแรมในกรุงเทพฯที่มีห้องพักรวมกันกว่า 30,000 ห้องเป็นช่องทางในการจำหน่ายบัตรแสดงโขน
** ตั้งคณะทำงานลุยการตลาด**
นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และรองประธานกรรมการมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานทรัพย์สินฯ จะลงเงินจำนวน 20 ล้าน เพื่อใช้ปรับปรุงสถานที่ และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกของสถานที่ให้แก่นักท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยการตกแต่งต้องการแสดงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเห็นว่า ศาลาเฉลิมกรุงแห่งนี้ เป็น Royal Theatre อย่างแท้จริง
สำหรับแผนการตลาด wfhตั้งคณะทำงาน โดยมี นายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ เป็นประธานคณะทำงาน โดยมี ททท. และ บริษัท ครีเอทีฟ จูซ จีวัน เป็นที่ปรึกษา ให้ข้อมูลพร้อมข้อเสนอแนะ ซึ่งเบื้องต้นสำหรับตลาดต่างประเทศ จะขอความร่วมมือบริษัทนำเที่ยวช่วยเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วย ตั้งเป้ารอบการแสดงกลางคืน จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อรอบไม่น้อยกว่า 80% ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ 3 แสนบาทต่อรอบ จากจำนวนที่นั่งที่มีทั้งหมด 600 ที่นั่ง น่าจะมีผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่า 50% ของจำนวนที่นั่ง
“การแสดงจะมี 6 รอบต่อสัปดาห์ แบ่งเป็น 3 รอบแสดงกลางวัน และอีก 3 รอบแสf'กลางคืน โดยจะหยุดทุกวันอาทิตย์ มองว่า จุดขายของเราชัดเจน คือ ศิลปการแสดงชั้นสูงของประเทศไทย ซึ่งแตกต่างจาก การแสดงที่สยามนิรมิตร” นายจิรายุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของราคา ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เบื้องต้นคาดว่าจะขายบัตรประมาณ 1,000 บาท สำหรับคนไทยและบริษัทนำเที่ยว จะมีราคาพิเศษ เพื่อให้คนไทยสามารถเข้ามาชมการแสดงได้ ขณะที่บริษัททัวร์ ก็จะนำไปทำตลาดได้เช่นกัน
**แอตต้าย้ำต้องประชาสัมพันธ์เข้ม**
นายอภิชาติ สังฆอารีย์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(ATTA) หรือ แอตต้า กล่าวว่า โครงการ โขน-ศาลาเฉลิมกรุง ถือเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ดีอีกชิ้นหนึ่ง ที่ต่างชาติจะให้ความสนใจ เพราะจุดขายคือศิลปวัฒนธรรมของไทย ตลาดที่น่าจะเป็นเป้าหมายหลัก คือ ญี่ปุ่น และยุโรป เช่น ประเทศ เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และสแกนดิเนเวีย แต่ที่น่าเป็นห่วง คือเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยว เพราะถือเป็นแกนหลักที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ นอกจากนั้นในเรื่องภาษาก็สำคัญ ที่จะต้องสื่อสารกับนักท่องเที่ยวในรู้และเข้าใจเนื้อเรื่องของการแสดง เพราะปัญหาใหญ่ของโขน คือถ้าใช้เวลาในการชมที่นาน และ ใช้ภาษาที่ไม่เข้าใจ จะไม่สามารถดึงดูดคนดูไว้ได้
ที่ผ่านมา โรงละครแห่งชาติก็เคยจัดการแสดงศิลปะวัฒนธรรมของไทยมาบ้างแล้ว แต่ขาดการทำตลาดที่ดี จึงไปไม่รอด และในยุคสมัยนี้การแข่งขันก็สูง ยอมรับว่าการแสดงที่สยามนิรมิตร สมาชิกของแอตต้าไปชมแล้วชื่นชอบ และได้บรรจุเข้าในโปรแกรมทัวร์แล้ว ซึ่ง ในส่วนของการแสดงโขนแห่งนี้ คงจะต้องขอชมในรอบปฐมฤกษ์ก่อน เพื่อจะหาแนวทางการทำตลาดต่อไปได้ และในวันที่ 24 พ.ย.48 ทางทีมงานของ โขน – ศาลาเฉลิมกรุง ก็จะไปบรรยายรายละเอียดให้กับสมาชิกของสมาคมฯได้รับฟัง ที่โรงแรมรอยัล ริเวอร์ ในวาระการประชุมสมาคมฯด้วย
นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการเป็นประธาน ในพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ระหว่างสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ , มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ในการสนับสนุนการจัดกิจกรรมการแสดงโขน ซึ่งจะจัดแสดง ณ ศาลาเฉลิมกรุง ทั้งนี้โครงการดังกล่าว จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการฟื้นฟูศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ให้เป็นที่รู้จักของคนต่างชาติ โดยจะเริ่มเปิดการแสดงรอบแรกในวันที่ 3 ธันวาคมศกนี้ และจะเปิดแสดงตลอดไปทุกวันเว้นวันอาทิตย์
“จุดเริ่มของโครงการนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ขณะเดียวกันก็ต้องการเพิ่มสินค้าทางการท่องเที่ยวให้คนต่างชาติ นำเสนอในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมการแสดงชั้นสูงของคนไทยซึ่งมีมาแต่โบราณ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนของเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน จับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มครอบครัว เพิ่มทางเลือกฉีกจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่มีอยู่”
สำหรับกลุ่มคนไทย มุ่งเป้าหมายให้เป็นแหล่งทัศนะศึกษาของเยาวชน ซึ่งจะเปิดการแสดงในรอบกลางวัน โดยมีภาคเอกชนและนักธุรกิจเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ออกค่าใช้จ่ายให้ สำหรับรอบกลางคืนจะเน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก เบื้องต้น จะมีไกด์บุ๊คแจกให้กับลูกค้า เป็น 3 ภาษา คือ อังกฤษ จีนและญี่ปุ่น
ทางด้านนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนโครงการ โขน-ศาลาเฉลิมกรุง หรือ Royal Masked Dance At Sala Chalermkrung Royal Theatre ในวงเงิน 40 ล้านบาท นอกจากนั้นยังบรรจุไว้ในแผนส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของ ททท.ในปีงบประมาณ 2549 ด้วย โดยได้สั่งการให้สำนักงาน ททท. ในต่างประเทศ 18 แห่ง บรรจุไว้ในแผนส่งเสริมการตลาด สร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นทางของประเทศนั้นๆ ในเบื้องต้นจะขอความร่วมมือกับโรงแรมในกรุงเทพฯที่มีห้องพักรวมกันกว่า 30,000 ห้องเป็นช่องทางในการจำหน่ายบัตรแสดงโขน
** ตั้งคณะทำงานลุยการตลาด**
นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และรองประธานกรรมการมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานทรัพย์สินฯ จะลงเงินจำนวน 20 ล้าน เพื่อใช้ปรับปรุงสถานที่ และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกของสถานที่ให้แก่นักท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยการตกแต่งต้องการแสดงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเห็นว่า ศาลาเฉลิมกรุงแห่งนี้ เป็น Royal Theatre อย่างแท้จริง
สำหรับแผนการตลาด wfhตั้งคณะทำงาน โดยมี นายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ เป็นประธานคณะทำงาน โดยมี ททท. และ บริษัท ครีเอทีฟ จูซ จีวัน เป็นที่ปรึกษา ให้ข้อมูลพร้อมข้อเสนอแนะ ซึ่งเบื้องต้นสำหรับตลาดต่างประเทศ จะขอความร่วมมือบริษัทนำเที่ยวช่วยเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วย ตั้งเป้ารอบการแสดงกลางคืน จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อรอบไม่น้อยกว่า 80% ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ 3 แสนบาทต่อรอบ จากจำนวนที่นั่งที่มีทั้งหมด 600 ที่นั่ง น่าจะมีผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่า 50% ของจำนวนที่นั่ง
“การแสดงจะมี 6 รอบต่อสัปดาห์ แบ่งเป็น 3 รอบแสดงกลางวัน และอีก 3 รอบแสf'กลางคืน โดยจะหยุดทุกวันอาทิตย์ มองว่า จุดขายของเราชัดเจน คือ ศิลปการแสดงชั้นสูงของประเทศไทย ซึ่งแตกต่างจาก การแสดงที่สยามนิรมิตร” นายจิรายุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของราคา ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เบื้องต้นคาดว่าจะขายบัตรประมาณ 1,000 บาท สำหรับคนไทยและบริษัทนำเที่ยว จะมีราคาพิเศษ เพื่อให้คนไทยสามารถเข้ามาชมการแสดงได้ ขณะที่บริษัททัวร์ ก็จะนำไปทำตลาดได้เช่นกัน
**แอตต้าย้ำต้องประชาสัมพันธ์เข้ม**
นายอภิชาติ สังฆอารีย์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(ATTA) หรือ แอตต้า กล่าวว่า โครงการ โขน-ศาลาเฉลิมกรุง ถือเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ดีอีกชิ้นหนึ่ง ที่ต่างชาติจะให้ความสนใจ เพราะจุดขายคือศิลปวัฒนธรรมของไทย ตลาดที่น่าจะเป็นเป้าหมายหลัก คือ ญี่ปุ่น และยุโรป เช่น ประเทศ เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และสแกนดิเนเวีย แต่ที่น่าเป็นห่วง คือเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยว เพราะถือเป็นแกนหลักที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ นอกจากนั้นในเรื่องภาษาก็สำคัญ ที่จะต้องสื่อสารกับนักท่องเที่ยวในรู้และเข้าใจเนื้อเรื่องของการแสดง เพราะปัญหาใหญ่ของโขน คือถ้าใช้เวลาในการชมที่นาน และ ใช้ภาษาที่ไม่เข้าใจ จะไม่สามารถดึงดูดคนดูไว้ได้
ที่ผ่านมา โรงละครแห่งชาติก็เคยจัดการแสดงศิลปะวัฒนธรรมของไทยมาบ้างแล้ว แต่ขาดการทำตลาดที่ดี จึงไปไม่รอด และในยุคสมัยนี้การแข่งขันก็สูง ยอมรับว่าการแสดงที่สยามนิรมิตร สมาชิกของแอตต้าไปชมแล้วชื่นชอบ และได้บรรจุเข้าในโปรแกรมทัวร์แล้ว ซึ่ง ในส่วนของการแสดงโขนแห่งนี้ คงจะต้องขอชมในรอบปฐมฤกษ์ก่อน เพื่อจะหาแนวทางการทำตลาดต่อไปได้ และในวันที่ 24 พ.ย.48 ทางทีมงานของ โขน – ศาลาเฉลิมกรุง ก็จะไปบรรยายรายละเอียดให้กับสมาชิกของสมาคมฯได้รับฟัง ที่โรงแรมรอยัล ริเวอร์ ในวาระการประชุมสมาคมฯด้วย