ผู้จัดการรายวัน - ที่สุดโตโยต้าก็สามารถซิวรถพยาบาล สธ.ได้เมื่อเสนอราคา 1.46 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 2 หมื่นบาท หลังงุบงิบเจรจา โดยมีปัญหาไม่ลงตัวมานาน ประธานจัดซื้อเผย ต่อรองได้ราคาถูกลงเพราะเปลี่ยนบริษัทประกอบรถใหม่
น.พ.มานิตย์ ธีระตันติกานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงด้วยวิธีพิเศษ เปิดเผยว่า การเจรจาต่อรองราคาการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูง 232 คัน ของ สธ. ได้ข้อยุติว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิ ในราคา 1.46 ล้านบาท/คัน ต่ำกว่าราคากลาง 20,000 บาท/คัน ส่วนราคาที่ต่ำลง เนื่องจาก บ.โตโยต้าเปลี่ยนบริษัทผู้ประกอบตัวรถ และเครื่องมือแพทย์ที่คิดค่าประกอบในราคาถูกลงกว่าเดิม ซึ่งยืนยันสเปกเดิมทุกประการไม่มีการลดสเปกลงมา
แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถพยาบาลฉุกเฉิน เปิดเผยว่า การซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงด้วยราคา 1.46 ล้านบาท/คันนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าสเปกตามที่คณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะกำหนดไว้ จะไม่สามารถซื้อได้ราคานี้ เนื่องจากเป็นสเปกที่มีคุณภาพสูง การจัดซื้อครั้งนี้เชื่อได้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ บ.โตโยต้า ยอมลดราคาลงมาหลังจากที่เคยเสนอราคาสูงถึง1.6 ล้านบาท/คันนั้น เนื่องจากได้เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์เป็นของที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งเดิมกำหนดว่าต้องเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตจากต่างประเทศ และเปลี่ยนบริษัทผู้ประกอบตัวรถและเครื่องมือแพทย์จาก บ.พูลภัณฑ์พัฒนา จำกัด มาเป็น บ.สุพรีม โปรดักส์ จำกัด แทน ทั้งยังมีการต่อรองการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษที่ไม่เป็นที่เปิดเผยแก่สื่อมวลชนด้วย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การจัดซื้อรถพยาบาลครั้งนี้ เป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการชุดที่นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สธ.เป็นผู้รับผิดชอบ สามารถซื้อรถพยาบาลได้ในราคาที่ถูก และยังสามารถนำงบประมาณที่เหลือไปซื้อรถพยาบาลเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะตามมติ ครม.กำหนดวงเงินจัดซื้อรถพยาบาล และเครื่องมือแพทย์คันละ 2 ล้านบาท แต่เมื่อนพ.สุชัยมารื้อระบบใหม่ เปลี่ยน และลดสเปก ให้แยกจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจและเครื่องกระตุกหัวใจออกจากตัวรถ และซื้อตัวรถต่างหากทำให้ราคาถูกลง และมีเงินเหลือจากงบประมาณ 464 ล้านบาท ประมาณ 56 ล้านบาท ทั้งนี้ การจัดซื้อรถพยาบาลครั้งนี้จะเร่งดำเนินการภายใน 2 เดือน และจะส่งมอบรถพยาบาล 31 คันแรก ให้กับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ก่อนสิ้นปีนี้
น.พ.มานิตย์ ธีระตันติกานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงด้วยวิธีพิเศษ เปิดเผยว่า การเจรจาต่อรองราคาการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูง 232 คัน ของ สธ. ได้ข้อยุติว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิ ในราคา 1.46 ล้านบาท/คัน ต่ำกว่าราคากลาง 20,000 บาท/คัน ส่วนราคาที่ต่ำลง เนื่องจาก บ.โตโยต้าเปลี่ยนบริษัทผู้ประกอบตัวรถ และเครื่องมือแพทย์ที่คิดค่าประกอบในราคาถูกลงกว่าเดิม ซึ่งยืนยันสเปกเดิมทุกประการไม่มีการลดสเปกลงมา
แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถพยาบาลฉุกเฉิน เปิดเผยว่า การซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงด้วยราคา 1.46 ล้านบาท/คันนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าสเปกตามที่คณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะกำหนดไว้ จะไม่สามารถซื้อได้ราคานี้ เนื่องจากเป็นสเปกที่มีคุณภาพสูง การจัดซื้อครั้งนี้เชื่อได้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ บ.โตโยต้า ยอมลดราคาลงมาหลังจากที่เคยเสนอราคาสูงถึง1.6 ล้านบาท/คันนั้น เนื่องจากได้เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์เป็นของที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งเดิมกำหนดว่าต้องเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตจากต่างประเทศ และเปลี่ยนบริษัทผู้ประกอบตัวรถและเครื่องมือแพทย์จาก บ.พูลภัณฑ์พัฒนา จำกัด มาเป็น บ.สุพรีม โปรดักส์ จำกัด แทน ทั้งยังมีการต่อรองการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษที่ไม่เป็นที่เปิดเผยแก่สื่อมวลชนด้วย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การจัดซื้อรถพยาบาลครั้งนี้ เป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการชุดที่นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สธ.เป็นผู้รับผิดชอบ สามารถซื้อรถพยาบาลได้ในราคาที่ถูก และยังสามารถนำงบประมาณที่เหลือไปซื้อรถพยาบาลเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะตามมติ ครม.กำหนดวงเงินจัดซื้อรถพยาบาล และเครื่องมือแพทย์คันละ 2 ล้านบาท แต่เมื่อนพ.สุชัยมารื้อระบบใหม่ เปลี่ยน และลดสเปก ให้แยกจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจและเครื่องกระตุกหัวใจออกจากตัวรถ และซื้อตัวรถต่างหากทำให้ราคาถูกลง และมีเงินเหลือจากงบประมาณ 464 ล้านบาท ประมาณ 56 ล้านบาท ทั้งนี้ การจัดซื้อรถพยาบาลครั้งนี้จะเร่งดำเนินการภายใน 2 เดือน และจะส่งมอบรถพยาบาล 31 คันแรก ให้กับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ก่อนสิ้นปีนี้