ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-ผู้เชี่ยวชาญผังเมืองเสนอแนวคิด "The Greater Chiang Mai" ด้วยการรวมผังเมืองเชียงใหม่-ลำพูน พร้อมผุดเมืองใหม่ที่ "บ้านธิ"รองรับการเติบโตเป็นศูนย์กลางในอนาคต ส่วนตัวเมืองเก่ากันเป็นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ประวัติศาสตร์ ในเวทีเปิดรับฟังความเห็นรอบ 2 โครงการวางและจัดทำแผนผัง นโยบายการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูลุ่มน้ำปิง ด้วยมาตรการผังเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ร่วมกับบริษัท สแปน คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัทมหานคร คอนซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา จัดการสัมมนา ครั้งที่ 2 โครงการวางและจัดทำแผนผังนโยบายการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูลุ่มน้ำปิงด้วยมาตรการผังเมือง เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อรับฟังข้อมูล ข้อเสนอแนะ และความคิดเห็น จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่โครงการ แล้วนำไปปรับปรุงแผนผังนโยบาย รวมทั้งมาตรการควบคุม ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติห้สอดคล้องกับความต้องการของทุกฝ่าย
นายพิชัย เครือชัยพินิจ ผู้อำนวยการสำนักผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะ กรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดย่านการใช้ประโยชน์ที่ดิน ระบบคมนาคมขนส่ง สาธารณูปโภค สาธารณูปการ การพัฒนาการท่องเที่ยว การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการจัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับการพัฒนาในอนาคต
โครงการนี้เป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ก่อนที่จะมีการขยายไปจนครบทุกพื้นที่ทั้ง 25 ลุ่มน้ำของประเทศ ทั้งนี้หลังการศึกษาโครงการนี้แล้วเสร็จ จะมีการจัดทำแผนงานโครงการที่ชัดเจน เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ขณะที่รองศาสตราจารย์มานพ พงศทัต อาจารย์แผนกผังเมือง คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะที่ปรึกษา โครงการวางและจัดทำแผนผังนโยบาย การจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูลุ่มน้ำปิงด้วยมาตรการผังเมือง กล่าวว่า เชียงใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่ทางต้นน้ำของลุ่มน้ำปิง ได้รับการผลักดันให้เป็นศูนย์กลางในทุกๆ ด้าน ที่จะมีการเจริญเติบโตอย่างมาก ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ควรจะต้องมีการพิจารณาแนวความคิดเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองในอนาคต เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ
ทั้งนี้เห็นว่าเชียงใหม่และลำพูน ควรที่จะมีการวางผังเมือง และใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน ภายใต้แนวความคิด The Greater Chiang Mai เพื่อกำหนดพื้นที่เมืองหลัก-เมืองบริวาร การกำหนดพื้นที่ขยายเขตอุตสาหกรรม ชุมชนใหม่ สนามบินใหม่ และการวางโครงข่ายคมนาคม โดยมองว่าพื้นที่บริเวณ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เหมาะสมที่จะเป็นที่ตั้งของสนามบินแห่งใหม่ และเป็นที่จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ที่มีขนาดใหญ่กว่าปัจจุบัน 1-2 เท่า รองรับอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ไอที การบิน การเกษตร เป็นต้น
ส่วนพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่เดิม ควรเก็บรักษาไว้เป็นพื้นที่อยู่อาศัย เมืองประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เช่นเดียวกันกับตัวเมืองลำพูน ขณะที่พื้นที่ อ.สันกำแพง ควรจะพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งศิลปหัตถกรรม และ อ.สารภี เป็นเมืองการเกษตร อย่างไรก็ตามแนวคิดทั้งหมดนี้จะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ รวมทั้งกำหนดและวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อไป
"การพัฒนาเป็นเมืองศูนย์กลางทุกด้านของเชียงใหม่ จะพลิกโฉมหน้าของเมืองไปเป็นอีกแบบหนึ่ง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องคิดถึงเมืองอนาคต ซึ่งแน่นอนว่า ตัวเมืองปัจจุบัน ไม่สามารถรองรับการขยายตัวได้แน่ จึงจำเป็นต้องมีการคิดหาพื้นที่ใหม่ที่เหมาะสมกว่า ด้วยการรวมการใช้ประโยชน์พื้นที่เชียงใหม่และลำพูนร่วมกัน ภายใต้แนวคิด The Greater Chiang Mai ยกระดับให้เชียงใหม่เป็นมหานครย่อมๆ และมีพื้นที่บ้านธิ เป็นพื้นที่เมืองใหม่ เป็นที่ตั้งของสนามบินใหม่และนิคมอุตสาหกรรมใหม่ รองรับการขยายตัวในอนาคต" รองศาสตราจารย์มานพ กล่าว
จังหวัดเชียงใหม่ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ร่วมกับบริษัท สแปน คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัทมหานคร คอนซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา จัดการสัมมนา ครั้งที่ 2 โครงการวางและจัดทำแผนผังนโยบายการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูลุ่มน้ำปิงด้วยมาตรการผังเมือง เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อรับฟังข้อมูล ข้อเสนอแนะ และความคิดเห็น จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่โครงการ แล้วนำไปปรับปรุงแผนผังนโยบาย รวมทั้งมาตรการควบคุม ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติห้สอดคล้องกับความต้องการของทุกฝ่าย
นายพิชัย เครือชัยพินิจ ผู้อำนวยการสำนักผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะ กรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดย่านการใช้ประโยชน์ที่ดิน ระบบคมนาคมขนส่ง สาธารณูปโภค สาธารณูปการ การพัฒนาการท่องเที่ยว การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการจัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับการพัฒนาในอนาคต
โครงการนี้เป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ก่อนที่จะมีการขยายไปจนครบทุกพื้นที่ทั้ง 25 ลุ่มน้ำของประเทศ ทั้งนี้หลังการศึกษาโครงการนี้แล้วเสร็จ จะมีการจัดทำแผนงานโครงการที่ชัดเจน เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ขณะที่รองศาสตราจารย์มานพ พงศทัต อาจารย์แผนกผังเมือง คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะที่ปรึกษา โครงการวางและจัดทำแผนผังนโยบาย การจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูลุ่มน้ำปิงด้วยมาตรการผังเมือง กล่าวว่า เชียงใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่ทางต้นน้ำของลุ่มน้ำปิง ได้รับการผลักดันให้เป็นศูนย์กลางในทุกๆ ด้าน ที่จะมีการเจริญเติบโตอย่างมาก ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ควรจะต้องมีการพิจารณาแนวความคิดเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองในอนาคต เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ
ทั้งนี้เห็นว่าเชียงใหม่และลำพูน ควรที่จะมีการวางผังเมือง และใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน ภายใต้แนวความคิด The Greater Chiang Mai เพื่อกำหนดพื้นที่เมืองหลัก-เมืองบริวาร การกำหนดพื้นที่ขยายเขตอุตสาหกรรม ชุมชนใหม่ สนามบินใหม่ และการวางโครงข่ายคมนาคม โดยมองว่าพื้นที่บริเวณ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เหมาะสมที่จะเป็นที่ตั้งของสนามบินแห่งใหม่ และเป็นที่จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ที่มีขนาดใหญ่กว่าปัจจุบัน 1-2 เท่า รองรับอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ไอที การบิน การเกษตร เป็นต้น
ส่วนพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่เดิม ควรเก็บรักษาไว้เป็นพื้นที่อยู่อาศัย เมืองประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เช่นเดียวกันกับตัวเมืองลำพูน ขณะที่พื้นที่ อ.สันกำแพง ควรจะพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งศิลปหัตถกรรม และ อ.สารภี เป็นเมืองการเกษตร อย่างไรก็ตามแนวคิดทั้งหมดนี้จะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ รวมทั้งกำหนดและวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อไป
"การพัฒนาเป็นเมืองศูนย์กลางทุกด้านของเชียงใหม่ จะพลิกโฉมหน้าของเมืองไปเป็นอีกแบบหนึ่ง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องคิดถึงเมืองอนาคต ซึ่งแน่นอนว่า ตัวเมืองปัจจุบัน ไม่สามารถรองรับการขยายตัวได้แน่ จึงจำเป็นต้องมีการคิดหาพื้นที่ใหม่ที่เหมาะสมกว่า ด้วยการรวมการใช้ประโยชน์พื้นที่เชียงใหม่และลำพูนร่วมกัน ภายใต้แนวคิด The Greater Chiang Mai ยกระดับให้เชียงใหม่เป็นมหานครย่อมๆ และมีพื้นที่บ้านธิ เป็นพื้นที่เมืองใหม่ เป็นที่ตั้งของสนามบินใหม่และนิคมอุตสาหกรรมใหม่ รองรับการขยายตัวในอนาคต" รองศาสตราจารย์มานพ กล่าว