ซินแส เผยฮวงจุ้ยกระทรวงสาธารณสุขเปลี่ยน ประตูหน้าหันเข้าหาทิศตะวันตกไม่ดี แนะรัฐมนตรีควรเดินเข้าประตูหลัง ระบุหมอสุชัย กับหมอวิชัย ดวงไม่สมพงศ์กัน ชี้ปีนี้หมอวิชัยดวงแรงกว่า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเผยสเปกรถพยาบาลใหม่สร้างความเสียหายให้กับราชการ 6 ข้อ
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วานนี้ (17ต.ค.)นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสฮวงจุ้ย ได้เดินทางมาดูฮวงจุ้ย ของกระทรวงสาธารณสุขว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่างข้าราชการประจำ และนักการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กับ น.พ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวง มาจนถึง ศ.น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง และน.พ.วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หลังจากการดูฮวงจุ้ยภายนอกตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ซินแสภาณุวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2547 เป็นต้นมา ฮวงจุ้ยของโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้ ดังนั้น เมื่อแรกที่มีการก่อสร้างตึกสำนักงานปลัดกระทรวง ฮวงจุ้ยดี แต่เมื่อมีการเปลี่ยนยุค ฮวงจุ้ยจากที่เคยดีก็เลยกลายเป็นไม่ดีไป ซึ่งจากการที่ตนดูแล้วพบว่า ภาพรวมของฮวงจุ้ยดี แต่ต้องมีการเปลี่ยนทิศทางการเข้าออกของกระทรวง ซึ่งมี 3 ทิศทาง คือทางหลักด้านหน้าเป็นทิศตะวันตก และด้านข้างเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ ทิศที่เหมาะสมที่สุดในการเข้ากระทรวงนั้นควรเป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ทิศตะวันตก ซึ่งเป็นประตูหน้า แต่ทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นทิศที่ไม่ควรเข้ากระทรวง ส่วนทิศทางการนั่งของรัฐมนตรีนั้นควรหันหน้าออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ การทำงานจะได้ราบรื่นขึ้น ไม่มีเรื่องวุ่นวายใจ แต่หากหันหน้าไปทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะมีเรื่องยุ่งยาก คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง
นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า น.พ.สุชัย กับ น.พ.วิชัย นั้นมีดวงปีเกิดที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน จึงศรศิลป์ไม่กินกัน เพราะ น.พ.สุชัยนั้นเกิดในปีมะเมีย แต่ น.พ.วิชัย เกิดปีชวด ซึ่งเป็นปีที่ชงกัน อย่างไรก็ตาม หากดูตามพื้นดวงแล้วพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นคนเกิดปีฉลูซึ่งไม่ได้เกื้อหนุนกันกับปีมะเมีย ซึ่งเป็นปีเกิดของ น.พ.สุชัย แต่กลับให้ผลดีกับ น.พ.วิชัย ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ นั้นเกิดในปีชวด ซึ่งเป็นดวงเกื้อหนุนกับน.พ.วิชัย เช่นกัน
นอกจากนี้ในปีนี้ดวงของ น.พ.วิชัยมาแรงกว่าของ น.พ.สุชัย แต่ในปีหน้าจะเป็นปีจอ ซึ่งให้ผลดีกับคนเกิดปีมะเมีย ดังนั้นปีหน้าดวงของน.พ.สุชัย จะดีขึ้น
**รถพยาบาลทำรักษาการปลัดสธ. เครียด
รายงานข่าวจาก สธ.แจ้งว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ มีการประชุมผู้บริหารระดับสูงบริเวณชั้น 5 อาคารสำนักงานปลัด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ. เป็นประธาน ที่ประชุมได้พูดถึงกรณีรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงจำนวน 232 คัน ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการประกวดราคาโดยวิธีพิเศษ โดยมีการโทร.เรียกบริษัทเอกชน 5 แห่งมารับซองตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา และจะมีการประกวดราคาด้วยวิธีพิเศษในวันที่ 20 ต.ค.นี้
รายงานข่าวแจ้งว่าในที่ประชุม นายนอนุทิน กล่าวว่า ในช่วงก่อนวันที่ 31 ต.ค.นี้ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้น ในช่วงนี้อยากขอให้ทุกคนช่วยกันระมัดระวังและประคับประคองกระทรวงต่อไป ซึ่ง น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี รองปลัดสธ.ได้พูดขึ้นมาว่า กรณีรถพยาบาลฉุกเฉินคงจะอยู่ในความสนใจของหน้าหนังสือพิมพ์ไปเป็นอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาการปลัดสธ.ได้กล่าวตัดบทเพียงสั้นๆ ว่า ทุกอย่างจะดำเนินการอย่างถูกต้องและโปร่งใส่ โดยบอกว่าจะชี้แจงเรื่องนี้เอง และขอให้ผู้บริหารคนอื่นๆ อย่าเพิ่งให้ข่าวในเรื่องนี้
ภายหลังการประชุมผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องนี้กับน.พ.ปราชญ์ ซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียด โดยได้รับคำตอบเพียงสั้น ๆ กำลังดำเนินการอยู่
สำหรับในส่วนของน.พ.สุรวิทย์ เตชุวานันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานประธานคณะกรรมการกำหนดสเปกรถพยาบาลชุดใหม่ ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยเจ้าหน้าที่หน้าห้องแจ้งแต่เพียงว่า น.พ.สุรวิทย์ติดประชุมตลอดทั้งวัน คงไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้
ผู้สื่อรายงานว่า หลังที่ทางคณะกรรมการได้เสนอสเปกรถพยาบาลฉุกเฉินใหม่ให้กับ น.พ.ปราชญ์ ทางแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินได้สรุปความแตกต่างและผลกระทบต่อการปรับเปลี่ยนคุณลักษณะเฉพาะรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญและอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ 6 ข้อ อาทิ การเปลี่ยนชุดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ทำให้การมองเห็นรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงจากทัศนะวิสัยระดับต่าง ๆ ลดลง และเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การเปลี่ยน “ยางและล้อมาตรฐาน” เป็น “ล้อแมกซ์ และยางเป็นขนาดมาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต” ไม่ได้ทำให้เกิดผลดีต่อการใช้งานใดๆ มีแต่ความสวยงาม เป็นต้น
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วานนี้ (17ต.ค.)นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสฮวงจุ้ย ได้เดินทางมาดูฮวงจุ้ย ของกระทรวงสาธารณสุขว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่างข้าราชการประจำ และนักการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กับ น.พ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวง มาจนถึง ศ.น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง และน.พ.วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หลังจากการดูฮวงจุ้ยภายนอกตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ซินแสภาณุวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2547 เป็นต้นมา ฮวงจุ้ยของโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้ ดังนั้น เมื่อแรกที่มีการก่อสร้างตึกสำนักงานปลัดกระทรวง ฮวงจุ้ยดี แต่เมื่อมีการเปลี่ยนยุค ฮวงจุ้ยจากที่เคยดีก็เลยกลายเป็นไม่ดีไป ซึ่งจากการที่ตนดูแล้วพบว่า ภาพรวมของฮวงจุ้ยดี แต่ต้องมีการเปลี่ยนทิศทางการเข้าออกของกระทรวง ซึ่งมี 3 ทิศทาง คือทางหลักด้านหน้าเป็นทิศตะวันตก และด้านข้างเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ ทิศที่เหมาะสมที่สุดในการเข้ากระทรวงนั้นควรเป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ทิศตะวันตก ซึ่งเป็นประตูหน้า แต่ทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นทิศที่ไม่ควรเข้ากระทรวง ส่วนทิศทางการนั่งของรัฐมนตรีนั้นควรหันหน้าออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ การทำงานจะได้ราบรื่นขึ้น ไม่มีเรื่องวุ่นวายใจ แต่หากหันหน้าไปทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะมีเรื่องยุ่งยาก คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง
นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า น.พ.สุชัย กับ น.พ.วิชัย นั้นมีดวงปีเกิดที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน จึงศรศิลป์ไม่กินกัน เพราะ น.พ.สุชัยนั้นเกิดในปีมะเมีย แต่ น.พ.วิชัย เกิดปีชวด ซึ่งเป็นปีที่ชงกัน อย่างไรก็ตาม หากดูตามพื้นดวงแล้วพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นคนเกิดปีฉลูซึ่งไม่ได้เกื้อหนุนกันกับปีมะเมีย ซึ่งเป็นปีเกิดของ น.พ.สุชัย แต่กลับให้ผลดีกับ น.พ.วิชัย ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ นั้นเกิดในปีชวด ซึ่งเป็นดวงเกื้อหนุนกับน.พ.วิชัย เช่นกัน
นอกจากนี้ในปีนี้ดวงของ น.พ.วิชัยมาแรงกว่าของ น.พ.สุชัย แต่ในปีหน้าจะเป็นปีจอ ซึ่งให้ผลดีกับคนเกิดปีมะเมีย ดังนั้นปีหน้าดวงของน.พ.สุชัย จะดีขึ้น
**รถพยาบาลทำรักษาการปลัดสธ. เครียด
รายงานข่าวจาก สธ.แจ้งว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ มีการประชุมผู้บริหารระดับสูงบริเวณชั้น 5 อาคารสำนักงานปลัด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ. เป็นประธาน ที่ประชุมได้พูดถึงกรณีรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงจำนวน 232 คัน ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการประกวดราคาโดยวิธีพิเศษ โดยมีการโทร.เรียกบริษัทเอกชน 5 แห่งมารับซองตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา และจะมีการประกวดราคาด้วยวิธีพิเศษในวันที่ 20 ต.ค.นี้
รายงานข่าวแจ้งว่าในที่ประชุม นายนอนุทิน กล่าวว่า ในช่วงก่อนวันที่ 31 ต.ค.นี้ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้น ในช่วงนี้อยากขอให้ทุกคนช่วยกันระมัดระวังและประคับประคองกระทรวงต่อไป ซึ่ง น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี รองปลัดสธ.ได้พูดขึ้นมาว่า กรณีรถพยาบาลฉุกเฉินคงจะอยู่ในความสนใจของหน้าหนังสือพิมพ์ไปเป็นอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาการปลัดสธ.ได้กล่าวตัดบทเพียงสั้นๆ ว่า ทุกอย่างจะดำเนินการอย่างถูกต้องและโปร่งใส่ โดยบอกว่าจะชี้แจงเรื่องนี้เอง และขอให้ผู้บริหารคนอื่นๆ อย่าเพิ่งให้ข่าวในเรื่องนี้
ภายหลังการประชุมผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องนี้กับน.พ.ปราชญ์ ซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียด โดยได้รับคำตอบเพียงสั้น ๆ กำลังดำเนินการอยู่
สำหรับในส่วนของน.พ.สุรวิทย์ เตชุวานันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานประธานคณะกรรมการกำหนดสเปกรถพยาบาลชุดใหม่ ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยเจ้าหน้าที่หน้าห้องแจ้งแต่เพียงว่า น.พ.สุรวิทย์ติดประชุมตลอดทั้งวัน คงไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้
ผู้สื่อรายงานว่า หลังที่ทางคณะกรรมการได้เสนอสเปกรถพยาบาลฉุกเฉินใหม่ให้กับ น.พ.ปราชญ์ ทางแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินได้สรุปความแตกต่างและผลกระทบต่อการปรับเปลี่ยนคุณลักษณะเฉพาะรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญและอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ 6 ข้อ อาทิ การเปลี่ยนชุดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ทำให้การมองเห็นรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงจากทัศนะวิสัยระดับต่าง ๆ ลดลง และเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การเปลี่ยน “ยางและล้อมาตรฐาน” เป็น “ล้อแมกซ์ และยางเป็นขนาดมาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต” ไม่ได้ทำให้เกิดผลดีต่อการใช้งานใดๆ มีแต่ความสวยงาม เป็นต้น