ผู้จัดการรายวัน - ประชาชน ญาติผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ร่วมงานรำลึก 29 ปี 6ตุลาฯ “พระไพศาล” ระบุ 6 ตุลาฯคล้ายเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ปลุกคอมฯ-ปลุกชาตินิยมให้คนไทยเกลียดมุสลิม ทำคนไทยฆ่ากันเอง แต่รัฐบาลรอดตัว เผยกอส.ทำรายงานส่งรัฐบาลเสร็จยุบทันที ด้าน “จาตุรนต์” สั่ง กพฐ.นำเหตุการณ์สำคัญตามระบอบประชาธิปไตยลงในหลักสูตรให้เด็กศึกษา
วานนี้ (6 ต.ค.) เนื่องในวันครบรอบ 29 ปี เหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ร่วมกับคณะทำงานโครงการกำแพงประวัติศาสตร์ คณะกรรมการดำเนินงานจัดสร้างสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ เครือข่ายเดือนตุลา และคณะกรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2549 จัดงานรำลึก 29 ปี 6 ตุลา ที่บริเวณสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ธรรมศาสตร์
โดยมีประชาชนจำนวนมากทั้งญาติผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย และผู้ที่เคยผ่านเหตุการณ์ เดือนตุลาคม นักการเมือง อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายโคทม อารียา กรรมการในคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) นายจรัล ดิษฐาอภิชัย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และข้าราชการ มธ. นำโดย ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดี มธ. ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 30 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับในเหตุการณ์ นอกจากนี้ มีการวางพวงหรีดจากตัวแทนองค์กรประชาธิปไตย รัฐมนตรี และองค์กรภาคประชาชน และกล่าวไว้อาลัย และผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมกันจุดเทียนสีขาวรอบประติมากรรม 6 ตุลา แสดงถึงความบริสุทธิ์ของผู้ที่เรียกร้องสันติภาพ
ในงานได้มี ตัวแทนเครือข่ายเดือนตุลายื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติผ่านนายจรัล เพื่อให้ตั้งกระบวนการตรวจสอบ ให้เกิดความยุติธรรมและข้อเท็จจริงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ รวมถึงเรียกร้องเงินชดเชย ต่อผู้สูญเสีย เปิดเผยข้อมูลของเหตุการณ์และนำไปบรรจุไว้ในตำราเรียน
พระไพศาล วิสาโล กรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) กล่าว เปรียบเทียบถึงสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 ว่า ทั้ง 2 สถานการณ์มีรากเหง้าเดียวกัน แต่กรณี 6 ตุลาฯ จะมีปัจจัยจากภายนอกเข้ามาทำให้คนไทยในขณะนั้นเกรงว่าไทยจะกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์เหมือลาว เขมร จึงทำให้คนไทยฆ่ากันเอง
ส่วนกรณีภาคใต้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นปัจจัยจากภายนอกมาปลุกระดม สร้างความรุนแรง รัฐบาลก็ปฏิเสธเสมอว่าไม่มี ถ้าจะมีคงเป็นสหรัฐอเมริกาที่แอบ เข้ามา ซึ่งประมาทไม่ได้ ทั้งสองเหตุการณ์นี้มีความเหมือนกันคือการทำให้คนไทย เกลียดชังกัน จนอาจนำมาสู่การฆ่ากันในที่สุด
“สิ่งที่น่ากลัวของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยคือเมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ก็จะโยนบาป ให้แพะ กอส.ก็ถือเป็นแพะกลุ่มหนึ่ง เชื่อว่าหากการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ ล้มเหลวรัฐบาลก็จะหาแพะตัวใหม่ขึ้นมาอีก และสร้างประเด็นใหม่ขึ้นมาเบี่ยงเบน เพื่อกลบความล้มเหลวของตัวเอง ซึ่งรัฐบาลเมื่อ 30 ปีที่แล้วเจอวิกฤติเศรษฐกิจ ก็ปลุกผีคอมมิวนิสต์เพื่อกลบความล้มเหลวของตัวเอง นี่ถือเป็นสูตรสำเร็จของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย รัฐบาลนี้ก็เช่นกัo”
พระไพศาล กล่าวถึงรายงานของกอส.ที่จะนำเสนอต่อรัฐบาล ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูล โดยจะนำเสนอ 5 ประเด็นใหญ่ คือ 1.ประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรมและการเยียวยา 2.แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา 3.การพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรธรรมชาติ 4.ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และ5.ความปรองดองในพื้นที่
พระไพศาล กล่าวด้วยว่าเมื่อกอส.เสนอรายงานต่อรัฐบาลและประชาชนแล้วก็จะยุติการทำงาน เพราะเราถือว่า กอส.อาสาเข้ามาหาทำงานเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ในระยะกลางและระยะยาว ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือระยะสั้นเป็น หน้าที่ของรัฐบาล ส่วนเมื่อยุบ กอส.จะมีองค์กรอื่นหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ แต่ปัญหานี้ ไม่ได้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลหรือ กอส.เท่านั้นคนไทยทุกคนต้องร่วมมือกัน เชื่อว่าปัญหาภาคใต้จะแก้ไขได้อาจจะเป็น10 ปีขึ้น
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) คนเดือนตุลา ญเปิดเผย ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมยูเนสโกที่ฝรั่งเศสว่า ได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นำเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ เดือนพฤษภาญ อยู่ในหลักสูตร การเรียนการสอน ในลักษณะกำหนดหัวข้อให้นักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า เรียนรู้แนวคิดที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นลักษณะการศึกษาประวัติศาสตร์ไม่ใช่ให้เด็กมาท่องจำ จึงไม่ควรปิดกั้นนักคิดและประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน เชื่อว่าเด็กและประชาชนสามารถวิเคราะห์แยะแยะได้ว่าสิ่งใดควรเชื่อได้หรือไม่ควรเชื่อ
วานนี้ (6 ต.ค.) เนื่องในวันครบรอบ 29 ปี เหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ร่วมกับคณะทำงานโครงการกำแพงประวัติศาสตร์ คณะกรรมการดำเนินงานจัดสร้างสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ เครือข่ายเดือนตุลา และคณะกรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2549 จัดงานรำลึก 29 ปี 6 ตุลา ที่บริเวณสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ธรรมศาสตร์
โดยมีประชาชนจำนวนมากทั้งญาติผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย และผู้ที่เคยผ่านเหตุการณ์ เดือนตุลาคม นักการเมือง อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายโคทม อารียา กรรมการในคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) นายจรัล ดิษฐาอภิชัย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และข้าราชการ มธ. นำโดย ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดี มธ. ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 30 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับในเหตุการณ์ นอกจากนี้ มีการวางพวงหรีดจากตัวแทนองค์กรประชาธิปไตย รัฐมนตรี และองค์กรภาคประชาชน และกล่าวไว้อาลัย และผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมกันจุดเทียนสีขาวรอบประติมากรรม 6 ตุลา แสดงถึงความบริสุทธิ์ของผู้ที่เรียกร้องสันติภาพ
ในงานได้มี ตัวแทนเครือข่ายเดือนตุลายื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติผ่านนายจรัล เพื่อให้ตั้งกระบวนการตรวจสอบ ให้เกิดความยุติธรรมและข้อเท็จจริงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ รวมถึงเรียกร้องเงินชดเชย ต่อผู้สูญเสีย เปิดเผยข้อมูลของเหตุการณ์และนำไปบรรจุไว้ในตำราเรียน
พระไพศาล วิสาโล กรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) กล่าว เปรียบเทียบถึงสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 ว่า ทั้ง 2 สถานการณ์มีรากเหง้าเดียวกัน แต่กรณี 6 ตุลาฯ จะมีปัจจัยจากภายนอกเข้ามาทำให้คนไทยในขณะนั้นเกรงว่าไทยจะกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์เหมือลาว เขมร จึงทำให้คนไทยฆ่ากันเอง
ส่วนกรณีภาคใต้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นปัจจัยจากภายนอกมาปลุกระดม สร้างความรุนแรง รัฐบาลก็ปฏิเสธเสมอว่าไม่มี ถ้าจะมีคงเป็นสหรัฐอเมริกาที่แอบ เข้ามา ซึ่งประมาทไม่ได้ ทั้งสองเหตุการณ์นี้มีความเหมือนกันคือการทำให้คนไทย เกลียดชังกัน จนอาจนำมาสู่การฆ่ากันในที่สุด
“สิ่งที่น่ากลัวของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยคือเมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ก็จะโยนบาป ให้แพะ กอส.ก็ถือเป็นแพะกลุ่มหนึ่ง เชื่อว่าหากการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ ล้มเหลวรัฐบาลก็จะหาแพะตัวใหม่ขึ้นมาอีก และสร้างประเด็นใหม่ขึ้นมาเบี่ยงเบน เพื่อกลบความล้มเหลวของตัวเอง ซึ่งรัฐบาลเมื่อ 30 ปีที่แล้วเจอวิกฤติเศรษฐกิจ ก็ปลุกผีคอมมิวนิสต์เพื่อกลบความล้มเหลวของตัวเอง นี่ถือเป็นสูตรสำเร็จของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย รัฐบาลนี้ก็เช่นกัo”
พระไพศาล กล่าวถึงรายงานของกอส.ที่จะนำเสนอต่อรัฐบาล ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูล โดยจะนำเสนอ 5 ประเด็นใหญ่ คือ 1.ประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรมและการเยียวยา 2.แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา 3.การพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรธรรมชาติ 4.ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และ5.ความปรองดองในพื้นที่
พระไพศาล กล่าวด้วยว่าเมื่อกอส.เสนอรายงานต่อรัฐบาลและประชาชนแล้วก็จะยุติการทำงาน เพราะเราถือว่า กอส.อาสาเข้ามาหาทำงานเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ในระยะกลางและระยะยาว ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือระยะสั้นเป็น หน้าที่ของรัฐบาล ส่วนเมื่อยุบ กอส.จะมีองค์กรอื่นหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ แต่ปัญหานี้ ไม่ได้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลหรือ กอส.เท่านั้นคนไทยทุกคนต้องร่วมมือกัน เชื่อว่าปัญหาภาคใต้จะแก้ไขได้อาจจะเป็น10 ปีขึ้น
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) คนเดือนตุลา ญเปิดเผย ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมยูเนสโกที่ฝรั่งเศสว่า ได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นำเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ เดือนพฤษภาญ อยู่ในหลักสูตร การเรียนการสอน ในลักษณะกำหนดหัวข้อให้นักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า เรียนรู้แนวคิดที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นลักษณะการศึกษาประวัติศาสตร์ไม่ใช่ให้เด็กมาท่องจำ จึงไม่ควรปิดกั้นนักคิดและประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน เชื่อว่าเด็กและประชาชนสามารถวิเคราะห์แยะแยะได้ว่าสิ่งใดควรเชื่อได้หรือไม่ควรเชื่อ