xs
xsm
sm
md
lg

รพ.พระราม 9 ตั้งรับไทยขึ้นเมดิคัลฮับฯ ทุ่ม 500 ล้านเปิดสถาบันหัวใจดึงต่างชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รพ.พระรามเก้า ทุ่มเงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เปิดสถาบันหัวใจและหลอดเลือดครบวงจร ซื้อเครื่องเอ็กซ์เรย์ฯ Real 64-Slice CT พร้อมสร้างอาคาร 5 ชั้นเป็นที่ตั้งสถาบัน หวังดึงต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลในไทยมากขึ้น สอดรับนโยบาล เมดิคัล ฮับ ออฟ เอเชีย ของรัฐบาล ชูค่าบริการถูกกว่าสิงคโปร์ถึง 50% เตรียมขยายฐานลูกค้าจับตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง

นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า ได้ลงทุน 120 ล้านบาท เพื่อเปิดสถาบันหัวใจและหลอดเลือดครบวงจร โดยมีการจัดทำห้องตรวจและจัดซื้ออุปกรณ์ และเครื่องเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง “Real 64-Slice CT” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการแพทย์ใหม่ล่าสุด ใช้สำหรับตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ตลอดจนสามารถใช้เครื่องดังกล่าวตรวจเช็คความผิดปกติภายในอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ละเอียดทุกส่วนอย่างแม่ยำ อัตราค่าบริการครั้งละ 2 หมื่นบาท ถูกกว่าการตรวจเช็คแบบใส่ขดลวดสวนเข้าทางหลอดเลือด ซึ่งมีค่าบริการถึง 4 หมื่นบาท และยังเป็นเหรดราคาที่ถูกกว่า บริการในแบบเดียวกันที่สิงคโปร์ถึงเกือบ 50%

นอกจากนั้นในแผน 3 ปีจากนี้ไป เราได้เริ่มปรับปรุงสถานสถานที่ของโรงพยาบาล(Renovate) พร้อมเตรียมจัดสร้างอาคาร 5 ชั้นเพื่อใช้ที่ตั้งของ “สถาบันหัวใจและหลอดเลือดครบวงจร” ใช้เงินลงทุนอีกทั้งหมดราว 400 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง ส่วนเงินลงทุน คณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล และ ที่ปรึกษาทางการเงิน กำลังพิจารณาแหล่งเงินทุน คือ การกู้เงินจากสถาบันการเงิน , การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ และการออกหุ้นกู้ โดยปัจจุบัน โรงพยาบาลไม่มีภาระหนี้สิน

ทั้งนี้การที่ รพ.พระรามเก้า ได้เพิ่มการลงทุนด้านโรคหัวใจเพราะเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาด เนื่องจากปัจจุบัน เพราะ จากสถิติของสาธารณะสุขระดับโลก มีผู้เสียชีวิตเพราะโรคหัวใจทั่วโลกปีละ 17 ล้านคน อยู่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาถึง 76% และมีแนวโน้มเติบโตทุกปี ส่วนในประเทศไทย ข้อมูลกระทรวงสาธารณะสุขระบุว่า ปี 2546 คนไทยป่วยเป็นโรคหัวใจมีจำนวน 991,413 ราย ทั่วประเทศ เป็นอันดับต้นๆของการเสียชีวิตของคนไทย ซึ่งเพิ่มจากปี 2545 กว่า 136,000 ราย โดยในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา ผู้ป่วยโรคหัวใจในไทยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีเพิ่มขึ้นถึง 3-17 เท่าตัว

สำหรับการลงทุนครั้งนี้ นอกจากกลุ่มเป้าหมาย คนไทยในประเทศแล้ว เรายังมุ่งหวังที่จะรองรับคนไข้ต่างชาติ ในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจด้วย จากปัจจุบัน พระรามเก้า เป็นโรงพยาบาลที่เป็นศูนย์รักษาและบริการครบวงจรในหลายโรคให้บริการทั้งคนไทยและคนไข้ต่างชาติ เช่น ศูนย์เปลี่ยนไต ศูนย์สูตินรีเวช และศูนย์ฟิตเนสและสปอร์ตคลินิก 9 โดยแผนการดำเนินงานของโรงพยาบาลจะสอดคล้องกับนโยบาลหลักของรัฐบาล ที่จะผลักดันประเทศไทยเป็น เมดิคัล ฮับ ออฟ เอเชีย

“สัดส่วนคนไข้ของโรงพยาบาลขณะนี้ 80% เป็นคนไทย และ 20% เป็นคนไข้ที่เดินทางมารักษาตัวจากต่างประเทศ โดยมีประเทศหลักๆ คือ ญี่ปุ่น ไต้หวัน พม่า กัมพูชา และเวียดนาม นอกจากนั้นยังมีลูกค้าที่มาจากยุโรปและอเมริกาบางส่วน ในอนาคตเราเตรียมบุกตลาดตะวันออกกลางเพิ่มเติม ซึ่งการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามารักษาและฟื้นฟูคนไข้ พร้อมทำตลาดแบบนีชมาร์เก็ต เราตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าที่เป็นคนไข้ต่างชาติเพิ่มเป็น 25-30% ภายใน 2 ปีนับจากนี้ไป”

นพ.เสถียร กล่าวว่า การทำตลาดในต่างประเทศ เรามีหลายรูปแบบ เช่น การร่วมออกโรดโชว์ไปกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) การขายแพกเกจผ่านตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งเรามีกระจายอยู่หลายจุด ได้แก่ อเมริกา ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และเตรียมขยายตลาดไปที่กลุ่มประเทศยุโรป

อย่างไรก็ตาม ไทยเป็นประเทศที่มีคนไข้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากข้อมูลปี 2545 มีจำนวนรวมถึง 630,000 คน และปี 2546 เพิ่มขึ้น 54.3% หรือ 973,000 คน โดยรัฐบาลตั้งเป้าว่าในปี 2553 จะมีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 2 ,000,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ กว่า 80,000 ล้านบาท ในส่วนของโรงพยาบาลพระรามเก้า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง 300 เตียง มีคนไข้จากต่างประเทศเข้ามาใช้บริการติด 1 ใน 5 ของโรงพยาบาลเกชนไทย โดยมีส่วนแบ่งที่ 20% ดังนั้นเราจึงมั่นใจว่า เมื่อเรามีการปรับปรุงสถานที่และเพิ่มบริการด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ตลาดคนไข้ต่างชาติ จึงเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น