เมดดิไซน์มั่นใจเป็นฮับของเอเชียได้ ชูจุดแข็งด้านบริการสุขภาพและความงามแบบครบวงจรและราคาถูกกว่าต่างประเทศถึง 50% เร่งเจรจาบริษัททัวร์ดึงลูกค้านักท่องเที่ยวมาใช้บริการ เดือนหน้าเซ็นสัญญากับทัวร์จากอเมริกา คาดปี49 ลูกค้าทัวร์เพิ่มเป็น 30% พร้อมเตรียมลงทุนกว่า 30 ล้านบาทนำเข้าเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่เข้ามา รวมถึงเตรียมขยายเอาต์เล็ตเพิ่ม เพื่อเจาะกลุ่มระดับกลาง
นางสาวอัจจิมา สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวัยวัฒน์และความงามเมดดิไซน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเมดดิไซน์ถือได้ว่าเป็นฮับของเอเชียในแง่การมีบริการดูแลสุขภาพและความงามแบบครบองค์รวม ซึ่งจากการเทรนนิ่งและเข้าร่วมงานต่างๆในเอเชียที่ผ่านมาพบว่ามีหลายประเทศสนใจเมดดิไซน์ทั้งในส่วนของการบริการและราคาที่ถูกกว่าต่างประเทศ 50% ซึ่งสถาบันฯได้มีการเซ็นสัญญากับทัวร์ต่างประเทศไปแล้ว 2 ราย คือ คูเวตและมาเลเซียเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และเตรียมขยายตลาดสู่ต่างประเทศมากขึ้นโดยเตรียมเซ็นสัญญากับทัวร์จากอเมริกาในเดือนพ.ย.นี้ รวมถึงมีการโรดโชว์มากขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้จากการเซ็นสัญญาคาดว่าสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันที่มีกว่า 10-15%
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้าทางสถาบันฯเตรียมลงทุนเพิ่มกว่า 30 ล้านบาทในการขยายเอาต์เล็ตบอดี้ ดีไซน์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางจนถึงพรีเมียม รูปแบบการบริการจะมีทั้งการลดน้ำหนัก ดูแลผิวพรรณและรูปร่าง ซึ่งระดับราคาของบอดี้ ดีไซน์จะถูกกว่าเมดดิไซน์ประมาณ 30-50% รวมถึงยังมีการนำเข้าเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเสริมบริการอย่างต่อเนื่อง
“จุดเด่นของเมดดิไซน์อยู่ที่การให้บริการแอนตี้ เอจจิ้งแบบครบวงจรหรือแบบวัน สต๊อป เซอร์วิส ซึ่งจะแตกต่างจากสถาบันความงามทั่วไป เช่น คลินิกความงาม หรือสปาที่จะให้บริการเฉพาะด้าน” นางสาวอัจจิมากล่าว
ล่าสุดเมดดิไซน์เปิดตัวบัตรสมาชิกเมดดิไซน์ แอนตี้ เอจจิ้งหรือบัตรสิทธิประโยชน์ด้านการชะลอวัยจำนวน 1,000 ใบในราคา 39,900 บาท เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนอายุ 35-40 ปีได้ทดลองมาใช้บริการและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแพทย์ชะลอวัยมากขึ้น ขณะนี้มีผู้สนใจจองบัตร 200 ราย
ด้านงบทางการตลาดเมดดิไซน์ใช้งบประมาณ 15% ของยอดรายได้ในการจัดสัมมนาให้ความรู้ หรือการเขียนบทความผ่านนิตยสาร เป็นต้น ขณะที่ยอดรายได้ของบริษัทฯคาดว่าปีนี้จะมียอด 50 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดรายได้จะโตขึ้น 50% แบ่งเป็นสัดส่วนด้านความงาม 80% และอื่นๆ เช่น ด้านสุขภาพและอาหารเสริม 20%
ปัจจุบันสถาบันฯตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดี โดยมีลูกค้าประจำที่มาใช้บริการอยู่ 1,000 ราย คิดเป็นผู้หญิง 85% และที่เหลือเป็นผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีเอาต์เล็ตสกิน คลับตั้งอยู่ที่บิ๊กซี ราชดำริ ซึ่งให้บริการเรื่องสุขภาพความงามภายนอกและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
นางสาวอัจจิมา สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวัยวัฒน์และความงามเมดดิไซน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเมดดิไซน์ถือได้ว่าเป็นฮับของเอเชียในแง่การมีบริการดูแลสุขภาพและความงามแบบครบองค์รวม ซึ่งจากการเทรนนิ่งและเข้าร่วมงานต่างๆในเอเชียที่ผ่านมาพบว่ามีหลายประเทศสนใจเมดดิไซน์ทั้งในส่วนของการบริการและราคาที่ถูกกว่าต่างประเทศ 50% ซึ่งสถาบันฯได้มีการเซ็นสัญญากับทัวร์ต่างประเทศไปแล้ว 2 ราย คือ คูเวตและมาเลเซียเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และเตรียมขยายตลาดสู่ต่างประเทศมากขึ้นโดยเตรียมเซ็นสัญญากับทัวร์จากอเมริกาในเดือนพ.ย.นี้ รวมถึงมีการโรดโชว์มากขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้จากการเซ็นสัญญาคาดว่าสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันที่มีกว่า 10-15%
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้าทางสถาบันฯเตรียมลงทุนเพิ่มกว่า 30 ล้านบาทในการขยายเอาต์เล็ตบอดี้ ดีไซน์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางจนถึงพรีเมียม รูปแบบการบริการจะมีทั้งการลดน้ำหนัก ดูแลผิวพรรณและรูปร่าง ซึ่งระดับราคาของบอดี้ ดีไซน์จะถูกกว่าเมดดิไซน์ประมาณ 30-50% รวมถึงยังมีการนำเข้าเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเสริมบริการอย่างต่อเนื่อง
“จุดเด่นของเมดดิไซน์อยู่ที่การให้บริการแอนตี้ เอจจิ้งแบบครบวงจรหรือแบบวัน สต๊อป เซอร์วิส ซึ่งจะแตกต่างจากสถาบันความงามทั่วไป เช่น คลินิกความงาม หรือสปาที่จะให้บริการเฉพาะด้าน” นางสาวอัจจิมากล่าว
ล่าสุดเมดดิไซน์เปิดตัวบัตรสมาชิกเมดดิไซน์ แอนตี้ เอจจิ้งหรือบัตรสิทธิประโยชน์ด้านการชะลอวัยจำนวน 1,000 ใบในราคา 39,900 บาท เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนอายุ 35-40 ปีได้ทดลองมาใช้บริการและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแพทย์ชะลอวัยมากขึ้น ขณะนี้มีผู้สนใจจองบัตร 200 ราย
ด้านงบทางการตลาดเมดดิไซน์ใช้งบประมาณ 15% ของยอดรายได้ในการจัดสัมมนาให้ความรู้ หรือการเขียนบทความผ่านนิตยสาร เป็นต้น ขณะที่ยอดรายได้ของบริษัทฯคาดว่าปีนี้จะมียอด 50 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดรายได้จะโตขึ้น 50% แบ่งเป็นสัดส่วนด้านความงาม 80% และอื่นๆ เช่น ด้านสุขภาพและอาหารเสริม 20%
ปัจจุบันสถาบันฯตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดี โดยมีลูกค้าประจำที่มาใช้บริการอยู่ 1,000 ราย คิดเป็นผู้หญิง 85% และที่เหลือเป็นผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีเอาต์เล็ตสกิน คลับตั้งอยู่ที่บิ๊กซี ราชดำริ ซึ่งให้บริการเรื่องสุขภาพความงามภายนอกและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว