xs
xsm
sm
md
lg

แม้วรับปากทำรถไฟรางคู่ สายขอนแก่น-มุกดาหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฯ "ทักษิณ"รับข้อเสนอภาคเอกชนโครงการสร้างรางรถไฟรางคู่สายขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มุกดาหาร เชื่อจะช่วยหนุนส่งกิจกรรมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวใน EWEC เห็นรูปธรรมมากขึ้น พร้อมสั่งคมนาคมศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หากคุ้มค่าให้เดินหน้าทันที

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับภาคเอกชนกลุ่มจังหวัดสนุก ประกอบด้วย จ.สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ ที่โรงแรมโซฟิเทล ราชาออคิด จ.ขอนแก่น เมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) โดยนายกฯเห็นชอบที่จะให้มีการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่มีการนำเสนอในที่ประชุมทั้งหมด 4 โครงการคือ

1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ การสร้างถนน 4 เลน และถนนสายต่างๆ ในพื้นที่ 4 จังหวัดกลุ่มสนุก ที่เชื่อมโครงข่ายการคมนาคมกับจังหวัดต่างๆ ในอีสานตอนบน และสามารถเชื่อมโยงกับโครงข่ายประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีบางเส้นทางที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้กลับไปศึกษาความเป็นได้อีกครั้ง โดยดูว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนแค่ไหนและจะเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจกี่มากน้อน

ขณะที่โครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อม จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร และนครพนม ไปสู่ สปป.ลาว-เวียดนาม ให้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนส่งกิจกรรมทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

2. คือการพัฒนา 4 จังหวัด กลุ่มจังหวัดสนุก ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การกระจายสินค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดยให้ผวจ.มุกดาหาร ประสานกับท่าอากาศยานสุวรรณเขต เพื่อเข้ามาร่วมพัฒนาโครงการด้วย

3. ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ SMEs เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างผู้ประกอบการ และเป็นศูนย์แนะนำที่จะเกิดประโยชน์ ขยายประเภทธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อสร้างความมั่นคงและเข้มแข็งทางเศรษฐกิจต่อไป นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงการให้ความสำคัญกับการศึกษา ในกลุ่มนักเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสถานศึกษาที่สำคัญที่มีนักเรียน นักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาศึกษาปีละจำนวนไม่น้อย จึงเห็นว่าควรมีการจัดงบประมาณส่งเสริม มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย

4 .การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้สามารถเป็นแหล่งสร้างรายได้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปรียบเทียบกับภาคเหนือ และภาคใต้ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างเม็ดเงินให้กับประเทศจำนวนมาก ในขณะที่ภาคอีสาน มีรายได้จากการท่องเที่ยวน้อยมาก จึงต้องการให้มีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ทั้งในเชิงอนุรักษ์ และทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศได้มากยิ่งขึ้น

ด้านนายนิมิตร งามยิ่งไพศาล ประธานหอการค้า จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า การหารือร่วมกับนายกฯ และคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะประเด็นหลักที่กลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์) นำเสนอในที่ประชุม คือโครงการสร้างทางรถไฟรางคู่ เส้นทางขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มุกดาหาร ซึ่งนายกฯ เห็นชอบและได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม ศึกษาความเป็นไปได้ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หลังจากนั้นให้นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากวิเคราะห์โครงการแล้วมีผลคุ้มค่าเศรษฐกิจชัดเจน ต้องใช้เวลาอีกราว 2 ปี เพื่อศึกษารายละเอียดเชิงวิศวกรรม และคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้าง ประมาณ 3 ปี โดยเส้นทางรถไฟสายนี้ จะมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เส้นทางรถไฟรางคู่สายดังกล่าวนายกฯ เห็นชอบ เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงมากในการขนส่งคมนาคม และยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคอีสาน ที่จะเชื่อมโยงกับเส้นทางเศรษฐกิจใหม่ของภูมิภาคแนวตะวันตก-ออก (East West Economic Corridor: EWEC) รองรับกิจกรรมการค้าการขนส่งที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตสินค้าที่จะส่งออกไปยังภูมิภาคอื่น ผ่านท่าเรือดานัง ประเทศเวียดนาม จะต้องอาศัยเส้นทางสายนี้เป็นหลัก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงทุนสร้างเส้นทางขนส่งระบบรางรองรับ

นายนิมิตร กล่าวว่า แม้ในที่ประชุมจะไม่มีการกล่าวถึงเส้นทางรถไฟสาย บัวใหญ่-มุกดาหาร ซึ่งเป็นเส้นทางที่อยู่ในแผนพัฒนาของกระทรวงคมนาคมอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยการศึกษาครั้งนี้ ก็จะทำให้มีข้อมูลแน่ชัดว่า การลงทุนเส้นทางไหนจะให้ผลคุ้มค่ามากกว่ากัน แต่ในความเห็นของภาคเอกชนกลุ่มสนุก ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบัวใหญ่ จะให้ประโยชน์คุ้มค่าน้อยกว่า สนองประโยชน์การใช้เส้นทางขนส่ง EWEC ได้น้อยกว่า ทั้งยังใช้งบประมาณก่อสร้างมากกว่าอีกด้วย

สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบัวใหญ่ (จ.ขอนแก่น)-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทางรวม 368 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ในแผนการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย กำหนดระยะเวลาดำเนินการปี 2550-2557 วงเงินลงทุนรวมทั้งโครงการราว 16,100 ล้านบาท การรถไฟฯ ศึกษาความเหมาะสมฯแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2538 สถานะโครงการล่าสุดยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการสำรวจ ออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม

"หากรัฐลงทุนสร้างทางรถไฟรางคู่เส้นนี้ไม่เพียงแต่กลุ่มจังหวัดสนุกเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์ ยังครอบคลุมถึงกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสาร คือ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ซึ่ง ขอนแก่นเองก็มีโครงการสร้างไอซีดี จะช่วยให้การพัฒนาระบบลอจิสติกส์เชื่อมเป็นเครือข่ายสมบูรณ์มากขึ้น" นายนิมิตร กล่าว

ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และครม. ให้การต้อนรับและเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นาย ชอกัต อาซิซ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน พร้อมภริยา และคณะ ที่โรงแรมโซฟิเทล จ.ขอนแก่น ทั้งนี้ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการหารือร่วมกันว่า ได้มีข้อตกลงร่วมกัน 3 ข้อ คือ 1.เร่งรัดความร่วมมือด้านการจัดทำเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)ระหว่างกัน 2.เรื่องสิทธิการบิน และ 3.และเรื่องสินค้าโอทอป ซึ่งนายกฯปากีสถานได้รับฟังข้อมูลโอทอปของไทยจากนายกฯ และคิดจะนำแนวทางโอทอปไปทำที่ปากีสถานด้วย

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางด้วยเฮลิคคอปเตอร์ ไปยังที่ว่าการอ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันเรือยาวประเพณี และการแข่งขันเส็งกองกิ่ง ชิงถ้วยพระราชทานพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ประจำปี 2548 ก่อนจะเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์วัดสักกะวัน อ.สหัสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ และฟังสรุปโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำปาว ซึ่งนายกฯได้กล่าวถึงการดำนเนินการจัดทำพิพธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ว่า ควรทำให้มีความน่าสนใจ เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งมีค่า และเป็นอนาคตของประเทศในการสร้างรายได้ในการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรทำกิจกรรมเพื่อโปรโมตกิจกรรมเหล่านี้ โดยนักวิชาการด้านควรนำข้อมูลมาร่วมจัดทำ ตนเดินดูก็รู้ว่าเป็นโครงกระดูก แต่ไม่รู้ว่าเป็นกระดูกอะไร ดังนั้นควรทำสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นแบบแอนนิเมชั้น ให้เคลื่อนไหวได้ เพื่อดึงดูดความสนใจ

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าพักที่โรงแรมริมปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และเป็นสถานที่ในการประชุม ครม.ในวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น