xs
xsm
sm
md
lg

เผยปี49"เออร์ลี่ รีไทร์"อีกรอบ เป้า5หมื่นคน-ไม่มีเครื่องราชย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"วิษณุ"เผยโครงการเออร์ลี่ รีไทร์เกิดขึ้นแน่ คาดเริ่มปีงบประมาณ 49 แย้มตั้งเป้า ขรก. 5 หมื่นคน ยันไม่ให้เครื่องราชย์คนเข้าโครงการ หวั่นกระทบงบประมาณแผ่นดิน ดับกระแสแจกเงินตอบแทนพิเศษ 200 % ชี้ผลงานการปฏิรูปราชการช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้ผลน่าพอใจ เดินหน้าไปแล้วกว่า 50%

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดงาน 3 ปีแห่งการพัฒนาระบบข้าราชการไทย ที่หอประชุมกองทัพเรือว่า รัฐบาลยังมีแนวคิดที่จะจัดทำโครงการเกษียณก่อนอายุราชการ(เออร์ลี่ รีไทร์) เพื่อลดอัตรากำลังข้าราชการ แต่แนวทางในการดำเนินการต่างๆยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่มีการสรุปเงื่อนไขที่ชัดเจน

ทั้งนี้กรอบข้าราชการที่จะเข้าโครงการเออร์ลี่ รีไทร์ ตั้งเป้าไว้ที่ 50,000 อัตรา ส่วนข้อเสนอที่จะมีการมอบเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ ให้กับผู้ที่จะเข้าโครงการคงจะไม่ใช้ แต่จะไปหาสิ่งตอบแทนอื่น เพราะจำนวนข้าราชการที่จะเข้าโครงการมีมาก ซึ่งการให้เครื่องราชย์ฯ จะดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงน้อยนิด แต่หากมีการขอเข้ามามากกว่า 1 ล้านคน ก็จะมีปัญหาว่าไม่คุ้มค่าและรัฐบาลก็จะไม่สามารถบอกได้ว่า จะนำไปแจกผู้ที่จะเข้าโครงการทำไม

อย่างไรก็ตาม โครงการเออร์ลี่ รีไทร์ จะมีการทำไปก่อนการปรับโครงสร้าง กระทรวง ทบวง กรมใหม่ ซึ่งแต่เดิมรัฐบาลคาดว่า จะทำไปพร้อมกับการปรับโครงสร้างฯ แต่เมื่อการปรับโครงสร้างฯ ยังสามารถดำเนินการอยู่ ก็สามารถทำไปก่อน และอาจจะมีการทำหลังการปรับโครงสร้างอีกก็ได้

"ยังตอบไม่ถูกว่าจะเริ่มโครงการเออร์ลี่ รีไทร์ เมื่อไร แต่น่าจะเริ่มใช้ในปีงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2549 โดยจะให้ข้าราชการกลุ่มที่สมัครใจเข้าโครงการ เพราะมีบางคนอาจจะกลัวผลกระทบ หรืออยากจะกลับไปทำธุรกิจตัวเอง หรือ เอสเอ็มอี ก็แล้วแต่เขา รวมทั้งเรื่องเงินตอบแทนก็ยังบอกไม่ถูก แม้ของเดิมจะอยู่ที่ 8-15 เท่า แต่ก็คงจะใช้ประมาณนี้เป็นเงินตอบแทนให้ แต่ผมจะหาอย่างอื่นเสริม และยืนยันว่าไม่ใช่ให้เครื่องราชย์ฯแน่ เพราะจะเป็นภาระกับงบประมาณแผ่นดิน" นายวิษณุ กล่าว

สำหรับร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ...กับร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ... ฉบับปรังปรุงใหม่ จะไม่รอสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ แต่หมายความว่า เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เราจะต้องกะเวลาให้สภาผู้แทนฯเสร็จ และ กลับไปต่อวุฒิสภาได้ทันที ไม่ใช่ให้ไปรอให้เกิดวุฒิสภาชุดใหม่ เพราะอย่างไรสภาผู้แทนราษฎร ก็จะต้องพิจารณาก่อน แต่เรากลัวว่า เมื่อสภาผู้แทนฯพิจารณาเสร็จ และจะนำเข้าพิจารณาต่อในขั้นวุฒิสภา ก็จะหยุดชะงัก

ส่วน ร่าง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยระเบียบวิธีการพัสดุใหม่นั้น จะไม่รอพิจารณาพร้อมกับ ร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ... และ ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ...ฉบับปรังปรุงใหม่ และหากร่างฯใดเสร็จก็สามารถดำเนินการได้เลย เพราะระเบียบพัสดุเป็นระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตีว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ...ก็สามารถดำเนินการได้ทันที แม้กระทั่ง ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ...หากชี้แจงให้ข้าราชการเสร็จ ก็สามารถดำเนินการได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ....ที่กรมไหนจะตั้งขึ้นก่อน ที่เป็นนโยบายของรัฐบาลก็จะแยกมาต่างหาก เฉพาะหน่วยนั้น เช่น กรมข้าว ที่รัฐบาลกำลังพิจารณาตั้ง หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลไปแล้ว และอาจจะออกเป็น ร่าง พ.ร.บ.ก่อน 1 ฉบับ เพราะเดิมรัฐบาลจะจัดทำเป็นโครงสร้างรวม แต่เมื่อทำได้ก็ไม่ต้องรอแล้ว ดังนั้น กรมข้าวก็อาจจะปรับเป็น มิสเตอร์ข้าวในอนาคต

นายวิษณุ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการบรรยายพิเศษเรื่อง "การพัฒนาระบบข้าราชการกับการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการ"ว่า ในส่วนของนโยบายการลดอัตรากำลังข้าราชการ หรือโครงการเออร์ลี่ รีไทร์ นั้น ขอยืนยันว่าจะไม่มีการให้ค่าตอบแทน 50-200 เท่า ตามที่มีกระแสข่าว แต่อาจจะมีสิ่งจูงใจให้ใหม่ เช่น ทหารตำรวจ อาจจะมีการเลื่อนยศให้ แต่จะให้ ซี 7 เป็น ซี 8 หรือให้เครื่องราชย์ คงไม่มี รวมทั้งปีต่อๆไปก็จะต้องมีเช่นกัน

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ใน 3 ปีของการพัฒนาระบบราชการไทย ตนกล้ายืนยัน และพอใจว่าประสบความสำเร็จมากกว่า 50% เนื่องจากมีหน่วยงานเพื่อสนับสนุนเกิดขึ้น คือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่เข้ามาเป็นสถาปนิกเสนอเรื่องให้กระทรวงต่างๆ และคณะรัฐมนตรี ใน 3 ปีที่ผ่านมา ยังมีการตรึงอัตรากำลังข้าราชการได้น่าพอใจ ให้เหลือ 394,865 คน ทั่วประเทศ รวมทั้งมีการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการจากการอบรมให้ความรู้ รวมทั้งมีนวัตกรรมใหม่ คือ โครงการข้าราชการพันธุ์ใหม่

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายใน 3 ปีที่ยังไม่ดำเนินการอย่างชัดเจน คือ 1.ความซ้ำซ้อนในการทำของของหลายหน่วยงานที่จะต้องมีการยุบ ควบรวม หรือเปลี่ยนภารกิจ 2.จัดหาเจ้าภาพเข้ามาทำงานให้ชัดเจนในลักษณะ"ค่อมอุ้มเตี้ย"โดยจะต้องมีการปรับลดกระทรวงให้เหลือ 17-18 กระทรวง จากเดิม 20 กระทรวง อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าภายใน 1 ปีนี้ จะยังไม่มีการปรับกระทรวง ทบวง กรมใหม่แน่นอน

"ผมต้องขอยืนยันว่า รัฐบาลทุกรัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิรูประบบราชการ เพราะทุกรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการขึ้นมา เหมือนกับเรื่องนี้"จ่อคอหอย"อยู่ และเป็นการเดิมพันว่า ทุกรัฐบาลจะต้องปฏิรูประบบราชการให้ได้"นายวิษณุกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น