ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ททท.จับมือสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่จัดคาราวานรถยนต์ไทย-ลาว-จีน เดินทางไป-กลับ "เชียงใหม่-คุนหมิง" หวังบุกเบิกเส้นทางท่องเที่ยวทางบกเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ผลักดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภูมิภาค มั่นใจเป็นปัจจัยเสริมเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ไทย-จีน ให้ได้ถึงปีละ 4 ล้านคนในปี 2010 ตามเป้าหมาย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือเขต 1 ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จัดโครงการคาราวานมิตรภาพสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง ไทย-ลาว-จีน ซึ่งจะเดินทางไป-กลับด้วยคาราวานรถยนต์ ในเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย-เชียงของ-เชียงรุ้ง-ซือเหมา-คุนหมิง ระหว่างวันที่ 22-29 ตุลาคม 2548 เพื่อสำรวจและเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะนำไปสู่การพัฒนาเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวในเชิงธุรกิจในอนาคต
นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ(ททท.) กล่าวว่า การจัดคาราวานในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวตามปกติทั่วไป แต่เป็นโครงการนำร่องเพื่อเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งผลักดันให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค
เป้าหมายเบื้องต้นของการจัดโครงการ จะมุ่งไปที่การนำผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจสัมผัสความแปลกใหม่ในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะนำไปสู่การตัดสินลงทุนทำธุรกิจท่องเที่ยวในเส้นทางนี้ต่อไป โดยหากสำเร็จจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่สนับสนุนความร่วมมือตามข้อตกลงไทย-จีนที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปมาระหว่างทั้ง 2 ประเทศให้ได้ถึงปีละ 4 ล้านคนในปี 2010 ด้วย
"การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวทางบกเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ได้พยายามมานานแล้ว เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาปัจจัยหลายอย่าง อาจจะยังไม่พร้อมเท่าทุกวันนี้ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า เส้นทางนี้มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลักดัน ให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ โดยสามารถพัฒนารูปแบบการเดินทางได้หลายแบบ ทั้งการเดินทางไปด้วยรถยนต์กลับทางเครื่องบิน หรือเดินทางไปด้วยเครื่องบินแล้วกลับทางรถยนต์ ซึ่งล้วนแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดียิ่ง" นายจุณพงศ์ กล่าว
ขณะที่นายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ความตั้งใจหลักของสมาคมฯ ที่ร่วมกับททท.ในการจัดคาราวานรถยนต์ครั้งนี้ เพื่อจะเป็นการประชาสัมพันธ์การเดินทางท่องเที่ยวภาคเหนือที่สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว พม่า และจีนได้
ทั้งนี้ระหว่างการเดินทางในครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสดีที่จะทำให้สมาชิกของสมาคมฯ ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างความสัมพันธ์ กับทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้งลาวและจีนด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการสร้างความร่วมมือต่างๆ ในอนาคต
"เราเชื่อว่าหากพัฒนาเส้นทางนี้ได้เป็นผลสำเร็จ จะเป็นส่วนที่ช่วยสนับสนุนให้เป้าหมายร่วมกันของไทยและจีนที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันให้ได้ถึง 4 ล้านคนต่อปี เป็นไปตามเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทางสมาคมฯ จะพยายามผลักดันเส้นทางการท่องเที่ยวนี้ให้เป็นผลสำเร็จให้ได้ เพราะมองว่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวภาคเหนือ จากการที่มีสินค้าใหม่ทางการท่องเที่ยวด้วย" นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว
ด้านนายขจรวิทย์ บุญสม ประธานโครงการคาราวานมิตรภาพสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง กล่าวว่า ก่อนที่จะจัดทำโครงการนี้ได้เคยทำการสำรวจเส้นทางนี้อย่างละเอียดด้วยตัวเองมาแล้ว ซึ่งมีความมั่นใจว่าเส้นทางนี้ที่เริ่มจากภาคเหนือของไทยผ่านลาวไปสิ้นสุดที่เมืองคุนหมิงของจีน เป็นเส้นทางที่มีศักยภาพสูงต่อการพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธุรกิจได้ แม้ปัจจุบันเส้นทางอาจจะไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ แต่อนาคตประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะจีนได้มีแผนงานชัดเจน ที่จะพัฒนาเส้นทางอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าน่าจะสามารถทำการพัฒนาได้
นอกจากนี้ ประธานโครงการคาราวานมิตรภาพสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง แสดงความเห็นว่า หากเส้นทางนี้ได้รับการพัฒนาสมบูรณ์แบบ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงกับประเทศจีนได้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ รวมทั้งประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก ซึ่งเฉพาะเส้นทางนี้หากเราสามารถส่งนักท่องเที่ยวไปได้ 1 คน ทางจีนสามารถที่จะส่งนักท่องเที่ยวมาไทยได้ถึง 3 คน นับเป็นผลดีที่เห็นได้อย่างชัดเจน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือเขต 1 ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จัดโครงการคาราวานมิตรภาพสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง ไทย-ลาว-จีน ซึ่งจะเดินทางไป-กลับด้วยคาราวานรถยนต์ ในเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย-เชียงของ-เชียงรุ้ง-ซือเหมา-คุนหมิง ระหว่างวันที่ 22-29 ตุลาคม 2548 เพื่อสำรวจและเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะนำไปสู่การพัฒนาเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวในเชิงธุรกิจในอนาคต
นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ(ททท.) กล่าวว่า การจัดคาราวานในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวตามปกติทั่วไป แต่เป็นโครงการนำร่องเพื่อเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งผลักดันให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค
เป้าหมายเบื้องต้นของการจัดโครงการ จะมุ่งไปที่การนำผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจสัมผัสความแปลกใหม่ในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะนำไปสู่การตัดสินลงทุนทำธุรกิจท่องเที่ยวในเส้นทางนี้ต่อไป โดยหากสำเร็จจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่สนับสนุนความร่วมมือตามข้อตกลงไทย-จีนที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปมาระหว่างทั้ง 2 ประเทศให้ได้ถึงปีละ 4 ล้านคนในปี 2010 ด้วย
"การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวทางบกเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ได้พยายามมานานแล้ว เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาปัจจัยหลายอย่าง อาจจะยังไม่พร้อมเท่าทุกวันนี้ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า เส้นทางนี้มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลักดัน ให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ โดยสามารถพัฒนารูปแบบการเดินทางได้หลายแบบ ทั้งการเดินทางไปด้วยรถยนต์กลับทางเครื่องบิน หรือเดินทางไปด้วยเครื่องบินแล้วกลับทางรถยนต์ ซึ่งล้วนแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดียิ่ง" นายจุณพงศ์ กล่าว
ขณะที่นายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ความตั้งใจหลักของสมาคมฯ ที่ร่วมกับททท.ในการจัดคาราวานรถยนต์ครั้งนี้ เพื่อจะเป็นการประชาสัมพันธ์การเดินทางท่องเที่ยวภาคเหนือที่สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว พม่า และจีนได้
ทั้งนี้ระหว่างการเดินทางในครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสดีที่จะทำให้สมาชิกของสมาคมฯ ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างความสัมพันธ์ กับทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้งลาวและจีนด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการสร้างความร่วมมือต่างๆ ในอนาคต
"เราเชื่อว่าหากพัฒนาเส้นทางนี้ได้เป็นผลสำเร็จ จะเป็นส่วนที่ช่วยสนับสนุนให้เป้าหมายร่วมกันของไทยและจีนที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันให้ได้ถึง 4 ล้านคนต่อปี เป็นไปตามเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทางสมาคมฯ จะพยายามผลักดันเส้นทางการท่องเที่ยวนี้ให้เป็นผลสำเร็จให้ได้ เพราะมองว่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวภาคเหนือ จากการที่มีสินค้าใหม่ทางการท่องเที่ยวด้วย" นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว
ด้านนายขจรวิทย์ บุญสม ประธานโครงการคาราวานมิตรภาพสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง กล่าวว่า ก่อนที่จะจัดทำโครงการนี้ได้เคยทำการสำรวจเส้นทางนี้อย่างละเอียดด้วยตัวเองมาแล้ว ซึ่งมีความมั่นใจว่าเส้นทางนี้ที่เริ่มจากภาคเหนือของไทยผ่านลาวไปสิ้นสุดที่เมืองคุนหมิงของจีน เป็นเส้นทางที่มีศักยภาพสูงต่อการพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธุรกิจได้ แม้ปัจจุบันเส้นทางอาจจะไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ แต่อนาคตประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะจีนได้มีแผนงานชัดเจน ที่จะพัฒนาเส้นทางอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าน่าจะสามารถทำการพัฒนาได้
นอกจากนี้ ประธานโครงการคาราวานมิตรภาพสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง แสดงความเห็นว่า หากเส้นทางนี้ได้รับการพัฒนาสมบูรณ์แบบ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงกับประเทศจีนได้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ รวมทั้งประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก ซึ่งเฉพาะเส้นทางนี้หากเราสามารถส่งนักท่องเที่ยวไปได้ 1 คน ทางจีนสามารถที่จะส่งนักท่องเที่ยวมาไทยได้ถึง 3 คน นับเป็นผลดีที่เห็นได้อย่างชัดเจน