xs
xsm
sm
md
lg

เตือนทำบัตรสมาร์ทการ์ดอย่ากดดันชาวบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้นำศาสนา 3 จังหวัดชายแดนใต้เตือนทำบัตรสมาร์ทการ์ดสร้างความกดดันให้ชาวบ้านถูกรัฐฯจับตามองอย่างใกล้ชิด ขณะที่อธิบดีกรมปกครองไม่มั่นใจแก้ปัญหาคนสองสัญชาติได้ คณะกก.สิทธิฯ สรุปผลสอบสะบ้าย้อยชี้เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ตร.รวบอีกหนึ่งผู้ต้องหาคดีที่ตันหยงลิมอ ส่วนเหตุร้ายรายวันทหารพรานถูกยิงดับ 4 นาย พร้อมครูสอนศิลปะอีกหนึ่ง ชาวบ้าน 2 รายเจ็บสาหัส

นายนิมุ มะกาเจ รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลาม จังหวัดยะลา เปิดเผยถึงการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนแบบเอนกประสงค์ หรือ บัตรสมาร์ทการ์ด ว่า อยากให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงถึงผลดีและผลเสียให้ชัดเจนและบอกด้วยว่าข้อมูลใดบ้างที่จะนำมาบรรจุไว้ เพราะทราบกันเพียงว่าข้อมูลที่บรรจุลงบัตรเป็นการยืนยันสัญชาติไทยเพื่อแก้ปัญหาบุคคลสองสัญชาติเท่านั้น หากเป็นเช่นนี้จะทำให้ชาวบ้านรู้สึกกดดันและน้อยใจที่พวกเขาต้องถูกตรวจสอบประวัติเป็นพื้นที่แรกทั้งที่คนสองสัญชาติมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ

“ผมกลัวว่าชาวบ้านจะไม่เข้าใจและจะต่อต้านรัฐมากขึ้น เพื่อลดกระแสต่อต้านและกดดันควรใส่ข้อมูลในแง่ดีของแต่ละคนลงไปด้วย จะทำให้เขาไม่รู้สึกว่าถูกจับตามอง เชื่อว่าชาวบ้านไม่ปฏิเสธที่จะใช้สมาร์ทการ์ด แต่อย่ากดดัน อย่าให้ชาวบ้านคิดว่าเป็นอาวุธร้ายที่จะมาตรวจสอบหรือทำร้ายเขา ต้องสร้างภาพให้เขามองไปในทางที่ดี”” นายนิมุ กล่าว

ทั้งนี้ งานวิจัยเรื่อง “ความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้” ของวิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และวิทยาลัยอิสลามยะลา ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เมื่อต้นปี 2548 ระบุถึงการนำบัตรสมาร์ทการ์ดมาใช้ในพื้นที่ว่า ประชาชนมีความรู้สึกถูกควบคุมมากขึ้น ข้อมูลที่บรรจุในบัตรทำให้อึดอัดใจเพราะไม่รู้ว่าข้อมูลที่ใส่เข้าไปจะตรงกับความจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาข้อมูลที่ปรากฏในบัตรประชาชนแบบเดิมยังมีข้อผิดพลาดอยู่มาก

ด้านนายศิวะ แสงมณี อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเดินทางมาอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อเร่งรัดการทำบัตรสมาร์ทการ์ด ที่จ. ปัตตานี เมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) กล่าวว่า จะเร่งรัดจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด คาดว่าภายใน 60 วัน จะออกบัตรให้ประชาชนได้กว่า 9 แสนคน โดยจะเริ่มทำวันที่ 6 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนข้อมูลที่บรรจุในบัตรมี 2 ส่วน คือข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการปกครองและข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือ ส่วนข้อมูลอื่นๆ เช่น ประกันสังคม ประกันสุขภาพ ฯลฯ จะบรรจุเข้าไปในภายหลัง

อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ไม่ได้บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับการถือสัญชาติลงไปในบัตร บัตรสมาร์ทการ์ดไม่ใช่การแก้ไขปัญหาคนสองสัญชาติแต่เป็นการพิสูจน์ยืนยันว่าใครเป็นคนไทย ใครสัญชาติไทย โดยตรวจสอบจากลายพิมพ์นิ้วมือในบัตรเทียบกับฐานข้อมูลที่เก็บไว้ เพราะยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครมีสองสัญชาติ

** คดีสะบ้าย้อย เจ้าหน้าที่ทำเกินเหตุ


ในวันเดียวกันนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบกรณีเยาวชนกลุ่มหนึ่งเข้าโจมตีจุดตรวจและบริการประชาชน ตลาดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่มีการบุกโจมตีสถานที่ราชการหลายแห่งในวันที่ 28 เม.ย. 47 ทำให้กลุ่มเยาวชนเสียชีวิตถึง 19 คน ความยาว 21 หน้า

รายงานดังกล่าว สรุปความว่า มีข้อมูลเชื่อว่ากลุ่มเยาวชนดังกล่าวได้ยอมจำนนแล้ว เจ้าหน้าที่ควรจับกุมและสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่น่าใช้วิธีการรุนแรงจนเสียชีวิตเกือบทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุเพราะตรวจพบบาดแผลส่วนใหญ่ถูกยิงเข้าบริเวณศรีษะด้านหลังและกลางหลัง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการนำหลักนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยในการสอบหาข้อเท็จจริงของการตายได้อย่างคลายความสงสัยว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันตนเอง

รายงานฉบับนี้ เสนอให้รัฐบาลสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบถึงสาเหตุการตายของผู้เสียชีวิตให้ความจริงปรากฏอย่างหมดข้อสงสัยเพื่อสร้างความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมให้กับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และให้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น

**รวบอีกหนึ่งผู้ต้องหาคดีตันหยงลิมอ

สำหรับความคืบหน้าคดีที่ตันหยงลิมอ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 จ.สงขลา เปิดเผยว่า วานนี้ (27 ก.ย.) ได้ขอหมายจับจากศาลในคดีร่วมกันทำร้ายทหารนาวิกโยธินเสียชีวิตที่บ้านตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพิ่มเติมอีก 4 คน จนถึงขณะนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับจากคดีดังกล่าวแล้ว 22 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 3 คน และมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะยื่นขอหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 3 คน (รายชื่อผู้ต้องหา)

ส่วนความคืบหน้าคดียิงถล่มร้านน้ำชาที่บ้านตันหยงลิมอ ที่เป็นเหตุให้ชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย พล.ต.ต.วีรยุทธ สิทิมาลิก รองผบช.ภ.9 ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดี เปิดเผยว่า จากการตรวจพิสูจน์หัวกระสุนปืนที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุตรงกับปืนที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสมาแล้ว 2 ครั้ง ทั้งเหตุการณ์ยิงทหารที่อ.สุไหงปาดี เมื่อเดือนธ.ค. 47 และเหตุยิงชาวบ้านเมื่อเดือนพ.ค. 48 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบวิถีกระสุนพบว่าการยิงของคนร้ายไม่มีเป้าหมายชัดเจน เป็นลักษณะการกราดยิง ทำให้รัศมีวิถีกระสุนกระจายไปยังบ้านอีก 4 หลังที่อยู่ข้างร้านน้ำชา ทำให้สรุปได้ว่า คนร้ายมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนในเหตุการณ์นี้ กรณีสงสัยว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้ก่อเหตุจึงตัดทิ้งไปได้เลย

** ดีเอสไอ ชี้ “ตันหยงลิมอ”แหล่งกบดาน

ด้าน พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวความคืบหน้าในการดำเนินคดีใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ขณะนี้สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว 8 คดี ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลอีก 3 คดี ส่วนเหตุการณ์สังหารนาวิกโยธินที่ตันหยงลิมอ ผู้ร่วมก่อเหตุอยู่ในขบวนการที่ดีเอสไอจับตาอย่างใกล้ชิดและมีผู้ต้องหา 1 รายที่หลบหนีหมายจับคือ “โต๊แช” ที่เข้ามาในพื้นที่ระหว่างเกิดเหตุด้วย และผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีปล้นปืน ที่อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 6 ราย เป็นบุคลลที่มีภูมิลำเนาในต.ตันหยงลิมอ

คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ทางด้านการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอได้ใช้เครื่องดักฟังการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือและอยู่ระหว่างการตรวจสอบเปรียบเทียบคลื่นเสียง คาดว่าจะนำไปสู่การคลี่คลายคดีความไม่สงบได้

**ฆ่าทหารพราน – ครู-ชาวบ้าน

สำหรับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นตลอดวานนี้ เกิดเหตุคนร้ายดักยิงเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองครู จนเสียชีวิต 4 นาย ที่อ.รามัน จ.ยะลา ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.วราวุฒิ พรหมแก้ว อายุ 48 ปี อาสาสมัครทหารพรานปฏิยุทธ พรหมบุรี อายุ 27 ปี อาสาสมัครทหารพรานอานนท์ บุญรอด อายุ 19 ปี และอาสาสมัครทหารพรานสุวิทย์ คุ่ยหนู อายุ 27 ปี โดยมีรถจักรยานยนต์ล้มในที่เกิดเหตุ 2 คัน บนถนนพบปลอกกระสุนอาก้ากว่า 50 ปลอก ส่วนบนเนินที่คนร้ายซุ่มอยู่พบปลอกกระสุนเอ็ม 16 และปืนลูกซองตกอยู่กว่า 30 ปลอก

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ยิงครูสอนศิลปะโรงเรียนประสานวิทยา ม.5 บ้านพงสตาร์ ต.ยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ และยังมีชาวบ้านถูกยิงสาหัส อีก 2 ราย ทราบชื่อนายดีแม สาระ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/3 ม.4 ต.ตะโล๊ะหะลอ ส่วนอีกคนชื่อนายอาแว ลีดิง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 ม.4 ต.ตะโล๊ะหะลอ เช่นกัน

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ดูแลพื้นที่เป็นพิเศษและจะเดินทางไปยังพื้นที่ แต่ยังไม่กำหนดวันที่แน่นอน ขณะที่นายเนวิน ชิดชอบ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า ตลาดนัดวันศุกร์ยังจะเดินหน้าต่อไป และจะมีรัฐมนตรี 3 คนลงไปยังพื้นที่ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น