"วัฒนา อัศวเหม"ทำบุญครบรอบวันเกิด 73 ปี พร้อมยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยคิดเอาทรัพย์แผ่นดินมาเป็นของตัวเอง และท้าหากทำผิดขอให้เอาไปยิงเป้า ขู่ฟ้องนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นคนปูด
วานนี้(26 ก.ย.) นายวัฒนา อัศวเหม ที่ปรึกษาพรรคมหาชน ได้ทำบุญเลี้ยงพระเพล ณ อุโบสถวัดสระเกศ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 73 ปี โดยมีแกนนำพรรคมหาชน ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และคนใกล้ชิดเข้าร่วมอวยพรจำนวนมาก
นายวัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาบุกรุกป่ากะปง จ.พังงา ว่า ตนเป็นคนไทย มีวุฒิภาวะพอที่จะไม่เอาทรัพย์ของแผ่นดินมาเป็นของตัวเอง และขอยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอุโบสถว่า หากตนทำอะไรผิด คิดร้ายต่อแผ่นดิน ขออย่าเอาตนไว้ ให้เอาไปยิงเป้าได้เลย ทั้งนี้ตนถูกกล่าวหามาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องไม้เชียงแสน เรื่องบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ และมาครั้งนี้ เรื่องบุกรุกป่ากะปง ทั้งที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในบริษัทที่ซื้อที่ และบริษัทที่ซื้อที่ดินดังกล่าวยังยืนยันว่า ซื้อที่ดินดังกล่าวมาโดยถูกต้อง
ส่วนที่ว่าจะฟ้องร้องคนที่กล่าวหาเรื่องรุกป่ากะปงนั้น นายวัฒนา กล่าวว่า ไม่เคยพูดว่าจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แต่จะฟ้องร้องคนบางคนที่ทำลายชื่อเสียงเกียรติยศของตน โดยการให้ข่าวทางสื่อต่างๆ เพื่อป้องกันเกียรติยศของตน และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยถึงขั้นคดีอาญา ไม่ใช่แค่หมิ่นประมาท เพราะการให้ร้ายและกล่าวโทษให้ตนต้องรับโทษทางคดีอาญา ต้องดำเนินการมากกว่าคดีหมิ่นประมาท
นอกจากนี้ตนยังมีข้อมูลว่าบุคคลที่ให้ข่าวกับดีเอสไอในเรื่องที่ดินกะปง เป็นผู้บุกรุกที่ดินบริเวณดังกล่าวเอง แต่ปลุกกระแสเพื่อต้องการให้เกิดปัญหา และจะเข้ายึดครองที่ดินดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ตนมีเอกสารหลักฐานตรงนี้แล้ว ซึ่งจะได้นำไปมอบให้ดีเอสไอ ดำเนินการต่อไป โดยบุคคลดังกล่าวเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น และ ก่อนวันที่ 5 ต.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปที่ ดีเอสไอ เพื่อไปชี้แจงข้อกล่าวหา ทั้งหมด
วานนี้(26 ก.ย.) นายวัฒนา อัศวเหม ที่ปรึกษาพรรคมหาชน ได้ทำบุญเลี้ยงพระเพล ณ อุโบสถวัดสระเกศ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 73 ปี โดยมีแกนนำพรรคมหาชน ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และคนใกล้ชิดเข้าร่วมอวยพรจำนวนมาก
นายวัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาบุกรุกป่ากะปง จ.พังงา ว่า ตนเป็นคนไทย มีวุฒิภาวะพอที่จะไม่เอาทรัพย์ของแผ่นดินมาเป็นของตัวเอง และขอยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอุโบสถว่า หากตนทำอะไรผิด คิดร้ายต่อแผ่นดิน ขออย่าเอาตนไว้ ให้เอาไปยิงเป้าได้เลย ทั้งนี้ตนถูกกล่าวหามาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องไม้เชียงแสน เรื่องบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ และมาครั้งนี้ เรื่องบุกรุกป่ากะปง ทั้งที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในบริษัทที่ซื้อที่ และบริษัทที่ซื้อที่ดินดังกล่าวยังยืนยันว่า ซื้อที่ดินดังกล่าวมาโดยถูกต้อง
ส่วนที่ว่าจะฟ้องร้องคนที่กล่าวหาเรื่องรุกป่ากะปงนั้น นายวัฒนา กล่าวว่า ไม่เคยพูดว่าจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แต่จะฟ้องร้องคนบางคนที่ทำลายชื่อเสียงเกียรติยศของตน โดยการให้ข่าวทางสื่อต่างๆ เพื่อป้องกันเกียรติยศของตน และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยถึงขั้นคดีอาญา ไม่ใช่แค่หมิ่นประมาท เพราะการให้ร้ายและกล่าวโทษให้ตนต้องรับโทษทางคดีอาญา ต้องดำเนินการมากกว่าคดีหมิ่นประมาท
นอกจากนี้ตนยังมีข้อมูลว่าบุคคลที่ให้ข่าวกับดีเอสไอในเรื่องที่ดินกะปง เป็นผู้บุกรุกที่ดินบริเวณดังกล่าวเอง แต่ปลุกกระแสเพื่อต้องการให้เกิดปัญหา และจะเข้ายึดครองที่ดินดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ตนมีเอกสารหลักฐานตรงนี้แล้ว ซึ่งจะได้นำไปมอบให้ดีเอสไอ ดำเนินการต่อไป โดยบุคคลดังกล่าวเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น และ ก่อนวันที่ 5 ต.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปที่ ดีเอสไอ เพื่อไปชี้แจงข้อกล่าวหา ทั้งหมด