เซ็นทรัลฯทุ่มงบ 100 ล้านบาท บุกร้านอานตี้แอนส์เต็มสูบในปีหน้า ขยายสาขาอีก 20 แห่ง หวังปั้นยอดขายสู่ 500 ล้านบาท เล็งขอสิทธิ์เพิ่มในตลาดประเทศใกล้เคียง พร้อมส่งเมนูใหม่เป็นแห่งที่สองของโลกต่อจากอเมริกา
นายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท เซ็นทรัล เรสเตอร์รองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ในปีหน้ามีแผนลงทุนขยายสาขาของอานตี้แอนส์ประมาณ 20 สาขา โดยเน้นไปที่การสร้างร้านแบบมีที่นั่ง เนื่องจากจะมียอดขายมากกว่าสาขาที่ไม่มีที่นั่งกว่า 40% ซึ่งร้านแบบใหญ่ลงทุน 4-5 ล้านบาทต่อสาขาและร้านแบบเล็กลงทุน 2-3 ล้านบาทต่อสาขา โดยตั้งงบประมาณรวม 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนเองและยังไม่ขายแฟรนไชส์ โดยเน้นเปิดตามศูนย์การค้าทั่วไปในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เช่น เตรียมเปิดสาขาแห่งที่ 2 ในเซ็นทรัลลาดพร้าว ,เซ็นทรัลพระรามสอง,บิ๊กซีเชียงรายและ บิ๊กซีเพชรบุรี
ทั้งนี้อานตี้แอนส์ ในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 60%และตั้งเป้ายอดขายปีนี้ประมาณ 400 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าจะมียอดขาย 500 ล้านบาท โดยยอดคนเข้าร้านรวมทุกสาขา 5 แสนคนต่อเดือน ส่วนปริมาณค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 65 บาทต่อคนต่อครั้ง ปัจจุบันมีสาขา 60 แห่ง โดยมีรูปแบบที่มีที่นั่งมากถึง 90% และมีสมาชิกกว่า 1 แสนคน คาดปีหน้าเพิ่มเป็น 1.5 แสนคน
บริษัทฯเคยมีการเจรจากับทางบริษัทแม่ที่อเมริกาเพื่อขอขยายสิทธิแฟรนไชส์ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งอานตี้แอนส์ในไทยถือว่ามีการเติบโตเร็วที่สุดทั้งยอดขายและสาขา รองมาจากบริษัทแม่ อีกทั้งเป็นต้นแบบในเรื่องการของการพัฒนาสาขา,การพัฒนาเมนู, การบริการ และกิจกรรมตลาด
ทั้งนี้การเติบโตของอานตี้แอนส์ในไทยนั้นมาจากการทำตลาดต่อเนื่องและจัดกิจกรรมตลอดเวลา รวมถึงการออกเมนูใหม่ เช่น เพรทเซลด็อก เพิ่มยอดขายได้ 20% และเพิ่มสัดส่วนลูกค้าผู้ชายจาก 20% เป็น 30% และเพรทเซลด็อก นิวออร์ลีนส์ ทำยอดขายสัดส่วน 15% จากรายได้รวม ต่อมาคือ สโนว์ สติกซ์ ซึ่งหมดแคมเปญแล้วจะนำกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง
ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวเพรทเซล น็อตส์ ซึ่งเป็นที่แรกในโลกยกเว้นประเทศอเมริกา โดยมีลักษณะรูปทรงใหม่เป็นน็อตหรือการผูกเป็นปมและมีท็อปปิ้งด้วย ซึ่ง 1 กล่องมี 3 ชิ้นราคา 65 บาท โดยเปิดตัวช่วงต.ค.-พ.ย. และจัดแคมเปญราคาชุดละ 79 บาท ประกอบด้วย เพรทเซล น็อตส์ 3 ชิ้น ซอสมะเขือเทศและโค้ก หากได้รับการตอบรับที่ดีจะคงไว้เป็นเมนูถาวร สินค้าใหม่นี้ใช้งบตลาด 15 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้ 25%
สำหรับภาพรวมของฟาสต์ฟู้ดในเวลานี้ยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่อง10% เนื่องมาจากแต่ละแบรนด์ยังคงเพิ่มสาขามากขึ้น และมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อรักษาลูกค้าเก่าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ส่วนตลาดเพรทเซลนั้นมีโอกาสที่จะมีรายใหม่เข้ามาในตลาด ซึ่งในอเมริกามีหลายแบรนด์ เช่น เพรทเซลเวิลด์ เพรทเซลไทม์ แต่อานตี้แอนส์ถือเป็นรายใหญ่ที่สุดของโลกมีสาขามากกว่า 900 แห่งทั่วโลก
นายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท เซ็นทรัล เรสเตอร์รองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ในปีหน้ามีแผนลงทุนขยายสาขาของอานตี้แอนส์ประมาณ 20 สาขา โดยเน้นไปที่การสร้างร้านแบบมีที่นั่ง เนื่องจากจะมียอดขายมากกว่าสาขาที่ไม่มีที่นั่งกว่า 40% ซึ่งร้านแบบใหญ่ลงทุน 4-5 ล้านบาทต่อสาขาและร้านแบบเล็กลงทุน 2-3 ล้านบาทต่อสาขา โดยตั้งงบประมาณรวม 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนเองและยังไม่ขายแฟรนไชส์ โดยเน้นเปิดตามศูนย์การค้าทั่วไปในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เช่น เตรียมเปิดสาขาแห่งที่ 2 ในเซ็นทรัลลาดพร้าว ,เซ็นทรัลพระรามสอง,บิ๊กซีเชียงรายและ บิ๊กซีเพชรบุรี
ทั้งนี้อานตี้แอนส์ ในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 60%และตั้งเป้ายอดขายปีนี้ประมาณ 400 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าจะมียอดขาย 500 ล้านบาท โดยยอดคนเข้าร้านรวมทุกสาขา 5 แสนคนต่อเดือน ส่วนปริมาณค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 65 บาทต่อคนต่อครั้ง ปัจจุบันมีสาขา 60 แห่ง โดยมีรูปแบบที่มีที่นั่งมากถึง 90% และมีสมาชิกกว่า 1 แสนคน คาดปีหน้าเพิ่มเป็น 1.5 แสนคน
บริษัทฯเคยมีการเจรจากับทางบริษัทแม่ที่อเมริกาเพื่อขอขยายสิทธิแฟรนไชส์ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งอานตี้แอนส์ในไทยถือว่ามีการเติบโตเร็วที่สุดทั้งยอดขายและสาขา รองมาจากบริษัทแม่ อีกทั้งเป็นต้นแบบในเรื่องการของการพัฒนาสาขา,การพัฒนาเมนู, การบริการ และกิจกรรมตลาด
ทั้งนี้การเติบโตของอานตี้แอนส์ในไทยนั้นมาจากการทำตลาดต่อเนื่องและจัดกิจกรรมตลอดเวลา รวมถึงการออกเมนูใหม่ เช่น เพรทเซลด็อก เพิ่มยอดขายได้ 20% และเพิ่มสัดส่วนลูกค้าผู้ชายจาก 20% เป็น 30% และเพรทเซลด็อก นิวออร์ลีนส์ ทำยอดขายสัดส่วน 15% จากรายได้รวม ต่อมาคือ สโนว์ สติกซ์ ซึ่งหมดแคมเปญแล้วจะนำกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง
ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวเพรทเซล น็อตส์ ซึ่งเป็นที่แรกในโลกยกเว้นประเทศอเมริกา โดยมีลักษณะรูปทรงใหม่เป็นน็อตหรือการผูกเป็นปมและมีท็อปปิ้งด้วย ซึ่ง 1 กล่องมี 3 ชิ้นราคา 65 บาท โดยเปิดตัวช่วงต.ค.-พ.ย. และจัดแคมเปญราคาชุดละ 79 บาท ประกอบด้วย เพรทเซล น็อตส์ 3 ชิ้น ซอสมะเขือเทศและโค้ก หากได้รับการตอบรับที่ดีจะคงไว้เป็นเมนูถาวร สินค้าใหม่นี้ใช้งบตลาด 15 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้ 25%
สำหรับภาพรวมของฟาสต์ฟู้ดในเวลานี้ยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่อง10% เนื่องมาจากแต่ละแบรนด์ยังคงเพิ่มสาขามากขึ้น และมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อรักษาลูกค้าเก่าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ส่วนตลาดเพรทเซลนั้นมีโอกาสที่จะมีรายใหม่เข้ามาในตลาด ซึ่งในอเมริกามีหลายแบรนด์ เช่น เพรทเซลเวิลด์ เพรทเซลไทม์ แต่อานตี้แอนส์ถือเป็นรายใหญ่ที่สุดของโลกมีสาขามากกว่า 900 แห่งทั่วโลก