กลุ่มประเทศโอเปกตกลงกันวานนี้(20) คงเพดานการผลิตไว้เท่าเดิม แต่พร้อมเดินเครื่องใช้กำลังความสามารถการผลิตที่ยังเหลืออยู่อีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถ้าหากมีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลงเพราะแรงเทขายทำกำไร หลังจากพุ่งพรวดไปถึงกว่า 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์(19)
คำแถลงของบรรดารัฐมนตรีน้ำมันพลังงานขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ภายหลังประชุมที่กรุงเวียนนาเป็นวันที่สองเมื่อวานนี้ เป็นการยืนยันความคาดหมายอย่างกว้างขวางของตลาดที่ว่า ทางกลุ่มจะยืนโควตาการผลิตเป็นทางการเอาไว้ที่ 28 ล้านบาร์เรลต่อวัน และพร้อมผลิตเพิ่มอีกวันละ 2 ล้านบาร์เรลหากทำท่าจะมีปัญหาด้านซัปพลายขึ้นมา แทนที่จะใช้อีกทางเลือกหนึ่งซึ่งบางชาติโอเปกเสนอ นั่นคือ การประกาศเพิ่มเพดานการผลิตไปเลย 500,000 ล้านบาร์เรลต่อวัน
รัฐมนตรีพลังงาน ราฟาเอล รามิเรซ ของเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมในเวียนนา บอกด้วยว่าข้อตกลงล่าสุดนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นเวลา 3 เดือน
สำหรับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกนั้น สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของตลาดไนเม็กซ์ในนครนิวยอร์ก ซื้อขายกันในแถบยุโรปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อนตลาดจริงเปิดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 66.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากราคาปิดวันจันทร์ 99 เซ็นต์ ขณะที่สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของตลาดลอนดอน ซื้อขายกันช่วงเที่ยงวานนี้ที่ลอนดอน ก็มีราคาต่ำลง 1.11 ดอลลาร์ เหลือ 64.50 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์บอกว่า ราคาที่ลดลงเช่นนี้เป็นการเทขายทำกำไรไว้ก่อน หลังจากที่น้ำมันแพงพุ่งลิ่วในวันจันทร์ สืบเนื่องจากความวิตกว่า พายุโซนร้อน "ริตา" จะเพิ่มความแรงกลายเป็นพายุเฮอริเคน และพัดกระหน่ำใส่พื้นที่สำคัญในการผลิตและกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯแถบอ่าวเม็กซิโก ซึ่งยังไม่ทันฟื้นจากฤทธิ์เดชพายุเฮอริเคนแคทรีนา
ทั้งนี้ น้ำมันไลต์สวีตครูดปิดตลาดนิวยอร์กวันจันทร์ โดยกระโจนพรวดขึ้นมาถึง 4.39 ดอลลาร์ ขณะที่เบรนต์ของลอนดอนปิดวันเดียวกัน ทะยานขึ้น 3.80 ดอลลาร์
ราคาทองพุ่งทำสถิติใหม่รอบ 17 ปี
อนึ่ง ในลอนดอนวานนี้ ราคาทองซึ่งซื้อขายกันที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ได้พุ่งทะลุเหนือระดับทรอยเอาซ์ละ 470 ดอลลาร์ ขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับแต่เดือนมกราคม 1988 เนื่องจากกองทุนเก็งกำไรเข้าไปซื้อกันมาก
ขณะที่โลหะอื่นๆ อย่าง ทองแดง และ แพลตตินัม ราคาก็ขึ้นแรงเช่นกัน
คำแถลงของบรรดารัฐมนตรีน้ำมันพลังงานขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ภายหลังประชุมที่กรุงเวียนนาเป็นวันที่สองเมื่อวานนี้ เป็นการยืนยันความคาดหมายอย่างกว้างขวางของตลาดที่ว่า ทางกลุ่มจะยืนโควตาการผลิตเป็นทางการเอาไว้ที่ 28 ล้านบาร์เรลต่อวัน และพร้อมผลิตเพิ่มอีกวันละ 2 ล้านบาร์เรลหากทำท่าจะมีปัญหาด้านซัปพลายขึ้นมา แทนที่จะใช้อีกทางเลือกหนึ่งซึ่งบางชาติโอเปกเสนอ นั่นคือ การประกาศเพิ่มเพดานการผลิตไปเลย 500,000 ล้านบาร์เรลต่อวัน
รัฐมนตรีพลังงาน ราฟาเอล รามิเรซ ของเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมในเวียนนา บอกด้วยว่าข้อตกลงล่าสุดนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นเวลา 3 เดือน
สำหรับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกนั้น สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของตลาดไนเม็กซ์ในนครนิวยอร์ก ซื้อขายกันในแถบยุโรปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อนตลาดจริงเปิดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 66.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากราคาปิดวันจันทร์ 99 เซ็นต์ ขณะที่สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของตลาดลอนดอน ซื้อขายกันช่วงเที่ยงวานนี้ที่ลอนดอน ก็มีราคาต่ำลง 1.11 ดอลลาร์ เหลือ 64.50 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์บอกว่า ราคาที่ลดลงเช่นนี้เป็นการเทขายทำกำไรไว้ก่อน หลังจากที่น้ำมันแพงพุ่งลิ่วในวันจันทร์ สืบเนื่องจากความวิตกว่า พายุโซนร้อน "ริตา" จะเพิ่มความแรงกลายเป็นพายุเฮอริเคน และพัดกระหน่ำใส่พื้นที่สำคัญในการผลิตและกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯแถบอ่าวเม็กซิโก ซึ่งยังไม่ทันฟื้นจากฤทธิ์เดชพายุเฮอริเคนแคทรีนา
ทั้งนี้ น้ำมันไลต์สวีตครูดปิดตลาดนิวยอร์กวันจันทร์ โดยกระโจนพรวดขึ้นมาถึง 4.39 ดอลลาร์ ขณะที่เบรนต์ของลอนดอนปิดวันเดียวกัน ทะยานขึ้น 3.80 ดอลลาร์
ราคาทองพุ่งทำสถิติใหม่รอบ 17 ปี
อนึ่ง ในลอนดอนวานนี้ ราคาทองซึ่งซื้อขายกันที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ได้พุ่งทะลุเหนือระดับทรอยเอาซ์ละ 470 ดอลลาร์ ขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับแต่เดือนมกราคม 1988 เนื่องจากกองทุนเก็งกำไรเข้าไปซื้อกันมาก
ขณะที่โลหะอื่นๆ อย่าง ทองแดง และ แพลตตินัม ราคาก็ขึ้นแรงเช่นกัน