ได้แสดงเรื่องนิมิตและลางมาแล้ว จากนี้ไปจะได้วิสัชนาในเรื่องอาเพศ ซึ่งเป็นเรื่องของบ้านเมือง ผู้มีอำนาจ และผู้ปกครองโดยตรง
เหตุดีร้ายในบ้านเมืองหากเป็นเรื่องเล็กๆ ก็จะมีอาเพศเล็กๆ น้อยๆ ที่สังเกตได้ยาก แต่ถ้าหากเป็นเหตุใหญ่ก็จะมีอาเพศใหญ่ เช่นในกรณีที่จะเกิดศึกสงครามถึงขนาดจะเสียบ้านเสียเมือง ในกรณีที่ผู้ปกครองบ้านเมืองไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ธรรม จนราชการบ้านเมืองวิปริตผันแปร อาณาประชาราษฎรตกอยู่ในท่ามกลางทุกข์เข็ญ เช่นนี้ก็มักมีอาเพศใหญ่
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาเพศมีมาก็เพื่อเป็นทางให้สืบเสาะหาเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศแล้วขจัดเหตุนั้นเสีย อาเพศก็จะระงับสิ้นไป และเหตุร้ายของบ้านเมืองก็จะระงับดับไปด้วย
ถ้าสังเกตจากนิยายปริศนาธรรมเรื่องไซอิ๋วก็จะพบว่าเมื่อมีอาเพศแล้วเกิดกลียุคทุกข์เข็ญขึ้น พระถังซัมจั๋งก็จะให้เฮ่งเจียไปช่วยเหลือประชาชน ในที่สุดก็จะพบว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศเป็นทุกข์เข็ญกลียุคนั้นก็เพราะมีปีศาจหรือมารเป็นผู้ก่อการอยู่ทั้งสิ้น เมื่อกำจัดมารหรือปีศาจได้แล้วอาเพศเหตุร้ายก็จะหมดไป
หรือแม้ในนิยายอิงพงศาวดารสมัยราชวงศ์ซ้องเรื่องเปาบุ้นจิ้นก็ปรากฏเช่นเดียวกันว่าเมื่อมีอาเพศเหตุร้ายเป็นทุกข์เข็ญเกิดขึ้นตามเมืองต่างๆ เปาบุ้นจิ้นผู้เป็นขุนนางตงฉินที่ได้รับมอบอาญาสิทธิ์จากฮ่องเต้ก็จะออกไปตรวจราชการดับทุกข์เข็ญให้ราษฎร ในที่สุดก็จะพบว่าต้นเหตุของอาเพศทุกข์เข็ญก็คือผู้ปกครองที่อาสัตย์อธรรม ฉ้อราษฎร์บังหลวง ข่มเหงย่ำยีราษฎรทั้งสิ้น เมื่อเปาบุ้นจิ้นกำจัดต้นเหตุนั้นแล้วบ้านเมืองนั้นก็จะร่มเย็นเป็นสุขสืบไป
ดังนั้นคนโบราณจึงรักที่จะร่ำเรียนความรู้เกี่ยวกับนิมิต ลาง และอาเพศ ก็เพราะเป็นสิ่งบอกเหตุให้รู้ว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายกับบ้านเมืองและราษฎร เพื่อจะได้ระงับเหตุคือผู้ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศเหตุร้ายได้ทันท่วงที บ้านเมืองก็จะเจริญรุ่งเรือง อาณาประชาราษฎรก็จะร่มเย็นเป็นสุข
อาเพศมีสองจำพวก คือ จำพวกหนึ่งมีชื่อว่าอุบาทว์พระอินทร์ อีกจำพวกหนึ่งมีชื่อว่าอุบาทว์พระยม
อุบาทว์พระอินทร์คือความวิปริตผิดปกติที่เกิดขึ้นหรือปรากฏให้เห็นในลักษณะกว้างๆ มักเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติพิสดาร มีขอบเขตกว้างขวาง เช่น ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำในแม่น้ำมีสีเลือด กลางคืนบังเกิดแสงสว่างโชติช่วงสีแดงดั่งเลือด กลางวันบังเกิดความมืดเหมือนกับเวลาผีอุ้มลูก ฝูงสัตว์อพยพเข้าเมือง หรือมีกลิ่นสาบคล้ายกลิ่นศพฟุ้งตลบทั้งเมือง แต่ไม่ถึงกับทำให้คนหรือสัตว์ถึงแก่ความตาย รวมทั้งความวิปริตผิดปกติที่ปรากฏขึ้นในลักษณะที่แปลกประหลาด เช่น การปรากฏขึ้นของสิ่งที่วิปริต ดังเช่น หนอนปรากฏในตาคน เป็นต้น
ส่วนอุบาทว์พระยมคือความวิปริตผิดปกติที่เกิดขึ้นให้เห็นเป็นลักษณะกว้าง และทำให้คนและสัตว์เสียชีวิต เช่น เกิดแผ่นดินไหว คลื่นใหญ่ในทะเลที่กวาดพัดเอาบ้านเรือน ชีวิตผู้คนล้มหายตายจาก หรือโรคห่ากินเมือง คร่าทั้งชีวิตคนและชีวิตสัตว์ หรือกรณีพระฆ่าอุบาสก อุบาสิกา หรือฆ่าพระด้วยกัน หรืออุบาสก อุบาสิกาฆ่าพระ หรือพ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ เป็นต้น
ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา บรรดาผู้ปกครองไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ในธรรม ไม่เคารพธรรม ไม่ถือธรรมเป็นใหญ่ ไม่ปฏิบัติธรรม เอาแต่เล่นพรรคเล่นพวก ฉ้อราษฎร์บังหลวง ข่มเหงราษฎร บ้านเมืองจึงเกิดทุกข์เข็ญ แผ่นดินแตกความสามัคคี อาณาประชาราษฎร์และสมณะชีพราหมณ์เดือดร้อนวุ่นวาย ในที่สุดก็เสียกรุง
ในครั้งนั้นปรากฏอาเพศมากมายหลายประการ ซึ่งล้วนเป็นทั้งอุบาทว์พระอินทร์และอุบาทว์พระยมควบคู่กัน ดังปรากฏความในเพลงยาวว่า
“จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศอุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬเกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนกอกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมืองผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไกล
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนีพระกาฬกลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกให้อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม
ในลักษณะทำนายไว้บ่ห่อนผิดเมื่อวินิจพิศดูก็เห็นสม
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงมมิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้นมิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัดเกิดวิบัตินานาทั่วสากล
เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนาจะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
สัปบุรุษจะแพ้แก่ทรชนมิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัวคนชั่วจะมาล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูพักจะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจนักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอยน้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่าเพราะจันฑาลมันเข้ามาเสพสม
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอารมณ์เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสีหนาทประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา
อาสัตย์จะเลื่องลือชาพระธรรมาจะตกลึกลับ
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญจะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
ผู้มีสินจะถอยออกจากทรัพย์สัปบุรุษจะอับซึ่งน้ำใจ
ทั้งอยุศม์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปีประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย
ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไปผลหมากรากไม้จะถอยรส
จวงจันทร์พันธุ์ไม้อันหอมรสจะถอยถดไปตามประเพณี
ทั้งข้าวจะยากหมากจะแพงสารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญีฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
กรุงประเทศราชธานีจะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
จะอ้างว้างตกใจทั้งไพร่พลจะสาละวนทั่วโลกหญิงชาย
จะร้อนอกสมณาประชาราษฎร์จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวายฝูงคนจะล้มตายเป็นเบือ
ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบกเวียงวังก็จะรกเป็นป่าเสือ
แต่สิงสาราสัตว์เนื้อเบื้อจะไม่หลงหลอเหลือในแผ่นดิน
ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลายจะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น
ด้วยพระกาฬจะมาผลาญแผ่นดินจะสูญสิ้นการณรงค์สงคราม
กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้วจะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม
ไปจนคำรบปีเดือนคืนยามจนสิ้นนามศักราชห้าพัน
กรุงศรีอยุธยาเขษมสุขแสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์
จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์นับวันจะเสื่อมสูญเอย”
มาถึงแผ่นดินธนบุรี ก็มีคำพยากรณ์กรุงธนบุรีในเรื่องอาเพศว่า ถ้าหากอาเพศดังต่อไปนี้ปรากฏขึ้นแล้วก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในบ้านเมือง นั่นคือ
“ที่นาจะเป็นบ้านเกียจคร้านจะอดตาย
ภูเขาจะย้ายแผ่นดินจะเดิน
พระจะไม่เชื่อสมภารพญามารจะสู้ผู้ครองเมือง
เสือเหลืองจะปล้นบ้านห้วยหนองหานคลองจะแคบ
แกลบจะมีราคาหมูหมาคนตายไม่ต้องไข้
โรคใหม่จะมากินคนมนุษย์เดินดินจะกินน้ำพญานาค
คนทุกข์ยากจะแห่เข้าเมืองคนนุ่งผ้าเหลืองจะเอาเมีย
คนเกิดจะเหลือน้อยลงสัตว์ป่าดงจะสูญพันธุ์
คนคุยกันจะชักหาง ขุนนางจะขอทาน
ชาวบ้านจะออกรบศพจะเกลื่อนเมือง”
มีบันทึกหมายเหตุก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาอีกว่ามีอาเพศใหญ่ปรากฏขึ้นถึง 7 ประการคือ
(1) มีฟ้าผ่าลงตรงระเบียงพระบรมมหาราชวัง ไฟไหม้ลุกลามไปหลายแห่ง
(2) ฝูงอีกาจับกลุ่มกันจิกตีจนบาดเจ็บล้มตาย
(3) หลวงพ่อมงคลบพิธมีน้ำพระเนตรไหล
(4) อีกาใหญ่บินเอาอกเข้าเสียบกับตรีศูลของพระที่นั่งในพระบรมมหาราชวัง
(5) น้ำในแม่น้ำเป็นสีแดงดั่งเลือด
(6) เสียงใบไม้เหมือนเสียงคนร่ำไห้ระงมเมือง
(7) ไก่ตัวเมียขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้
คล้ายๆ กับอาเพศที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่าง พ.ศ. 722-726 ก่อนที่แผ่นดินจีนจะรบราฆ่าฟันกันจนเกิดเป็นสามก๊ก แล้วเป็นจลาจลฆ่าฟันกันเป็นระยะเวลาร่วมร้อยปี ครั้งนั้นมีอาเพศใหญ่เกิดขึ้น 5 ประการคือ
(1) เดือน 4 ขึ้น 15 ค่ำ ขณะพระเจ้าเลนเต้ประทับว่าราชการที่พระที่นั่งอุ่นต๊กเตี้ยน มีงูสีเขียวตัวใหญ่พลัดตกลงมาพันที่เท้าพระเก้าอี้ วันเดียวกันเวลาเที่ยงเกิดลมพายุพัดจัด ฝนตกห่าใหญ่ ลูกเห็บขนาดใหญ่ปลิวมาตามลม ถูกบ้านเมืองราษฎรพังทะลายจำนวนมาก พระตำหนักหลายหลังถูกพายุลูกเห็บพัดพัง
(2) เดือนยี่ เกิดแผ่นดินไหวทั้งในทะเลเข้ามาถึงเมืองลกเอี๋ยง เกิดคลื่นใหญ่ (สึนามิ) ท่วมบ้านเมือง กวาดบ้านเรือนและราษฎรตามริมทะเลหายไปเป็นจำนวนมาก
(3) เดือน 6 ขึ้นค่ำหนึ่ง เกิดควันเพลิงในพระบรมมหาราชวังพุ่งสูงขึ้นไป 20 วา แล้วพุ่งเข้าไปในพระที่นั่งอุ่นต๊กเตี้ยน
(4) เดือน 7 เกิดรัศมีรุ้งตกในพระบรมมหาราชวัง เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาลันซัวพังทะลาย
(5) ไก่ตัวเมียขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้
ที่ว่าไก่ตัวเมียขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้นี้ นักปราชญ์ฝ่ายจีนเคยวินิจฉัยไว้ว่าหมายถึงสตรีหรือขันทีก้าวล่วงเข้ามาแทรกแซงการบริหารบ้านเมือง จนราชการบ้านเมืองวิปริตผันแปรไป
สำหรับประเทศไทยของเราในระยะปัจจุบันนี้ก็มีปรากฏการณ์แปลกๆ มีลักษณะวิปริตผิดปกติเกิดขึ้นถึง 10 ประการแล้ว น่าที่จะพิจารณาว่าเป็นอุบาทว์พระอินทร์หรืออุบาทว์พระยมหรือไม่ นั่นคือ
(1) ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล แต่ละวันมีถึง 3 ฤดู บางห้วงก็มีแต่ฤดูร้อน คือร้อนมากและร้อนฉิบหาย
(2) บังเกิดโรคห่ามากินเมือง คือ โรคซาร์สที่เกิดกับคน และไข้หวัดนกที่เกิดทั้งคนและสัตว์ ทำให้สัตว์ตายหลายล้านตัวและทำให้คนตายหลายสิบคน
(3) บังเกิดหนอนในมนุษย์ คือบังเกิดหนอนขึ้นในจมูก ในหู ในตาและในปาก ซึ่งปกติหนอนจะเกิดขึ้นกับคนตาย เป็นสัญญาณบอกเหตุว่าคนไทยทุกวันนี้คนเป็นก็เหมือนคนตาย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลย
(4) บังเกิดเหตุอีกาไล่จิกกบเจาะที่ท้องกบตายนับพันๆ ตัวที่ภาคกลาง
(5) บังเกิดเหตุอีกายกพวกตีกันที่สภา อีกาไล่จิกเหี้ยที่ทำเนียบรัฐบาล เหี้ยวิ่งออกมาเพ่นพ่านหน้าอาคารประชุมคณะรัฐมนตรี แล้ววิ่งเข้าไปซุกใต้รถรัฐมนตรีหน้าใหม่
(6) พระทำกรรมลามก ทำให้พระศาสนาเสื่อมถอย พ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่
(7) การก้าวล่วงพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระสังฆราช
(8) การทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง การไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ในธรรม การกล่าวความเท็จต่อประชาชน การกดขี่บังคับข่มเหงยำเยงราษฎร ปรากฏให้เห็นเด่นชัดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
(9) แผ่นดินไหวในทะเล เกิดคลื่นใหญ่ (สึนามิ) ในทะเล กวาดพัดเอาบ้านเรือนและชีวิตผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
(10)ไก่ตัวเมียขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้
ถ้าหากเห็นว่าปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นอาเพศก็จะเป็นทางให้พิจารณาหาต้นเหตุแล้วระงับดับเหตุนั้นเสีย ก็จะระงับยับยั้งความร้ายทั้งหลายของบ้านเมืองได้ ดังที่ปรากฏจากพระพุทธพจน์ที่ว่า สิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ เมื่อจะดับผลก็ต้องดับที่ต้นเหตุนั้น
แต่ก็มีปรากฏการณ์บางอย่างที่คล้ายกับอาเพศแต่ไม่ถือเป็นอาเพศ นั่นคือกรณีแผ่นดินไหวใน 4 กรณีคือ พระโพธิสัตว์อุบัติในโลกมนุษย์ พระโพธิสัตว์ตรัสรู้และพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา และพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งเป็นทั้งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและด้วยอำนาจแห่งเทพยดา
เหตุดีร้ายในบ้านเมืองหากเป็นเรื่องเล็กๆ ก็จะมีอาเพศเล็กๆ น้อยๆ ที่สังเกตได้ยาก แต่ถ้าหากเป็นเหตุใหญ่ก็จะมีอาเพศใหญ่ เช่นในกรณีที่จะเกิดศึกสงครามถึงขนาดจะเสียบ้านเสียเมือง ในกรณีที่ผู้ปกครองบ้านเมืองไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ธรรม จนราชการบ้านเมืองวิปริตผันแปร อาณาประชาราษฎรตกอยู่ในท่ามกลางทุกข์เข็ญ เช่นนี้ก็มักมีอาเพศใหญ่
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาเพศมีมาก็เพื่อเป็นทางให้สืบเสาะหาเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศแล้วขจัดเหตุนั้นเสีย อาเพศก็จะระงับสิ้นไป และเหตุร้ายของบ้านเมืองก็จะระงับดับไปด้วย
ถ้าสังเกตจากนิยายปริศนาธรรมเรื่องไซอิ๋วก็จะพบว่าเมื่อมีอาเพศแล้วเกิดกลียุคทุกข์เข็ญขึ้น พระถังซัมจั๋งก็จะให้เฮ่งเจียไปช่วยเหลือประชาชน ในที่สุดก็จะพบว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศเป็นทุกข์เข็ญกลียุคนั้นก็เพราะมีปีศาจหรือมารเป็นผู้ก่อการอยู่ทั้งสิ้น เมื่อกำจัดมารหรือปีศาจได้แล้วอาเพศเหตุร้ายก็จะหมดไป
หรือแม้ในนิยายอิงพงศาวดารสมัยราชวงศ์ซ้องเรื่องเปาบุ้นจิ้นก็ปรากฏเช่นเดียวกันว่าเมื่อมีอาเพศเหตุร้ายเป็นทุกข์เข็ญเกิดขึ้นตามเมืองต่างๆ เปาบุ้นจิ้นผู้เป็นขุนนางตงฉินที่ได้รับมอบอาญาสิทธิ์จากฮ่องเต้ก็จะออกไปตรวจราชการดับทุกข์เข็ญให้ราษฎร ในที่สุดก็จะพบว่าต้นเหตุของอาเพศทุกข์เข็ญก็คือผู้ปกครองที่อาสัตย์อธรรม ฉ้อราษฎร์บังหลวง ข่มเหงย่ำยีราษฎรทั้งสิ้น เมื่อเปาบุ้นจิ้นกำจัดต้นเหตุนั้นแล้วบ้านเมืองนั้นก็จะร่มเย็นเป็นสุขสืบไป
ดังนั้นคนโบราณจึงรักที่จะร่ำเรียนความรู้เกี่ยวกับนิมิต ลาง และอาเพศ ก็เพราะเป็นสิ่งบอกเหตุให้รู้ว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายกับบ้านเมืองและราษฎร เพื่อจะได้ระงับเหตุคือผู้ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศเหตุร้ายได้ทันท่วงที บ้านเมืองก็จะเจริญรุ่งเรือง อาณาประชาราษฎรก็จะร่มเย็นเป็นสุข
อาเพศมีสองจำพวก คือ จำพวกหนึ่งมีชื่อว่าอุบาทว์พระอินทร์ อีกจำพวกหนึ่งมีชื่อว่าอุบาทว์พระยม
อุบาทว์พระอินทร์คือความวิปริตผิดปกติที่เกิดขึ้นหรือปรากฏให้เห็นในลักษณะกว้างๆ มักเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติพิสดาร มีขอบเขตกว้างขวาง เช่น ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำในแม่น้ำมีสีเลือด กลางคืนบังเกิดแสงสว่างโชติช่วงสีแดงดั่งเลือด กลางวันบังเกิดความมืดเหมือนกับเวลาผีอุ้มลูก ฝูงสัตว์อพยพเข้าเมือง หรือมีกลิ่นสาบคล้ายกลิ่นศพฟุ้งตลบทั้งเมือง แต่ไม่ถึงกับทำให้คนหรือสัตว์ถึงแก่ความตาย รวมทั้งความวิปริตผิดปกติที่ปรากฏขึ้นในลักษณะที่แปลกประหลาด เช่น การปรากฏขึ้นของสิ่งที่วิปริต ดังเช่น หนอนปรากฏในตาคน เป็นต้น
ส่วนอุบาทว์พระยมคือความวิปริตผิดปกติที่เกิดขึ้นให้เห็นเป็นลักษณะกว้าง และทำให้คนและสัตว์เสียชีวิต เช่น เกิดแผ่นดินไหว คลื่นใหญ่ในทะเลที่กวาดพัดเอาบ้านเรือน ชีวิตผู้คนล้มหายตายจาก หรือโรคห่ากินเมือง คร่าทั้งชีวิตคนและชีวิตสัตว์ หรือกรณีพระฆ่าอุบาสก อุบาสิกา หรือฆ่าพระด้วยกัน หรืออุบาสก อุบาสิกาฆ่าพระ หรือพ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ เป็นต้น
ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา บรรดาผู้ปกครองไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ในธรรม ไม่เคารพธรรม ไม่ถือธรรมเป็นใหญ่ ไม่ปฏิบัติธรรม เอาแต่เล่นพรรคเล่นพวก ฉ้อราษฎร์บังหลวง ข่มเหงราษฎร บ้านเมืองจึงเกิดทุกข์เข็ญ แผ่นดินแตกความสามัคคี อาณาประชาราษฎร์และสมณะชีพราหมณ์เดือดร้อนวุ่นวาย ในที่สุดก็เสียกรุง
ในครั้งนั้นปรากฏอาเพศมากมายหลายประการ ซึ่งล้วนเป็นทั้งอุบาทว์พระอินทร์และอุบาทว์พระยมควบคู่กัน ดังปรากฏความในเพลงยาวว่า
“จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศอุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬเกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนกอกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมืองผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไกล
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนีพระกาฬกลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกให้อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม
ในลักษณะทำนายไว้บ่ห่อนผิดเมื่อวินิจพิศดูก็เห็นสม
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงมมิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้นมิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัดเกิดวิบัตินานาทั่วสากล
เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนาจะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
สัปบุรุษจะแพ้แก่ทรชนมิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัวคนชั่วจะมาล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูพักจะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจนักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอยน้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่าเพราะจันฑาลมันเข้ามาเสพสม
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอารมณ์เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสีหนาทประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา
อาสัตย์จะเลื่องลือชาพระธรรมาจะตกลึกลับ
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญจะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
ผู้มีสินจะถอยออกจากทรัพย์สัปบุรุษจะอับซึ่งน้ำใจ
ทั้งอยุศม์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปีประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย
ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไปผลหมากรากไม้จะถอยรส
จวงจันทร์พันธุ์ไม้อันหอมรสจะถอยถดไปตามประเพณี
ทั้งข้าวจะยากหมากจะแพงสารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญีฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
กรุงประเทศราชธานีจะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
จะอ้างว้างตกใจทั้งไพร่พลจะสาละวนทั่วโลกหญิงชาย
จะร้อนอกสมณาประชาราษฎร์จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวายฝูงคนจะล้มตายเป็นเบือ
ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบกเวียงวังก็จะรกเป็นป่าเสือ
แต่สิงสาราสัตว์เนื้อเบื้อจะไม่หลงหลอเหลือในแผ่นดิน
ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลายจะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น
ด้วยพระกาฬจะมาผลาญแผ่นดินจะสูญสิ้นการณรงค์สงคราม
กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้วจะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม
ไปจนคำรบปีเดือนคืนยามจนสิ้นนามศักราชห้าพัน
กรุงศรีอยุธยาเขษมสุขแสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์
จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์นับวันจะเสื่อมสูญเอย”
มาถึงแผ่นดินธนบุรี ก็มีคำพยากรณ์กรุงธนบุรีในเรื่องอาเพศว่า ถ้าหากอาเพศดังต่อไปนี้ปรากฏขึ้นแล้วก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในบ้านเมือง นั่นคือ
“ที่นาจะเป็นบ้านเกียจคร้านจะอดตาย
ภูเขาจะย้ายแผ่นดินจะเดิน
พระจะไม่เชื่อสมภารพญามารจะสู้ผู้ครองเมือง
เสือเหลืองจะปล้นบ้านห้วยหนองหานคลองจะแคบ
แกลบจะมีราคาหมูหมาคนตายไม่ต้องไข้
โรคใหม่จะมากินคนมนุษย์เดินดินจะกินน้ำพญานาค
คนทุกข์ยากจะแห่เข้าเมืองคนนุ่งผ้าเหลืองจะเอาเมีย
คนเกิดจะเหลือน้อยลงสัตว์ป่าดงจะสูญพันธุ์
คนคุยกันจะชักหาง ขุนนางจะขอทาน
ชาวบ้านจะออกรบศพจะเกลื่อนเมือง”
มีบันทึกหมายเหตุก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาอีกว่ามีอาเพศใหญ่ปรากฏขึ้นถึง 7 ประการคือ
(1) มีฟ้าผ่าลงตรงระเบียงพระบรมมหาราชวัง ไฟไหม้ลุกลามไปหลายแห่ง
(2) ฝูงอีกาจับกลุ่มกันจิกตีจนบาดเจ็บล้มตาย
(3) หลวงพ่อมงคลบพิธมีน้ำพระเนตรไหล
(4) อีกาใหญ่บินเอาอกเข้าเสียบกับตรีศูลของพระที่นั่งในพระบรมมหาราชวัง
(5) น้ำในแม่น้ำเป็นสีแดงดั่งเลือด
(6) เสียงใบไม้เหมือนเสียงคนร่ำไห้ระงมเมือง
(7) ไก่ตัวเมียขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้
คล้ายๆ กับอาเพศที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่าง พ.ศ. 722-726 ก่อนที่แผ่นดินจีนจะรบราฆ่าฟันกันจนเกิดเป็นสามก๊ก แล้วเป็นจลาจลฆ่าฟันกันเป็นระยะเวลาร่วมร้อยปี ครั้งนั้นมีอาเพศใหญ่เกิดขึ้น 5 ประการคือ
(1) เดือน 4 ขึ้น 15 ค่ำ ขณะพระเจ้าเลนเต้ประทับว่าราชการที่พระที่นั่งอุ่นต๊กเตี้ยน มีงูสีเขียวตัวใหญ่พลัดตกลงมาพันที่เท้าพระเก้าอี้ วันเดียวกันเวลาเที่ยงเกิดลมพายุพัดจัด ฝนตกห่าใหญ่ ลูกเห็บขนาดใหญ่ปลิวมาตามลม ถูกบ้านเมืองราษฎรพังทะลายจำนวนมาก พระตำหนักหลายหลังถูกพายุลูกเห็บพัดพัง
(2) เดือนยี่ เกิดแผ่นดินไหวทั้งในทะเลเข้ามาถึงเมืองลกเอี๋ยง เกิดคลื่นใหญ่ (สึนามิ) ท่วมบ้านเมือง กวาดบ้านเรือนและราษฎรตามริมทะเลหายไปเป็นจำนวนมาก
(3) เดือน 6 ขึ้นค่ำหนึ่ง เกิดควันเพลิงในพระบรมมหาราชวังพุ่งสูงขึ้นไป 20 วา แล้วพุ่งเข้าไปในพระที่นั่งอุ่นต๊กเตี้ยน
(4) เดือน 7 เกิดรัศมีรุ้งตกในพระบรมมหาราชวัง เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาลันซัวพังทะลาย
(5) ไก่ตัวเมียขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้
ที่ว่าไก่ตัวเมียขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้นี้ นักปราชญ์ฝ่ายจีนเคยวินิจฉัยไว้ว่าหมายถึงสตรีหรือขันทีก้าวล่วงเข้ามาแทรกแซงการบริหารบ้านเมือง จนราชการบ้านเมืองวิปริตผันแปรไป
สำหรับประเทศไทยของเราในระยะปัจจุบันนี้ก็มีปรากฏการณ์แปลกๆ มีลักษณะวิปริตผิดปกติเกิดขึ้นถึง 10 ประการแล้ว น่าที่จะพิจารณาว่าเป็นอุบาทว์พระอินทร์หรืออุบาทว์พระยมหรือไม่ นั่นคือ
(1) ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล แต่ละวันมีถึง 3 ฤดู บางห้วงก็มีแต่ฤดูร้อน คือร้อนมากและร้อนฉิบหาย
(2) บังเกิดโรคห่ามากินเมือง คือ โรคซาร์สที่เกิดกับคน และไข้หวัดนกที่เกิดทั้งคนและสัตว์ ทำให้สัตว์ตายหลายล้านตัวและทำให้คนตายหลายสิบคน
(3) บังเกิดหนอนในมนุษย์ คือบังเกิดหนอนขึ้นในจมูก ในหู ในตาและในปาก ซึ่งปกติหนอนจะเกิดขึ้นกับคนตาย เป็นสัญญาณบอกเหตุว่าคนไทยทุกวันนี้คนเป็นก็เหมือนคนตาย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลย
(4) บังเกิดเหตุอีกาไล่จิกกบเจาะที่ท้องกบตายนับพันๆ ตัวที่ภาคกลาง
(5) บังเกิดเหตุอีกายกพวกตีกันที่สภา อีกาไล่จิกเหี้ยที่ทำเนียบรัฐบาล เหี้ยวิ่งออกมาเพ่นพ่านหน้าอาคารประชุมคณะรัฐมนตรี แล้ววิ่งเข้าไปซุกใต้รถรัฐมนตรีหน้าใหม่
(6) พระทำกรรมลามก ทำให้พระศาสนาเสื่อมถอย พ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่
(7) การก้าวล่วงพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระสังฆราช
(8) การทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง การไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ในธรรม การกล่าวความเท็จต่อประชาชน การกดขี่บังคับข่มเหงยำเยงราษฎร ปรากฏให้เห็นเด่นชัดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
(9) แผ่นดินไหวในทะเล เกิดคลื่นใหญ่ (สึนามิ) ในทะเล กวาดพัดเอาบ้านเรือนและชีวิตผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
(10)ไก่ตัวเมียขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้
ถ้าหากเห็นว่าปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นอาเพศก็จะเป็นทางให้พิจารณาหาต้นเหตุแล้วระงับดับเหตุนั้นเสีย ก็จะระงับยับยั้งความร้ายทั้งหลายของบ้านเมืองได้ ดังที่ปรากฏจากพระพุทธพจน์ที่ว่า สิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ เมื่อจะดับผลก็ต้องดับที่ต้นเหตุนั้น
แต่ก็มีปรากฏการณ์บางอย่างที่คล้ายกับอาเพศแต่ไม่ถือเป็นอาเพศ นั่นคือกรณีแผ่นดินไหวใน 4 กรณีคือ พระโพธิสัตว์อุบัติในโลกมนุษย์ พระโพธิสัตว์ตรัสรู้และพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา และพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งเป็นทั้งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและด้วยอำนาจแห่งเทพยดา