xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯสตง.มีทางแก้ สุชนย้ำเงียบและรอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กระแสข่าวว่ามี ส.ว.บางส่วนออกมาตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมในการที่นายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา ได้เดินทางไปการประชุมสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 2 ที่สหรัฐอเมริกา ในระหว่างที่มีปัญหาในเรื่องตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทั้งนี้นายสุชนได้เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วตามกำหนดเวลาที่ได้ออกแถลงการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อเช้าวานนี้ (12ก.ย.) นายสุชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ส.ว.บางคนระบุจะทวงถามความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาตำแหน่งผู้ว่าฯสตง. หลังจากที่ล่วงเลยมากว่า 90 วัน ว่า ถ้าส.ว.ท่านใดต้องการหารือก็มาคุยกับตนได้ ทุกอย่างมีทางออกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ตนไม่ขอพูด เพราะทางออกก็คือ การไม่พูด

ส่วนที่องค์กรภาคประชาชนประกาศให้เวลา 3 วัน ในการแก้ปัญหา หากยังเฉยจะดำเนินการล่าชื่อ 5 หมื่นชื่อเพื่อถอดถอน นายสุชน กล่าวว่า เชิญภาคประชาชนให้มาคุยกันที่รัฐสภา อย่าคุยผ่านสื่อ ตนยินดีต้อนรับทุกคน เพราะตนมาจากประชาชน "งานทุกอย่างทำในสภา ไม่ใช่ทำข้างถนน"

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อไรจะมีความชัดเจนในการแก้ปัญหา ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ความชัดเจนคือการไม่พูด และต้องรอ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเท่านั้น จะไปทำอย่างอื่นไม่ได้

สำหรับเรื่องที่ประธานวุฒิสภาจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบจริยธรรมของส.ว.ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องปัญหาผู้ว่าฯสตง.ที่อาจก้าวล่วงพระราชอำนาจ นายสุชน กล่าวว่า ยังไม่เริ่ม และยังไม่มีการตรวจสอบใดๆ คนไหนทำดีก็ไม่ต้องหวั่นไหว เพราะคนดีพระคุ้มครอง เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้ส.ว.ต้องการใช้วาระหารือ เพื่อสอบถามเรื่องนี้ในที่ประชุม ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า หน้าที่ของ ส.ว.มีมากมาย ไม่ใช่มีเรื่องนี้เรื่องเดียวมีเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อนอีกมากที่ส.ว.จะต้องไปดูแล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชน ได้ทำการตัดบทต่อคำถามของผู้สื่อข่าว โดยกล่าวว่า "พูดไปก็ไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้เป็นแผ่นเสียงตกร่องไปหมด"

นายวิญญู อุฬารกุล ส.ว.สกลนคร กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนแปลกใจมากที่นายสุชน กลับจากสหรัฐอเมริกาแล้ว และเวลาก็ล่วงเลยมากว่า 90 วันแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนใดๆในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ออกมาเลย รู้สึกผิดหวังมาก เป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบที่สมตามฐานะเลย เพราะถึงแม้รัฐธรรมนูญไม่กำหนดความรับผิดชอบเอาไว้ แต่ผู้ที่รับผิดชอบก็ต้องคิดได้ จึง เป็นการแสดงให้เห็นว่าประธานวุฒิสภา มองไม่เห็นว่าพระราชอำนาจมีอยู่จริง จึงทำให้ประเด็นนี้อยู่ที่สามัญสำนึกของท่านประธานวุฒิสภาเพียงคนเดียว

ส่วนการที่ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.)เตรียมที่จะออกมารวมรวบชื่อประชาชน 5 หมื่นราย และเรียกร้องให้ ส.ว.รวมตัวกันจำนวน 1 ใน 4 ของสมาชิกทั้งหมด เพื่อถอนถอน นายสุชนนั้น นายวิญญู กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคงไม่มีศักยภาพพอที่จะเป็นเจ้าภาพรวบรวม ส.ว.ให้ครบตามจำนวนได้ ดังนั้นเรื่องนี้คงต้องฝากให้ประชาชนช่วยกันว่าควรจะดำเนินอย่างไรต่อไป

"ในส่วนตัวผมคงไม่ได้ตั้งประเด็นเพื่อไล่ประธานวุฒิสภา แต่ต้องการให้แก้ปัญหานี้มากกว่า แต่ส่วนภาคประชาชน จะรวบรวมชื่อก็เป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ"นายวิญญู กล่าว

นายดำรง พุฒตาล ส.ว.กทม.กล่าวว่า บุคคลที่อยู่ระดับวุฒิสภาต้องรับผิดชอบ และก็ต้องน่าจะรู้ว่าอะไรถูกอะไรควร และต้องคิดว่า สิ่งที่ทำลงไปสร้างความปั่นป่วนให้กับสังคมอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้มองว่ามันเป็นเรื่องอัปยศสำหรับวุฒิสภา แต่การพูดมากก็ไม่ดีว่าเลือกประธานคนไหน เพราะจะกลายเป็นว่าพูดดีใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่น แต่สิ่งที่วันนี้พูดได้เต็มปากคือ การทำหน้าที่สมัยนี้ของ ส.ว.เป็นจุดด่างของวุฒิสภา และทำให้ประชาชนและสังคมขาดความน่าเชื่อถือ อยากให้ใช้เวลาที่เหลืออีก 7 เดือนสร้างความน่าเชื่อถือกลับมา และเรื่องนี้ได้เวลาแล้วที่ กลุ่ม องค์กร ต่างๆจะมีปฏิกิริยาออกมาเพื่อหาทางออก ซึ่งถือว่าเวลาตอนนี้เหมาะสมที่จะหาทางออกแล้ว

วันเดียวกันนี้ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. กล่าวว่า การที่นายสุชน ออกมาระบุว่าให้ทางครป.ไปปรึกษาหารือในรัฐสภา และหาว่าเล่นการเมืองข้างถนน มองว่านายสุชน ไม่ควรยืนกระต่ายขาเดียว อยากถามกลับว่ามีรัฐธรรมนูญมาตราไหนบัญญัติไว้ว่าให้ นายสุชนรอต่อไปได้ มันไม่มี เพราะฉะนั้นประธานวุฒิสภาควรออกมาระบุความรับผิดชอบ ไม่ใช่กล่าวโทษผู้อื่นเช่นนี้ และถึงแม้ว่าผมจะเป็นการเมืองข้างถนน หากมีคนมาร่วมลงเชื่อขับไล่นายสุชนครบ 5หมื่นชื่อ ซึ่งการเมืองข้างถนนแบบนี้ก็สามารถถอดถอนประธานวุฒิได้เช่นกัน

"หากครบ 3 วัน ประธานวุฒิยังไม่หาทางออกต่อปัญหานี้ให้ชัดเจน ครป.จะดำเนินการตามแบบการเมืองข้างถนนทันที ซึ่งคิดว่าไม่จำเป็นต้องเข้าไปหารือกับนายสุชนในรัฐสภาอีกแล้ว เพราะเคยยื่นหนังสือไปหลายครั้งแต่ก็ได้คำตอบกลับมาเหมือนเดิมทุกครั้ง คำชี้แจงก็เป็นคำชี้แจงเดิม เหมือนเสียเวลาเปล่า เราไม่เห็นด้วยเราก็จะใช้สิทธิ์ของเราดินหน้าต่อไป"นายสุริยะใส กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น