xs
xsm
sm
md
lg

8 อุปนิสัยที่ดีของคนไทย

เผยแพร่:   โดย: สุวัฒน์ ทองธนากุล

คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อฟังเสียงบทความนี้


ถ้ามีการเอ่ยถึงลักษณะเฉพาะของคนไทยกันในวงสนทนาหรือวงการประชุม เชื่อว่าเราเคยได้ยินกันหลายมิติ ทั้งที่เป็นการชื่นชม และการกล่าวถึงเชิงประชดก็เคยได้ยินเช่น

"ทำอะไรได้ตามใจ คือไทยแท้"
หาว่าไม่มีระเบียบวินัย
"มาแบบไทย กลับแบบฝรั่ง"
หาว่าชอบมาสาย แล้วกลับตรงเวลา

ขนาดสภาวิจัยแห่งชาติ ก็ยังเคยสำรวจและประมวลไว้เกี่ยวกับลักษณะนิสัยประจำชาติของคนไทยว่าเป็นดังนี้...
รักสงบ เคารพอาวุโส
ชอบผู้นำ ทำสำรวย
ชอบบันเทิง (สนุกสนาน)
จิตใจเอื้ออารี
โอนอ่อนผ่อนตาม
เชื่อโชคลางของขลัง
เชื่อกฎแห่งกรรม
เมตตากรุณา ผักชีโรยหน้า
มีความเกรงใจ ให้อภัยเสมอ
ยอมตามผู้มีอำนาจ
ตามใจต่างชาติ รักเอกราช
ไม่กระตือรือร้น
สุกเอาเผากิน
ไม่ยอมให้ใครดูหมิ่น
ช่างอดช่างทน
เป็นคนใจกว้าง ฉลาดเลือกงาน
ทำการมักเบ่ง
รักถิ่นและครอบครัว
อ่อนน้อมถ่อมตน
กตัญญูกตเวที
ชอบมีอภิสิทธิ์
เคร่งครัดเคารพแด่พระมหากษัตริย์

ผมนึกถึงข้อมูลเหล่านี้ ซึ่งบอกลักษณะคนไทยทั้งข้อดีและข้อด้อย ก็เพราะเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจัดงานมอบรางวัลการประกวดคำขวัญ "อุปนิสัยที่ดี 8 ประการของคนไทย"

งานนี้จัดโดยมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี และได้เชิญ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ผลงานคำขวัญชนะเลิศเป็นของคุณอุทัย เถินภู่วิไล ชาวจังหวัดลำปางที่เขียนว่า

"ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัดอดทน อ่อนน้อมถ่อมตน มีระเบียบวินัย กตัญญูรู้คุณ รักวัฒนธรรมไทย ชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไว้ คืออุปนิสัยที่ดีของคนไทยเรา"

ที่เป็นคุณลักษณะที่ดีของคนไทยซึ่งมีในสังคมเป็นส่วนใหญ่ แต่ส่วนที่มีข้อไม่ดีก็มีอยู่

กิจกรรมการประกวดคำขวัญครั้งนี้ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีจัดขึ้นก็เพื่อส่งเสริมการตลาดให้กับหนังสือแปลของ ดร.สตีเฟ่น อาร์ โควีย์ ที่นำขบวนโด่งดังด้วยหนังสือ "7 Habits for Highly Effective People" ซึ่งมียอดขายไปทั่วโลกแล้วกว่า 15 ล้านเล่ม

เดิมสำนักพิมพ์ซีเอ็ดได้ลิขสิทธิ์แปลขายมาหลายปี ตอนนี้ดีเอ็มจีได้ลิขสิทธิ์การแปลใหม่และพิมพ์เป็นเล่มภาคไทยด้วยชื่อ "7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง"

"...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติของคนไทยทั้งปวง พระองค์ท่านทรงสอนในสิ่งที่พุทธศาสนาสอน นั่นคือ ธรรมะ ทั้งนี้สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติเป็นตัวอย่างนั้น ลึกซึ้งกว่าที่โควีย์เขียนอีก"

"อย่างไรก็ตาม สิ่งที่โควีย์สอนนั้นถือเป็นทางลัดให้เรานำไปปฏิบัติได้จริง อุปนิสัยสำคัญที่คนไทยควรมีมากที่สุด นั่นคือ การมีสติ เพราะถ้าเรามีสติ อุปนิสัยทั้ง 7 ประการ หรืออีกกี่ประการก็คงยังอยู่กับเรา การมีสตินั้นสำคัญที่สุดเพราะเป็นทางที่นำสู่ปัญญา เราควรจะยึดให้มั่น ครองให้อยู่ และในขณะเดียวกันนิสัยที่ควรละ คืออย่ายึดอัตตาเป็นตัวตั้ง เพราะนำไปสู่ความเห็นแก่ตัว" ดร.สุเมธ กล่าวตอนหนึ่งในงาน

ปัญหาท้าทายก็คือ เราได้รับรู้ว่าคุณลักษณะที่ดีซึ่งคนไทยพึงมี การปลูกฝังทัศนคติ และสร้างให้เกิดค่านิยม และวิถีปฏิบัติจะเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เพื่อคุณภาพของสังคมคุณภาพของประเทศไทยอย่างไร

นี่คือโจทย์สำคัญที่รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวัฒนธรรมจะต้องเป็นเจ้าภาพในการสร้างแนวทางการหล่อหลอมเลี้ยงดูตั้งแต่วัยเด็กรองรับด้วยกระบวนการสอน และหลักสูตรที่เอื้อให้เป็นเช่นนั้น

การที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ที่ใช้หนังสือ "7 Habits" ให้นักศึกษาเรียนด้วย เป็นตัวอย่างของการใช้หนังสือดีๆ เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและคุณธรรม

ความจริงการที่นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร มักแนะนำหนังสือดีๆ เพื่อจุดประกายการบริหารที่ดีแก่บรรดาคณะรัฐมนตรีก็เป็นวิธีการในระดับบริหารซึ่งดูดีอยู่หรอก แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีการไปอ่าน และประยุกต์ใช้งานกันบ้างหรือไม่อย่างไร

แต่ในวงการศึกษาที่เกาหลีใต้นั้น ทุกปีจะมีการอบรมครู อาจารย์เพื่อปรับแนวคิด และวิธีการสอนที่ใช้หนังสือเสริมหลักสูตรเล่มนี้ เพื่อความพร้อมในการถ่ายทอดได้สมบทบาท

การศึกษายุคใหม่จึงมิใช่มุ่งแค่วิชาตามหลักสูตร และการสร้างจิตสำนึกเพื่อการพัฒนาอุปนิสัย และคุณธรรมก็จำเป็นด้วยสำหรับการสร้างประชากรที่มีคุณภาพ

เพราะโลกยุคจากนี้ไปนอกจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจจะมีต้นทุน และอุปสรรคที่สูงขึ้น ขณะที่ยังจำเป็นต้องเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทั้งภายใน และภายนอกประเทศ

การจะรณรงค์ให้ประหยัด และไม่โกงหรือไม่คอร์รัปชันนั้น ก็เป็นเพียงปลายเหตุแบบวิ่งไล่จับความเลวร้าย

จึงต้องปลูกฝังให้รู้ดี รู้ชั่ว และใฝ่ดีในทุกระดับ ทุกวัย และตั้งแต่วัยเด็ก

การได้คำขวัญ "อุปนิสัยที่ดี 8 ประการของคนไทย" จึงเป็นการเลือกสรรเฉพาะสิ่งดีงามที่เรามีอยู่ และควรขยายผลสร้างให้เป็นจริงอย่างกว้างขวางมั่นคง

เพราะนี่ไม่เพียงน่าภาคภูมิใจในเชิงภาพลักษณ์ แต่จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำมาซึ่งผลงานทุกระดับ ทุกสังคมให้มีคุณภาพและคุณธรรม

ปัญหาต่างๆ จะคลี่คลายและลดลงได้มาก

หากสังคมไทยจะมีคนนเก่งที่เป็นคนดีเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น