xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดแฮร์แคร์ปีนี้ไม่สดใส โลแลนเดินหน้าอัดกิจกรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โลแลนชี้ตลาดแฮร์แคร์ปีนี้ไม่ดีตามสภาพเศรษฐกิจ ระบุแต่ละแบรนด์งัดกลยุทธ์การตลาดทั้งกิจกรรม โปรโมโมชั่นและสงครามราคาแข่งเดือดตลอดทั้งปี โลแลนอัดงบตลาดเดินหน้าจัดกิจกรรม หวังสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด ตั้งเป้าสิ้นปียอดรายได้โตขึ้น 10%

นายวิบูลย์ สมบูรณ์ศักดิกุล ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอส.ซี. อาร์ทิสทรี จำกัด ผู้ผลิตสินค้าบิวตี้แฮร์และบอดี้แคร์ ภายใต้แบรนด์ "โลแลน" เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ปีนี้ตลาดรวมของผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ไม่ค่อยดี ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าปีนี้ผู้ประกอบการแต่ละรายจะหันมาทำการตลาดตลอดทั้งปี ทั้งการจัดกิจกรรมและทำโปรโมชั่น รวมถึงการเล่นสงครามราคา ซึ่งแบรนด์จากต่างประเทศบางรายถึงกับใช้กลยุทธ์ลดราคาสินค้า เพื่อแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูง อีกทั้งในตลาดก็มีผลิตภัณฑ์แข่งกันมาก

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี บริษัทฯจะเน้นจัดกิจกรรมและแจกสินค้าตัวอย่างโลแลน ภายใต้งบทางการตลาด 5-10%ของยอดรายได้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้จักแบรนด์และสินค้าโลแลนมากขึ้น รวมทั้งการเน้นทำอาร์ แอนด์ ดี ในตัวผลิตภัณฑ์

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์โลแลนมีกว่า 300 รายการและสามารถแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม อาทิ แชมพู-คอนดิชั่นเนอร์ , ผลิตภัณฑ์ดัด-ยืดผม, ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม, ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น บอดี้สเปรย์ เป็นต้น

"คู่แข่งในตลาดของเราเป็นอินเตอร์แบรนด์ชั้นนำ ในส่วนของโลแลนจะเน้นแข่งที่ภาพลักษณ์และการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง รวมถึงเรื่องคุณภาพของสินค้า และเรื่องราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งอินเตอร์แบรนด์ประมาณ 20-50%" นายวิบูลย์กล่าว

ส่วนแนวโน้มการแข่งขันของตลาดแฮร์แคร์ในส่วนของผู้บริโภคจะเห็นว่าลูกค้ามีความรู้มากขึ้น และเริ่มเลือกผลิตภัณฑ์มากขึ้นตามไปด้วย ส่วนด้านผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์พบว่าเทรนด์ปีนี้คนจะหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพผมมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากเทรนด์ปีที่แล้วที่คนจะชอบย้อมผม

ด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้าโลแลนจะเน้นขายผ่านร้านทำผมระดับกลางถึงล่าง คิดเป็นสัดส่วน 80% ส่วนอีก 20% เป็นการขายให้กับลูกค้าทั่วไป ในช่องทางโมเดิร์นเทรด

สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯปีนี้ตั้งเป้ายอดขายโตขึ้น 10% จากปีที่แล้ว โดยรายได้แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30% ซึ่งลูกค้าในต่างประเทศปัจจุบันมีกว่า 30 ประเทศ เช่น อเมริกา, ออสเตรเลีย, ตะวันออกกลาง และเอเชีย ส่วนตลาดยุโรปบริษัทฯยังไม่รุกเข้าไป เนื่องจากสู้เรื่องค่าขนส่งไม่ไหว
กำลังโหลดความคิดเห็น