ผู้จัดการรายวัน - ครม.เห็นชอบตาม มหาดไทยเฉือด 3 ผู้ว่าฯ “ชัยนาท-ปทุมธานี-สมุทรสงคราม” เข้ากรุ เจ้าตัวงงทำดีประเมินเต็ม 100 ยังถูกเด้ง “พงศ์โพยม” ปากเป็นเหตุวิจารณ์นโยบายแก้จน ถูกโยกเป็นผู้ตรวจฯ ฮือฮา “สิงห์ทอง” รามคำแหง ได้ดีขึ้นเป็นผู้ว่าฯคนแรกของสถาบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ที่จ.พังงา วานนี้ (6 ก.ย.) ครม.เห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่เสนอโดย พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย โดยมี ข้าราชการระดับ 9 ที่ ครม.เห็นชอบในเลื่อนเป็น ระดับ 10 จำนวน 20 คน และข้าราชการระดับ 10 ที่ถูกโยกย้าย 28 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี ข้าราชการระดับ 10 ที่ถูกโยกย้ายให้มาประจำกระทรวงมหาดไทย และรับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทนมี 3 คน ได้แก่
1.นายนันทชัย สุนทรพิพิธ ผู้ว่าฯชัยนาท ให้ประจำกระทรวงมหาดไทย 2.นายนิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว ผู้ว่าฯปทุมธานี ให้ประจำกระทรวงมหาดไทย และ 3.นายวิชชา ประสานเกลียว ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม ให้ประจำกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ตำแหน่งดังกล่าว เพื่อรองรับผู้ว่าฯที่ขาดประสิทธิภาพ ในการปฎิบัติหน้าที่
นายวิชชา กล่าวว่า ตนรู่สึกงงและแปลกใจกับคำสั่งดังกล่าว เพราะทำงานไม่เคยมีความผิดจึงไม่ทราบสาเหตุของการถูกย้าย ที่สำคัญในการประเมินผลซึ่งมีนายวิษณุ เครืองามรองนายกฯเป็นประธาน ตนก็ได้ประเมินผลเต็ม 100 % อย่างไรก็ตามการย้ายครั้งนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากหลายเรื่องอาจจะมีการเมืองด้วย
สำหรับผู้ที่มาแทนนายวิชชา คือ นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าฯพังงา ซึ่งทำงานจนสามารถทำให้พรรคไทยรักไทย ได้ ส.ส.มา 1 คน
ด้านนายนิวัฒน์ สวัสดิ์แก้ว กล่าวเช่นกันว่า แปลกใจกับคำสั่งดังกล่าว เพราะได้ทำงานเต็มร้อยและไม่มีปัญหาอะไร แต่อาจจะเป็นเพราะไม่เข้าตาผู้ใหญ่ก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าไฮไลต์ ที่น่าสนใจในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ยังอยู่ที่ผู้ที่ถูกย้ายเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงซึ่งมีด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย 1.นายพงศ์โพยม วาศภูติ ผู้ว่าฯนครราชสีมา 2.นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าฯมุกดาหาร 3.นายทวีศักดิ์ คิดบรรจงผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ 4.นายกมล จิตระวัง ผู้ว่าฯอ่างทอง และ 5.นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าฯ ชุมพร
ที่น่าสนใจคือ นายพงศ์โพยม นายกมล และนายอานนท์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายพงศ์โพยม เคยได้รับแรงหนุนจากเพื่อนและรุ่นพี่สิงห์ดำ เช่นนายศิวะ แสงมณีส อธิบดีกรมการปกครอง ให ย้ายเข้ามาเป็นอธิบดีกรมใดกรมหนึ่ง เนื่องจาก เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและตรงไปตรงมา
แหล่งข่าวกล่าวว่าสาเหตุที่นายพงศ์โพยม ถูกย้ายมาในตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจาก เคยวิจารณ์นโยบายแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาลอย่างรุนแรงว่าสร้างหนี้ให้ชาวบ้านมากกว่าแก้ปัญหา
นายพงศ์โพยม ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมที่จะปฏิบัติงาน เพราะ เป็นข้าราชการประจำมาทั้งชีวิตและจิตใจ และในฐานะที่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานโดยไม่ขัดข้อง แฮบปี้กับตำแหน่งใหม่ ซึ่ง นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ ผู้ว่าฯสมุทรสาครที่จะมาเป็นผู้ว่าฯนครราชสีมาแทน ก็เป็นลูกน้องเก่าทำงานร่วมกันมาก่อน
ส่วนกรณีของนายกมล ผู้ว่าฯ อ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานคะแนนของพ รรคชาติไทย และเป็นคนสนิทของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เมื่อครั้งเป็นรองผู้ว่าฯสุพรรณบุร และเมื่อมาเป็นผู้ว่าฯอ่างทอง พรรคชาติไทยก็ได้ส.ส.เข้ามาจำนวนหนึ่ง และจ.อ่างทองก็มีปัญหาการเผาบัตรจนทำให้ พรรคไทยรักไทยไม่พอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ในส่วนของความเป็นสถาบันการศึกษา ที่มีการแข่งขันระหว่างผู้ที่จบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ส จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ส (สิงห์แดง) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(สิงห์ดำ) ซึ่งทั้งสองสถานบันจะคละเคล้ากันขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 10 หรือผู้ว่าราชการจังหวัด และครั้งนี้มีประปรายจากผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สิงห์ขาว) ที่แทรกขึ้นมา เป็นผู้ว่าฯเพียง 4 คน
แต่ที่น่าสนใจคือครั้งนี้ปรากฏว่า ผู้ที่จบการศึกษาจากรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง(สิงห์ทอง) คือ นายวินัย บัวประดิษฐ์ รองผู้ว่าฯภูเก็ต ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าฯพังงา ถือว่าเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงส ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
สำหรับรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่เหลือ ประกอบด้วย 1.นายปานชัย บวรรัตนปราณผู้ว่าฯสกลนครเป็นผู้ว่าฯนครนายก 2.นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผู้ว่าฯสระแก้ว เป็นผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา 3.นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ว่าฯหนองคาย เป็นผู้ว่าฯราชบุรี 4..นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน เป็นผู้ว่าฯหนองคาย 5.นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าฯกระบี่ เป็นผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา
6.นายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าฯแพร่ เป็นผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ 7.นายสมพงษ์ ธนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ เป็นผู้ว่าฯสุรินทร์ 8.นายสุธีส มากบุญ ผู้ว่าฯยโสธร เป็นผู้ว่าฯ อุบลราชธานี 9.นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯนครราชสีมา
10.นายเมฆินทร์ เมธาวิกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯระนอง 11.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ ยโสธร 12.นายพินัย อนันตพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ ชุมพร 13.นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล นักปกครอง 10 สำนักงานปลัดกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ 14.นายนเรศ จิตสุจริตวงศ์ ผู้ว่าฯตรัง เป็นผู้ว่าฯปทุมธานี
15.นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผู้ว่าฯปัตตานี เป็นผู้ว่าฯตรัง 16.นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าฯพังงา เป็นผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม 17.นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าฯอุทัยธานี เป็นผู้ว่าฯ ตาก 18.นายปรีชา บุตรศรผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ เป็นผู้ว่าฯอุทัยธานี 19.นายภาณุ อุทัยรัตน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สำนักงานปลัดกระทรวง เป็นผู้ว่าฯปัตตานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ที่จ.พังงา วานนี้ (6 ก.ย.) ครม.เห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่เสนอโดย พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย โดยมี ข้าราชการระดับ 9 ที่ ครม.เห็นชอบในเลื่อนเป็น ระดับ 10 จำนวน 20 คน และข้าราชการระดับ 10 ที่ถูกโยกย้าย 28 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี ข้าราชการระดับ 10 ที่ถูกโยกย้ายให้มาประจำกระทรวงมหาดไทย และรับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทนมี 3 คน ได้แก่
1.นายนันทชัย สุนทรพิพิธ ผู้ว่าฯชัยนาท ให้ประจำกระทรวงมหาดไทย 2.นายนิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว ผู้ว่าฯปทุมธานี ให้ประจำกระทรวงมหาดไทย และ 3.นายวิชชา ประสานเกลียว ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม ให้ประจำกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ตำแหน่งดังกล่าว เพื่อรองรับผู้ว่าฯที่ขาดประสิทธิภาพ ในการปฎิบัติหน้าที่
นายวิชชา กล่าวว่า ตนรู่สึกงงและแปลกใจกับคำสั่งดังกล่าว เพราะทำงานไม่เคยมีความผิดจึงไม่ทราบสาเหตุของการถูกย้าย ที่สำคัญในการประเมินผลซึ่งมีนายวิษณุ เครืองามรองนายกฯเป็นประธาน ตนก็ได้ประเมินผลเต็ม 100 % อย่างไรก็ตามการย้ายครั้งนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากหลายเรื่องอาจจะมีการเมืองด้วย
สำหรับผู้ที่มาแทนนายวิชชา คือ นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าฯพังงา ซึ่งทำงานจนสามารถทำให้พรรคไทยรักไทย ได้ ส.ส.มา 1 คน
ด้านนายนิวัฒน์ สวัสดิ์แก้ว กล่าวเช่นกันว่า แปลกใจกับคำสั่งดังกล่าว เพราะได้ทำงานเต็มร้อยและไม่มีปัญหาอะไร แต่อาจจะเป็นเพราะไม่เข้าตาผู้ใหญ่ก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าไฮไลต์ ที่น่าสนใจในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ยังอยู่ที่ผู้ที่ถูกย้ายเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงซึ่งมีด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย 1.นายพงศ์โพยม วาศภูติ ผู้ว่าฯนครราชสีมา 2.นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าฯมุกดาหาร 3.นายทวีศักดิ์ คิดบรรจงผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ 4.นายกมล จิตระวัง ผู้ว่าฯอ่างทอง และ 5.นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าฯ ชุมพร
ที่น่าสนใจคือ นายพงศ์โพยม นายกมล และนายอานนท์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายพงศ์โพยม เคยได้รับแรงหนุนจากเพื่อนและรุ่นพี่สิงห์ดำ เช่นนายศิวะ แสงมณีส อธิบดีกรมการปกครอง ให ย้ายเข้ามาเป็นอธิบดีกรมใดกรมหนึ่ง เนื่องจาก เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและตรงไปตรงมา
แหล่งข่าวกล่าวว่าสาเหตุที่นายพงศ์โพยม ถูกย้ายมาในตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจาก เคยวิจารณ์นโยบายแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาลอย่างรุนแรงว่าสร้างหนี้ให้ชาวบ้านมากกว่าแก้ปัญหา
นายพงศ์โพยม ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมที่จะปฏิบัติงาน เพราะ เป็นข้าราชการประจำมาทั้งชีวิตและจิตใจ และในฐานะที่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานโดยไม่ขัดข้อง แฮบปี้กับตำแหน่งใหม่ ซึ่ง นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ ผู้ว่าฯสมุทรสาครที่จะมาเป็นผู้ว่าฯนครราชสีมาแทน ก็เป็นลูกน้องเก่าทำงานร่วมกันมาก่อน
ส่วนกรณีของนายกมล ผู้ว่าฯ อ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานคะแนนของพ รรคชาติไทย และเป็นคนสนิทของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เมื่อครั้งเป็นรองผู้ว่าฯสุพรรณบุร และเมื่อมาเป็นผู้ว่าฯอ่างทอง พรรคชาติไทยก็ได้ส.ส.เข้ามาจำนวนหนึ่ง และจ.อ่างทองก็มีปัญหาการเผาบัตรจนทำให้ พรรคไทยรักไทยไม่พอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ในส่วนของความเป็นสถาบันการศึกษา ที่มีการแข่งขันระหว่างผู้ที่จบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ส จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ส (สิงห์แดง) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(สิงห์ดำ) ซึ่งทั้งสองสถานบันจะคละเคล้ากันขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 10 หรือผู้ว่าราชการจังหวัด และครั้งนี้มีประปรายจากผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สิงห์ขาว) ที่แทรกขึ้นมา เป็นผู้ว่าฯเพียง 4 คน
แต่ที่น่าสนใจคือครั้งนี้ปรากฏว่า ผู้ที่จบการศึกษาจากรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง(สิงห์ทอง) คือ นายวินัย บัวประดิษฐ์ รองผู้ว่าฯภูเก็ต ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าฯพังงา ถือว่าเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงส ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
สำหรับรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่เหลือ ประกอบด้วย 1.นายปานชัย บวรรัตนปราณผู้ว่าฯสกลนครเป็นผู้ว่าฯนครนายก 2.นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผู้ว่าฯสระแก้ว เป็นผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา 3.นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ว่าฯหนองคาย เป็นผู้ว่าฯราชบุรี 4..นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน เป็นผู้ว่าฯหนองคาย 5.นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าฯกระบี่ เป็นผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา
6.นายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าฯแพร่ เป็นผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ 7.นายสมพงษ์ ธนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ เป็นผู้ว่าฯสุรินทร์ 8.นายสุธีส มากบุญ ผู้ว่าฯยโสธร เป็นผู้ว่าฯ อุบลราชธานี 9.นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯนครราชสีมา
10.นายเมฆินทร์ เมธาวิกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯระนอง 11.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ ยโสธร 12.นายพินัย อนันตพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ ชุมพร 13.นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล นักปกครอง 10 สำนักงานปลัดกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ 14.นายนเรศ จิตสุจริตวงศ์ ผู้ว่าฯตรัง เป็นผู้ว่าฯปทุมธานี
15.นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผู้ว่าฯปัตตานี เป็นผู้ว่าฯตรัง 16.นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าฯพังงา เป็นผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม 17.นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าฯอุทัยธานี เป็นผู้ว่าฯ ตาก 18.นายปรีชา บุตรศรผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ เป็นผู้ว่าฯอุทัยธานี 19.นายภาณุ อุทัยรัตน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สำนักงานปลัดกระทรวง เป็นผู้ว่าฯปัตตานี