ตลาดน้ำอัดลมแข่งเดือด เป๊ปซี่-โคล่าเทงบ 10 ล้านบาทหวนสร้างแบรนด์เซเว่น-อัพอีกครั้งหลังเงียบมานานกว่า 18 ปี ด้วยการนำไอคอน “ไฟโด-ดิโด้” มาช่วยตอกย้ำแบรนด์ คาดช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์มากขึ้น 20% พร้อมปรับลายแพคเกจใหม่ทั้งแบบกระป๋องและขวด เผยเน้นใช้กลยุทธ์การตลาดเจาะกลุ่มนิช มาร์เก็ต รวมถึงเตรียมรุกช่องทางผับ-บาร์ด้วยการแนะนำสูตรเครื่องดื่มเซเว่น-อัพกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มในปัจจุบันแข่งขันกันรุนแรงมากในทุกเซกเมนต์ทั้งตลาดน้ำอัดลมและชาเขียว ซึ่งถ้าแบรนด์ไหนเงียบก็จะเสียเปรียบคู่แข่ง ล่าสุดบริษัทฯใช้งบทางการตลาด 10 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์เซเว่น-อัพอีกครั้งหลังจากหยุดทำตลาดมานานกว่า18 ปี ด้วยการนำแบรนด์ไอคอนของไฟโด-ดิโด (FIDO DIDO) กลับมาสร้างสีสันในตลาดน้ำอัดลมใส ภายใต้คอนเซ็ตป์ “Keep Cool, Think Clear” เพื่อตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่ทันสมัยมากขึ้น
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “เซเว่น –อัพ ไฟโด –ดิโด้ แพคเกจจิ้ง คอนเทสต์” โดยมีเป้าหมายหลักต้องการสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักวัย 20 ปีขึ้นไปให้มีส่วนร่วมด้วยการส่งผลงานออกแบบบรรจุภัณฑ์เซเว่น-อัพเข้าประกวด ซึ่งการทำตลาดครั้งนี้คาดว่าจะช่วยทำให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น20-30% หลังจากที่บริษัทฯเริ่มปลุกกระแสเซเว่น-อัพมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
บริษัทฯยังได้ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เซเว่น-อัพใหม่ทั้งในส่วนกระป๋องมี 3 ดีไซน์ใหม่และขวดเพ็ท 1 ลิตร ด้วยการนำไอคอนของไฟโด-ดิโดมาสกรีนไว้ ซึ่งรูปแบบเดิมแพคเกจจิ้งเซเว่น-อัพจะมีเพียงโลโก้เครื่องดื่มเซเว่น-อัพและมีพื้นสีเขียวเท่านั้น รวมถึงบริษัทฯยังได้นำลูกเล่นการทำตลาดมาใช้ โดยการแนะนำสูตรเครื่องดื่มระหว่างเซเว่น-อัพและแอลกอฮอลล์ประเภทอื่น ด้วยการพิมพ์เป็นเมนูวางร่วมกับเซเว่น-อัพแบบกระป๋องและขวดขนาดเล็กผ่านช่องทางผับ-บาร์
ส่วนกลยุทธ์ที่บริษัทฯใช้ในการทำกิจกรรมจะเน้นทำแบบนิชมาร์เก็ต เนื่องจากตลาดเลมอนไลม์เป็นตลาดเล็ก อาทิ ทำกิจกรรมร่วมกับเอ็มทีวีและชิค ชาแนล รวมถึงยังมีภาพยนตร์โฆษณา 3 ชุด และสื่อผ่านรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งบนชานชาลาและภายในรถไฟฟ้าบางขบวน ซึ่งเริ่มมีการติดตั้งสื่อจอภาพภายในรถโดยสารแล้ว
สำหรับตลาดรวมเครื่องดื่มน้ำอัดลมมีมูลค่ากว่า 3.3 หมื่นล้านบาท แบ่งออกเป็นตลาดน้ำสี คิดเป็นสัดส่วน 25% และน้ำอัดลมกลุ่มเลมอนไลม์ 10% โดยปัจจุบันสไปร์ทเป็นผู้นำตลาดนี้ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 80-90% ส่วนเซเว่น-อัพมีแชร์ 10%
นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มในปัจจุบันแข่งขันกันรุนแรงมากในทุกเซกเมนต์ทั้งตลาดน้ำอัดลมและชาเขียว ซึ่งถ้าแบรนด์ไหนเงียบก็จะเสียเปรียบคู่แข่ง ล่าสุดบริษัทฯใช้งบทางการตลาด 10 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์เซเว่น-อัพอีกครั้งหลังจากหยุดทำตลาดมานานกว่า18 ปี ด้วยการนำแบรนด์ไอคอนของไฟโด-ดิโด (FIDO DIDO) กลับมาสร้างสีสันในตลาดน้ำอัดลมใส ภายใต้คอนเซ็ตป์ “Keep Cool, Think Clear” เพื่อตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่ทันสมัยมากขึ้น
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “เซเว่น –อัพ ไฟโด –ดิโด้ แพคเกจจิ้ง คอนเทสต์” โดยมีเป้าหมายหลักต้องการสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักวัย 20 ปีขึ้นไปให้มีส่วนร่วมด้วยการส่งผลงานออกแบบบรรจุภัณฑ์เซเว่น-อัพเข้าประกวด ซึ่งการทำตลาดครั้งนี้คาดว่าจะช่วยทำให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น20-30% หลังจากที่บริษัทฯเริ่มปลุกกระแสเซเว่น-อัพมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
บริษัทฯยังได้ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เซเว่น-อัพใหม่ทั้งในส่วนกระป๋องมี 3 ดีไซน์ใหม่และขวดเพ็ท 1 ลิตร ด้วยการนำไอคอนของไฟโด-ดิโดมาสกรีนไว้ ซึ่งรูปแบบเดิมแพคเกจจิ้งเซเว่น-อัพจะมีเพียงโลโก้เครื่องดื่มเซเว่น-อัพและมีพื้นสีเขียวเท่านั้น รวมถึงบริษัทฯยังได้นำลูกเล่นการทำตลาดมาใช้ โดยการแนะนำสูตรเครื่องดื่มระหว่างเซเว่น-อัพและแอลกอฮอลล์ประเภทอื่น ด้วยการพิมพ์เป็นเมนูวางร่วมกับเซเว่น-อัพแบบกระป๋องและขวดขนาดเล็กผ่านช่องทางผับ-บาร์
ส่วนกลยุทธ์ที่บริษัทฯใช้ในการทำกิจกรรมจะเน้นทำแบบนิชมาร์เก็ต เนื่องจากตลาดเลมอนไลม์เป็นตลาดเล็ก อาทิ ทำกิจกรรมร่วมกับเอ็มทีวีและชิค ชาแนล รวมถึงยังมีภาพยนตร์โฆษณา 3 ชุด และสื่อผ่านรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งบนชานชาลาและภายในรถไฟฟ้าบางขบวน ซึ่งเริ่มมีการติดตั้งสื่อจอภาพภายในรถโดยสารแล้ว
สำหรับตลาดรวมเครื่องดื่มน้ำอัดลมมีมูลค่ากว่า 3.3 หมื่นล้านบาท แบ่งออกเป็นตลาดน้ำสี คิดเป็นสัดส่วน 25% และน้ำอัดลมกลุ่มเลมอนไลม์ 10% โดยปัจจุบันสไปร์ทเป็นผู้นำตลาดนี้ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 80-90% ส่วนเซเว่น-อัพมีแชร์ 10%