รอยเตอร์/เอเอฟพี - บรรดาโรงกลั่นน้ำมันตามริมฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ รวมไปถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง ที่ถูกพายุเฮอริเคนแคทรีนาถล่มหนัก ขณะนี้กำลังเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้วอย่างช้าๆ
หลังจากพายุแคทรีนาได้พัดเข้าถล่มพื้นที่ศูนย์กลางด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯแห่งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุด โรงกลั่นน้ำมัน 8 แห่งในเขตรัฐลุยเซียนาและมิสซิสซิปปีที่ต้องปิดทำการไปก่อนหน้านี้ ได้เริ่มเปิดดำเนินการผลิตอีกครั้งแล้ว 1 แห่ง โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4) บริษัทเชลล์เผยว่า โรงกลั่นน้ำมันโมติวาส์ คอนเวนต์ได้เริ่มกลับมาผลิตได้อีกครั้ง ขณะที่โรงกลั่นโมติวาส์ นอร์โก อาจเริ่มผลิตได้อีกในช่วงกลางสัปดาห์นี้
ส่วน 2 โรงงานที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีอันต้องปิดไปเช่นกัน คือ โรงกลั่นของเชฟรอนในเมืองปาสกากูลา รัฐมิสซิสซิปปี และโรงงานของโคโนโกฟิลลิปส์ในเมืองแบลล์ แชสส์ รัฐลุยเซียนา ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วมนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่า อาจต้องใช้เวลาซ่อมแซมอีกหลายเดือนถึงจะเปิดทำการได้อีกครั้ง
นอกเหนือจากน้ำมันดิบ 8.5 ล้านบาร์เรลที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้นำออกมาจากคลังน้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้บรรดาผู้กลั่นน้ำมันหลายรายรวมถึงเอ็กซ์ซอน โมบิล และวาเลโร เอเนอจี้ ยืมแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2) ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ยังประกาศขายน้ำมันอีก 30 ล้านบาร์เรลให้กับบรรดาผู้กลั่นน้ำมัน ซึ่งคาดว่า น่าจะไปถึงโรงงานเหล่านี้ได้เร็วที่สุดในวันที่ 20 กันยายนนี้ โดยแซม บ็อดแมน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานเสริมว่า ทางกระทรวงสามารถให้ความช่วยเหลือด้านน้ำมันดิบได้มากกว่านี้หากจำเป็น
ทั้งนี้ จากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ล่าสุดในวันเสาร์ที่ผ่านมา ผลผลิตน้ำมันดิบจากอ่าวเม็กซิโกอยู่ที่ 21% ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นมา 10% จากเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้มีมากกว่า 42% สูงขึ้นจากเดิมประมาณ 15%
ด้านชีคอาหมัด ฟาฮัด อัล-ซาบาห์ ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ออกมากล่าวยืนยันถึงราคาน้ำมันในภาวะปัจจุบันว่า อยู่สูงเกินระดับที่ควรจะเป็นตามปัจจัยด้านเศรษฐกิจ โดยเขาชี้แจงว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์และสภาพอากาศ รวมไปถึงการเก็งกำไรในตลาดโลก และศักยภาพการกลั่นน้ำมันที่ไม่เพียงพอมากกว่า
พร้อมกันนี้ เขาได้ย้ำว่า ขณะนี้ทางโอเปกผลิตน้ำมันอยู่ที่ระดับ 30.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) ซึ่งมากกว่าความต้องการในตลาดถึง 1 ล้านบีพีดีแล้ว
อินโดฯตั้งเป้าเปิดบ่อผลิตน้ำมัน
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์โคปราน เทมโปในแดนอิเหนาฉบับวานนี้ (5) ได้รายงานว่า พีที เพอร์ตามินา บริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซของรัฐบาลอินโดนีเซีย มีแผนที่จะเริ่มต้นการผลิตที่บ่อน้ำมันเก่า 42 แห่งอีกครั้ง เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ โดยจะเริ่มผลิตที่บ่อน้ำมัน 7 แห่งบนเกาะสุมาตราก่อนในปีนี้
หลังจากพายุแคทรีนาได้พัดเข้าถล่มพื้นที่ศูนย์กลางด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯแห่งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุด โรงกลั่นน้ำมัน 8 แห่งในเขตรัฐลุยเซียนาและมิสซิสซิปปีที่ต้องปิดทำการไปก่อนหน้านี้ ได้เริ่มเปิดดำเนินการผลิตอีกครั้งแล้ว 1 แห่ง โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4) บริษัทเชลล์เผยว่า โรงกลั่นน้ำมันโมติวาส์ คอนเวนต์ได้เริ่มกลับมาผลิตได้อีกครั้ง ขณะที่โรงกลั่นโมติวาส์ นอร์โก อาจเริ่มผลิตได้อีกในช่วงกลางสัปดาห์นี้
ส่วน 2 โรงงานที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีอันต้องปิดไปเช่นกัน คือ โรงกลั่นของเชฟรอนในเมืองปาสกากูลา รัฐมิสซิสซิปปี และโรงงานของโคโนโกฟิลลิปส์ในเมืองแบลล์ แชสส์ รัฐลุยเซียนา ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วมนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่า อาจต้องใช้เวลาซ่อมแซมอีกหลายเดือนถึงจะเปิดทำการได้อีกครั้ง
นอกเหนือจากน้ำมันดิบ 8.5 ล้านบาร์เรลที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้นำออกมาจากคลังน้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้บรรดาผู้กลั่นน้ำมันหลายรายรวมถึงเอ็กซ์ซอน โมบิล และวาเลโร เอเนอจี้ ยืมแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2) ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ยังประกาศขายน้ำมันอีก 30 ล้านบาร์เรลให้กับบรรดาผู้กลั่นน้ำมัน ซึ่งคาดว่า น่าจะไปถึงโรงงานเหล่านี้ได้เร็วที่สุดในวันที่ 20 กันยายนนี้ โดยแซม บ็อดแมน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานเสริมว่า ทางกระทรวงสามารถให้ความช่วยเหลือด้านน้ำมันดิบได้มากกว่านี้หากจำเป็น
ทั้งนี้ จากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ล่าสุดในวันเสาร์ที่ผ่านมา ผลผลิตน้ำมันดิบจากอ่าวเม็กซิโกอยู่ที่ 21% ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นมา 10% จากเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้มีมากกว่า 42% สูงขึ้นจากเดิมประมาณ 15%
ด้านชีคอาหมัด ฟาฮัด อัล-ซาบาห์ ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ออกมากล่าวยืนยันถึงราคาน้ำมันในภาวะปัจจุบันว่า อยู่สูงเกินระดับที่ควรจะเป็นตามปัจจัยด้านเศรษฐกิจ โดยเขาชี้แจงว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์และสภาพอากาศ รวมไปถึงการเก็งกำไรในตลาดโลก และศักยภาพการกลั่นน้ำมันที่ไม่เพียงพอมากกว่า
พร้อมกันนี้ เขาได้ย้ำว่า ขณะนี้ทางโอเปกผลิตน้ำมันอยู่ที่ระดับ 30.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) ซึ่งมากกว่าความต้องการในตลาดถึง 1 ล้านบีพีดีแล้ว
อินโดฯตั้งเป้าเปิดบ่อผลิตน้ำมัน
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์โคปราน เทมโปในแดนอิเหนาฉบับวานนี้ (5) ได้รายงานว่า พีที เพอร์ตามินา บริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซของรัฐบาลอินโดนีเซีย มีแผนที่จะเริ่มต้นการผลิตที่บ่อน้ำมันเก่า 42 แห่งอีกครั้ง เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ โดยจะเริ่มผลิตที่บ่อน้ำมัน 7 แห่งบนเกาะสุมาตราก่อนในปีนี้