งานบางกอกเจมส์ฯครั้งที่ 36 อัดงบจัดงาน 20 ล้านบาท หวังยอดขายสะพัดเพิ่มขึ้น 20% ดึงผู้ค้ากว่า 4,500 รายเข้าร่วมกว่า 3,000 คูหา
นายสมพล เติมพิทยาเวช ประธานคณะทำงานโครงการจัดงานแสดงสินค้าบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่ แฟร์ ในฐานะกระทำการแทนนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เปิดเผยว่า จากการจัดงาน “บางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์” ทุกครั้งที่ผ่ามา ได้รับการยกย่องให้งานดังกล่าวนี้ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกที่มีรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าแบบครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านการจัดงาน นิทรรศการ งานสัมนา การตกแต่งคูหา โดยเฉพาะมีระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งการจัดงานดังกล่าวนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดของตัวเองสู่ตลาดโลกได้ง่ายขึ้น และเป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นที่สุดของการผลิตและการออกแบบของโลก
โดยครั้งล่าสุดในปีนื้ เป็นครั้งที่ 36 ได้จัดงานภายใต้แนวคิด “ความเจิดจรัสของอัญมณีแห่งมหานครกรุงเทพ” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 กันยายนศกนี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 1-8 พื้นที่รวมกว่า 60,000 ตารางเมตร จำนวนคูหา 3,000 กว่าคูหา แบ่งเป็นคูหาของต่างชาติ 20% ทั้งนี้ได้เชิญผู้ประกอบการด้านอัญมณีชั้นนำของโลกกว่า 4,500 รายเข้าร่วมงาน ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายในงานเพิ่มขึ้น 20% จากที่จัดช่วงต้นปีทำได้ 8,500 ล้านบาท
สำหรับการจัดงานติดต่อกัน 6 วันนี้ ในช่วง 4 วันแรก จะเป็นวันเจรจาทางธุรกิจ ส่วนสองวันสุดท้ายจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม โดยเสียค่าผ่านประตูคนละ 50 บาท ซึ่งกิจกรรมหลักในงานเช่น การประกวดออกแบบเครื่องเงิน 2005 เพื่อสนับสนุนนักออกแบบรุ่นใหม่จัดแสดงผลงานที่ชนะการประกวด การจัดนิทรรศการโครงการ ทีจีเจทีเอ อีลิทครีเอชั่น แสดงผลงานอัญมณีจากผู้ประกอบการชั้นนำของไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสุดยอดของผลงานประดิษฐ์กรรมที่มีคุณภาพ เป็นต้น
“งานนี้คาดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะเราจัดช่วงท้ายปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะซื้อสินค้าอยู่แล้ว และการจัดงานในเมืองนอกตอนนี้ คนเริ่มชะลอการซื้อกันแล้ว เพราะว่าพิษราคาน้ำมัน ส่วนคู่แข่งของไทยคือ จีน อินเดีย เพราะมีแรงงานที่ถูก”
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ร่วมกับสมาคมฯจัดงานดังกล่าวขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ยอดการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปีนี้มีการเติบโต 20% ตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้การดำเนินงานในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กรกฎาคม) การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่ารวมประมาณ 1,733 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 68,000 ล้านบาท มีอัตราการาขยายตัวประมาณ 18.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีบทบาทสำคัญในภาคการส่งออก และติดอันดับ 10 รายการแรกของสินค้าส่งออกของไทย
นายสมพล เติมพิทยาเวช ประธานคณะทำงานโครงการจัดงานแสดงสินค้าบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่ แฟร์ ในฐานะกระทำการแทนนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เปิดเผยว่า จากการจัดงาน “บางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์” ทุกครั้งที่ผ่ามา ได้รับการยกย่องให้งานดังกล่าวนี้ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกที่มีรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าแบบครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านการจัดงาน นิทรรศการ งานสัมนา การตกแต่งคูหา โดยเฉพาะมีระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งการจัดงานดังกล่าวนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดของตัวเองสู่ตลาดโลกได้ง่ายขึ้น และเป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นที่สุดของการผลิตและการออกแบบของโลก
โดยครั้งล่าสุดในปีนื้ เป็นครั้งที่ 36 ได้จัดงานภายใต้แนวคิด “ความเจิดจรัสของอัญมณีแห่งมหานครกรุงเทพ” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 กันยายนศกนี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 1-8 พื้นที่รวมกว่า 60,000 ตารางเมตร จำนวนคูหา 3,000 กว่าคูหา แบ่งเป็นคูหาของต่างชาติ 20% ทั้งนี้ได้เชิญผู้ประกอบการด้านอัญมณีชั้นนำของโลกกว่า 4,500 รายเข้าร่วมงาน ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายในงานเพิ่มขึ้น 20% จากที่จัดช่วงต้นปีทำได้ 8,500 ล้านบาท
สำหรับการจัดงานติดต่อกัน 6 วันนี้ ในช่วง 4 วันแรก จะเป็นวันเจรจาทางธุรกิจ ส่วนสองวันสุดท้ายจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม โดยเสียค่าผ่านประตูคนละ 50 บาท ซึ่งกิจกรรมหลักในงานเช่น การประกวดออกแบบเครื่องเงิน 2005 เพื่อสนับสนุนนักออกแบบรุ่นใหม่จัดแสดงผลงานที่ชนะการประกวด การจัดนิทรรศการโครงการ ทีจีเจทีเอ อีลิทครีเอชั่น แสดงผลงานอัญมณีจากผู้ประกอบการชั้นนำของไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสุดยอดของผลงานประดิษฐ์กรรมที่มีคุณภาพ เป็นต้น
“งานนี้คาดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะเราจัดช่วงท้ายปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะซื้อสินค้าอยู่แล้ว และการจัดงานในเมืองนอกตอนนี้ คนเริ่มชะลอการซื้อกันแล้ว เพราะว่าพิษราคาน้ำมัน ส่วนคู่แข่งของไทยคือ จีน อินเดีย เพราะมีแรงงานที่ถูก”
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ร่วมกับสมาคมฯจัดงานดังกล่าวขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ยอดการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปีนี้มีการเติบโต 20% ตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้การดำเนินงานในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กรกฎาคม) การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่ารวมประมาณ 1,733 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 68,000 ล้านบาท มีอัตราการาขยายตัวประมาณ 18.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีบทบาทสำคัญในภาคการส่งออก และติดอันดับ 10 รายการแรกของสินค้าส่งออกของไทย