xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดลูกอมแผ่วเจอสแน็คแย่งแชร์ พึ่ง“ฟิล์ม-รัฐภูมิ”ดึงโจ๋อมฮาร์ทบีท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฮาร์ทบีทเผยตลาดรวมลูกอมโตหดตัว   เหตุจากคนสวิตช์แบรนด์หันมาทานขนมสแน็คและคนไทยทานลูกอมมีน้ำตาลน้อยลง เผยแคมเปญที่มี “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เป็นพรีเซ็นเตอร์รุ่งส่งผลยอดขายไตรมาส 3โต 10%    ล่าสุดเปิดตัวลูกอมใหม่พร้อมไอเดียเก๋แทรกศัพท์อังกฤษที่ห่อ  หวังเจาะฐานลูกค้าเด็ก 5-9 ปี    คาดสิ้นปีรายได้โต 5%

นางสาวศศิวิมล สิงหเนตร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เยเนอรัลแคนดี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายลูกอม “ฮาร์ทบีท”  เปิดเผยว่า    ตลาดรวมลูกอมในประเทศมีอัตราการเติบโตที่ลดลง 3% จากมูลค่าตลาดรวม 3,600 ล้านบาท  เนื่องจากตลาดลูกอมในไทยมีการสวิตช์แบรนด์มากขึ้น  ทั้งจากการที่ผู้บริโภคหันมาทานสแน็คมาก   รวมถึงคนไทยมีการบริโภคชูการ์ คอนเฟลกนารี (ลูกอมที่มีน้ำตาล) ในปริมาณต่ำประมาณคนละ 0.5 กิโลกรัมต่อปี  ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม 2 กิโลกรัมต่อคนต่อปี  ส่วนสิงคโปร์บริโภค 10-15 กิโลกรัมต่อคนต่อปี  

ประกอบกับการที่ตลาดลูกอมแข่งขันข้ามแคธิกอรี่กัน อาทิ กลุ่มลูกอมรีเฟรชเมนท์ที่ตลาดส่วนใหญ่จะมุ่งทำตลาดกันมาก  เช่น ลูกอมฮอลล์,คลอเล็ท และมายมินท์  จึงทำให้ตลาดกลุ่มนี้มีอัตราการโต 5%  ส่วนลูกอมฮาร์ทบีทอยู่ในกลุ่มฟรุ๊ตฟันแคนดี้มีอัตราการโตลดลง 7%     ทั้งนี้ตลาดลูกอมในไทย แบ่งออกเป็นตลาดรีเฟรชเมนต์ 1,500 ล้านบาท ,  ตลาดฟรุ๊ตฟันแคนดี้ 1,400 ล้านบาท โดยฮาร์ทบีทเป็นผู้นำด้วยแชร์ 40%  ,ลูกอมแก้ไอ 450 ล้านบาท และลูกอมกัมมี่ 240 ล้านบาท   

นางสาวศศิวิมล  กล่าวด้วยว่า  ในส่วนของบริษัทฯยอดรายได้ในไตรมาส 3 โตขึ้น 10%  สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจที่ราคาน้ำมันแพงและช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดลูกอม    จากการที่บริษัทฯเปิดตัวแคมเปญ “โครงการพูดได้ ..ให้ง่ายๆกับพี่ฟิล์ม”  ซึ่งได้ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้   เนื่องจากต้องการให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์ฮาร์ทบีทมากขึ้น  โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่ 27 พ.ค. - 30 ส.ค. 48   ทั้งนี้บริษัทฯตั้งงบทางการตลาดปีนี้ไว้ประมาณ 25% ของยอดขาย   โดยบริษัทฯจะเน้นจัดกิจกรรมทางการตลาดและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า   

ล่าสุดบริษัทฯ เปิดตัวลูกอมใหม่  “ฮาร์ทบีท เอทูแซด”  เพื่อเน้นเจาะกลุ่มเด็กตั้งแต่ 5- 9 ปี   โดยจะใช้กลยุทธ์ Clever on Flavor  ด้วยการใส่คำศัพท์ภาษาอังกฤษไว้ที่ห่อลูกอม    ปัจจุบันลูกอมฮาร์ทบีทมีหลายรายการ  เช่น  ฮาร์ทบีทจู๊ซซี่ , ฮาร์ทบีทจัมโบ้ ,ไฟติ้งแบรนด์ ลูกอมฮาร์ท แอนด์ ครีม ที่ขายตามเจเนอรัลเทรดทั่วไป  

สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯ ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5 % หรือมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 40% ของตลาดฟรุ๊ตฟันแคนดี้   จากการที่คู่แข่งรายย่อยหายไปจากตลาดและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์  เช่น เปิดตัวแคมเปญและผลิตภัณฑ์ใหม่   นอกจากนี้บริษัทฯยังมีรายได้จากการส่งลูกอมฮาร์ทบีทไปขายยังต่างประเทศกว่า 42 ประเทศอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น