"ประมวล"ประกาศยืนคนละฝั่งกับ"ทักษิณ"เผยจำใจอยู่ทรท.จวกรัฐบาลมองสถาบันกษัตริย์ แค่ตรายาง ถามตอนเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ มีความจริงใจกันหรือไม่ หรือคิดว่าเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อวานนี้ (4 ก.ย.)ที่อาคารทีพีไอ วิทยุชุมชนคนรักประธิปไตย เอฟเอ็ม 92.25 ได้จัดการอภิปรายเรื่อง"การกดขี่ทางการเมือง ยึดครองทางเศรษฐกิจ มอมเมาทางวัฒนธรรม"และโอกาสนี้ ได้เชิญ นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย มากล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่องพระราชอำนาจด้วย โดยนายประมวล กล่าวในตอนหนึ่งว่า ตนไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ เป็นแค่นักศึกษาทางการเมืองที่เรียนรู้ทางการเมือง เข้ามาเล่นการเมืองเพราะความจำเป็น เนื่องจากสมัยรับราชการ ถูกการเมืองรังแกมา 2-3 ครั้ง ที่ผ่านมา เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นหนึ่งในคณะผู้บริหารพรรค เป็นรัฐมนตรี มีส่วนในการสร้างพรรคไทยรักไทย และมีส่วนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้ ก็ได้มายืนอยู่คนละฝั่งกับพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว สำหรับหนังสือพระราชอำนาจ ที่ตนได้เขียนนั้น ก็เพื่อต้องการให้คนไทยทุกคนได้รู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไร คำว่า เจ้าชีวิต เจ้าแผ่นดิน คืออะไร โดยเฉพาะคนที่เรียนจบจากอเมริกา
นายประมวล กล่าวว่า คนยุคนี้เริ่มมองสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแค่สัญลักษณ์ นักการเมืองต่างๆ มองว่าพระราชอำนาจ ของพระมหากษัตริย์เป็นกระบวนการหนึ่ง เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ประจำปี 2548 ที่มีคนคิดว่าเป็นอำนาจของรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มองพระมหากษัตริย์ เป็นเพียงตรายาง ทั้งๆที่พระองค์ทรงเป็นจอมทัพไทย ทหารไม่ได้เป็นทหารของนักการเมือง การแต่งตั้งใดๆ จึงควรขอพระราชทานคำแนะนำ จากพระองค์ก่อน ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีลงนามไปแล้วจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ไม่ใช่ตัดสินใจเสร็จแล้วก็พากันไปตีกอล์ฟเลย มันไม่ได้ วันนี้มันเลยพะอืดพะอมไปหมด รวมถึงเรื่องคุณหญิงจารุวรรณ ที่เมื่อ 2 วันก่อน มีคนออกมาบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากพระองค์ทรงอยู่ใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งคนที่ออกมาพูดไม่ใช่คนธรรมดา ทำให้กรณีคุณหญิงจารุวรรณ มีคนออกมาตะแบงกันมาก และมีบางคนไปบอกคุณหญิงจารุวรรณ ว่า จะทำงานอะไรไหน จะหาให้ คุณหญิงก็บอกว่า ทำงานเป็นอย่างเดียวคือ ตรวจเงินแผ่นดิน คนบางคนก็บอกว่า มันทำไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่เปิดช่องให้คุณหญิงกลับมาทำงานที่เก่าได้ ตนไม่อยากให้วุฒิสภาแต่งตั้งองค์กรอิสระ เพราะวุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง ต้องพึ่งพรรคการเมือง จากพรรคการเมืองของรัฐบาล ทำให้องค์กรอิสระไม่กล้าตรวจสอบรัฐบาล
"ต้องถามว่า การเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านได้รักษาคำสัตย์หรือไม่ การทุจริตที่เกิดขึ้นโครมๆ เกิดขึ้นเพราะอะไร หรือคิดว่าการถวายสัตย์ เป็นเพียงขั้นตอนเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากใจจริง" นายประมวล กล่าว และว่า วันนี้เราไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เลย ยกตัวอย่างพวกตนที่อยากออกจากพรรคไทยรักไทยจะตายไป ถ้าลาออกก็พ้นจากความเป็น ส.ส. ต้องรอให้เขาไล่ออกอย่างเดียว ซึ่งเขาก็ไม่ไล่ ก็ต้องอยู่มันอย่างนี้ จะขอแก้รัฐธรรมนูญไม่สังกัดพรรคการเมือง 90 วันได้หรือไม่ เรื่องนี้พรรคไหนก็ไม่ยอม ยังรักษาประโยชน์กันอยู่ ตนจึงต้องอยู่ด้วยความจำยอม
เมื่อวานนี้ (4 ก.ย.)ที่อาคารทีพีไอ วิทยุชุมชนคนรักประธิปไตย เอฟเอ็ม 92.25 ได้จัดการอภิปรายเรื่อง"การกดขี่ทางการเมือง ยึดครองทางเศรษฐกิจ มอมเมาทางวัฒนธรรม"และโอกาสนี้ ได้เชิญ นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย มากล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่องพระราชอำนาจด้วย โดยนายประมวล กล่าวในตอนหนึ่งว่า ตนไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ เป็นแค่นักศึกษาทางการเมืองที่เรียนรู้ทางการเมือง เข้ามาเล่นการเมืองเพราะความจำเป็น เนื่องจากสมัยรับราชการ ถูกการเมืองรังแกมา 2-3 ครั้ง ที่ผ่านมา เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นหนึ่งในคณะผู้บริหารพรรค เป็นรัฐมนตรี มีส่วนในการสร้างพรรคไทยรักไทย และมีส่วนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้ ก็ได้มายืนอยู่คนละฝั่งกับพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว สำหรับหนังสือพระราชอำนาจ ที่ตนได้เขียนนั้น ก็เพื่อต้องการให้คนไทยทุกคนได้รู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไร คำว่า เจ้าชีวิต เจ้าแผ่นดิน คืออะไร โดยเฉพาะคนที่เรียนจบจากอเมริกา
นายประมวล กล่าวว่า คนยุคนี้เริ่มมองสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแค่สัญลักษณ์ นักการเมืองต่างๆ มองว่าพระราชอำนาจ ของพระมหากษัตริย์เป็นกระบวนการหนึ่ง เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ประจำปี 2548 ที่มีคนคิดว่าเป็นอำนาจของรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มองพระมหากษัตริย์ เป็นเพียงตรายาง ทั้งๆที่พระองค์ทรงเป็นจอมทัพไทย ทหารไม่ได้เป็นทหารของนักการเมือง การแต่งตั้งใดๆ จึงควรขอพระราชทานคำแนะนำ จากพระองค์ก่อน ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีลงนามไปแล้วจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ไม่ใช่ตัดสินใจเสร็จแล้วก็พากันไปตีกอล์ฟเลย มันไม่ได้ วันนี้มันเลยพะอืดพะอมไปหมด รวมถึงเรื่องคุณหญิงจารุวรรณ ที่เมื่อ 2 วันก่อน มีคนออกมาบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากพระองค์ทรงอยู่ใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งคนที่ออกมาพูดไม่ใช่คนธรรมดา ทำให้กรณีคุณหญิงจารุวรรณ มีคนออกมาตะแบงกันมาก และมีบางคนไปบอกคุณหญิงจารุวรรณ ว่า จะทำงานอะไรไหน จะหาให้ คุณหญิงก็บอกว่า ทำงานเป็นอย่างเดียวคือ ตรวจเงินแผ่นดิน คนบางคนก็บอกว่า มันทำไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่เปิดช่องให้คุณหญิงกลับมาทำงานที่เก่าได้ ตนไม่อยากให้วุฒิสภาแต่งตั้งองค์กรอิสระ เพราะวุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง ต้องพึ่งพรรคการเมือง จากพรรคการเมืองของรัฐบาล ทำให้องค์กรอิสระไม่กล้าตรวจสอบรัฐบาล
"ต้องถามว่า การเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านได้รักษาคำสัตย์หรือไม่ การทุจริตที่เกิดขึ้นโครมๆ เกิดขึ้นเพราะอะไร หรือคิดว่าการถวายสัตย์ เป็นเพียงขั้นตอนเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากใจจริง" นายประมวล กล่าว และว่า วันนี้เราไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เลย ยกตัวอย่างพวกตนที่อยากออกจากพรรคไทยรักไทยจะตายไป ถ้าลาออกก็พ้นจากความเป็น ส.ส. ต้องรอให้เขาไล่ออกอย่างเดียว ซึ่งเขาก็ไม่ไล่ ก็ต้องอยู่มันอย่างนี้ จะขอแก้รัฐธรรมนูญไม่สังกัดพรรคการเมือง 90 วันได้หรือไม่ เรื่องนี้พรรคไหนก็ไม่ยอม ยังรักษาประโยชน์กันอยู่ ตนจึงต้องอยู่ด้วยความจำยอม