xs
xsm
sm
md
lg

ดอกตะแบกบานแล้วร่วง!

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

ใครเห็นชื่อบทความวันนี้แล้วอย่าได้คิดว่าเป็นการแสดงปริศนาธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้ามักตรัสสอนเนือง ๆ ว่าสรรพสิ่งเกิดขึ้นแล้วย่อมตั้งอยู่และดับไปเป็นธรรมดา ไม่มีสิ่งใดจิรังยั่งยืนหรือยึดฉวยเอาเป็นของตนพวกตนได้ตลอดไป เพราะนั่นเป็นเรื่องของพระไตรลักษณ์ซึ่งลุ่มลึกเป็นอันมาก ในที่นี้มุ่งหมายที่จะบอกต่อรัฐบาลและคนไทยทั้งปวงว่าในวันนี้ดอกตะแบกบานแล้ว!

เพราะต้นตะแบกนั้นเป็นไม้ป่าที่มีอยู่ทั่วทุกผืนป่าในประเทศไทย เป็นพันธุ์ไม้พิเศษชนิดหนึ่งที่ดอกจะบานในช่วงปลายฤดูฝน และเมื่อดอกตะแบกบานแล้วถัดจากนั้นไปก็จะมีดอกพืชพันธุ์อีกสองชนิดบานตามต่อเนื่องไป ชนิดหนึ่งคือดอกหญ้าคอมมิวนิสต์ อีกชนิดหนึ่งคือดอกสาบเสือ

ดอกหญ้าคอมมิวนิสต์บานเมื่อใดเมื่อนั้นก็เป็นอันแน่นอนว่าฤดูฝนกำลังสิ้นลงแล้ว และพอดอกสาบเสือบานก็จะเป็นสัญญาณหมายว่าฤดูฝนได้สิ้นสุดลง ฤดูหนาวหรือฤดูแล้งกำลังมาถึง

เพราะเหตุนั้นพันธุ์ไม้ทั้งสามชนิดนี้คือดอกตะแบก ดอกหญ้าคอมมิวนิสต์และดอกสาบเสือจึงเป็นพันธุ์ไม้ที่บ่งบอกฤดูกาล ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาแต่โบราณกาล

ทำนองเดียวกับการสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มดขนไข่ ซึ่งแสดงว่าน้ำจะหลากท่วม และถ้าจะหลากท่วมไปถึงไหนก็สังเกตปรากฏการณ์ได้จากการที่หอยโข่งขึ้นไปไข่สูงระดับไหนน้ำก็จะหลากท่วมไปถึงนั่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในบางครั้งสัตว์เล็ก ๆ ก็มีสัญญาณรับรู้ปรากฏการณ์ธรรมชาติได้ดีกว่ามนุษย์

ดังนั้นถึงแม้ว่ามนุษย์จะเป็นสัตว์ประเสริฐ คือเป็นสัตว์ที่สามารถฝึกฝนอบรมจิตใจให้ยกระดับสูงขึ้นไปได้ต่างกับสัตว์อื่นก็ตาม ก็หาควรที่จะดูถูกดูแคลนสัตว์เดรัจฉานเหล่านั้น โดยเฉพาะยิ่งกับมนุษย์ด้วยกันก็ยิ่งไม่พึงดูถูกดูแคลน เพราะเรื่องราวทั้งหลายนั้นไม่มีใครสามารถรู้หรือเก่งไปได้หมดทุกเรื่อง หลากหลายเรื่องราวมีคนอื่นรู้มากกว่า รู้ดีกว่า รู้ถูกต้องกว่า และบางเรื่องสัตว์เดรัจฉานก็รู้ถูกต้องกว่ามนุษย์เสียอีก

ถ้าคนเรารำลึกได้เช่นนี้แล้ว การดูหมิ่นถิ่นแคลนกันก็จะหมดสิ้นไป โลกมนุษย์ก็จะน่าอยู่ มีสภาพที่สุขสงบสันติยกย่องให้เกียรติกันและกัน รับฟังกันและกัน ประโยชน์ก็จะบังเกิดแก่สังคมและประเทศชาติ

แต่ทว่าพันธุ์ไม้ทั้งสามชนิดนี้ก็ใช่ว่าจะบานพร้อมกันทั้งประเทศ ความเป็นจริงก็คือจะบานมาจากทางเหนือและอีสานก่อน ไล่ลงมาถึงภาคกลางแล้วลงไปภาคใต้ ซึ่งสอดคล้องกับฤดูกาลที่จะเริ่มต้นมาจากทางเหนือและอีสานลำดับมาถึงภาคกลางก่อนแล้วจึงไปถึงภาคใต้

ในวันนี้ทางภาคเหนือและภาคอีสานปรากฏดอกตะแบกบานแล้ว ต้นหญ้าคอมมิวนิสต์ก็พุ่งสูงชะลูด ปลายยอดตูมเต่งเหมือนกับข้าวตั้งท้องแล้ว ต้นสาบเสือก็แผ่กิ่งก้านสูงใหญ่ใกล้จะออกดอกแล้ว เหล่านี้คือปรากฏการณ์ที่ส่งสัญญาณหมายว่าในภาคเหนือและภาคอีสานได้มาถึงปลายฤดูฝนเต็มทีแล้ว

แม้ในภาคกลางที่ยังพอมีฝนตกอยู่บ้างก็เห็นจะไม่นานเท่าใดแล้ว จากนั้นฤดูฝนคงเคลื่อนตัวลงไปทางภาคใต้

ภาคกลางกับภาคตะวันออกนั้นฤดูกาลอยู่ในห้วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งแสดงว่าฤดูฝนของภาคกลางและภาคตะวันออกก็กำลังจะสิ้นลงเช่นเดียวกัน

สถานการณ์เช่นนี้บ่งบอกอะไรเล่า? มันเป็นการบ่งบอกว่าการพึ่งน้ำฟ้าน้ำฝนของภาคตะวันออกสำหรับฤดูฝนปีนี้เห็นทีจะสมหวังยาก

ประเทศไทยของเราทุกวันนี้เหมือนกับมีอาเพศว่าแผ่นดินจะเป็นยุคเข็ญ จึงเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่เป็นไปตามปกติ

เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และฝั่งอันดามัน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยเลื่องชื่อลือชาไปทั่วโลก เป็นแหล่งรายได้สำคัญแหล่งหนึ่งของประเทศ แต่กลับต้องประสบกับวิกฤตที่กระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังไม่ฟื้น

ภูเก็ตและฝั่งอันดามันนั้นเผชิญกับวิกฤตเพราะถูกพิษภัยของสึนามิดังที่รู้ ๆ เห็น ๆ กันอยู่ แต่นี่ก็เพิ่งเกิดขึ้นที่ภาคเหนือคือเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งอยู่ดี ๆ ก็ถูกน้ำท่วม และมีเค้าว่าอาจถูกผีซ้ำด้ำพลอยเพราะเพิ่งมีการเตือนภัยว่าจะมีดีเปรสชั่นพัดเข้าสู่ภาคเหนือและภาคอีสานในช่วงระยะเวลาจากนี้ไป

ส่วนในภาคตะวันออกนั้นเป็นทั้งฐานอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ลงทุนไปหลายล้านล้านบาท และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อลือชาอีกแห่งหนึ่งของประเทศด้วย

ได้กล่าวถึงในบทความของคอลัมน์นี้มาครั้งหนึ่งว่าภาคตะวันออกกำลังเผชิญวิกฤตเรื่องน้ำ ส่งผลกระทบให้ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่นั้นผลิตไม่ได้ตามกำลังการผลิตที่พึงมี และบรรดาสถานบริการ โรงแรมต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระเทือนจากภาวะที่ขาดน้ำ

ในช่วงนั้นก็ยังมีการโต้เถียงกันอยู่ว่าในภาคตะวันออกขาดแคลนน้ำจริงหรือไม่ และความจริงเพิ่งเป็นที่ยอมรับกันเมื่อไม่กี่วันมานี้เองว่าขาดน้ำจริงแล้ว และน้ำที่มีอยู่เห็นจะใช้ได้ไม่กี่วันกี่เดือนนัก ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าบ้านเมืองในยามที่เชิดชูเทคโนโลยีกันนักหนานั้นจะมีข้อมูลบริหารที่สับสนอลหม่านกันถึงปานนี้

การที่ภาคตะวันออกขาดแคลนน้ำในเทศกาลนี้ ทั้ง ๆ ที่ควรเป็นเทศกาลที่น้ำทุกอ่างทุกแอ่งทุกแหล่งน้ำต้องเต็มไปด้วยน้ำจนเอ่อล้น ซึ่งหมายความว่าทุกอ่างทุกแอ่งทุกแหล่งน้ำสามารถกักเก็บน้ำในห้วงฤดูฝนนี้เพื่อใช้สอยอย่างพอเพียงไปถึงฤดูฝนหน้า ซึ่งเป็นเวลา 7-9 เดือน

แต่เมื่อช่วงนี้กลับขาดแคลนน้ำเสียเองแล้ว อนาคตอีก 7-9 เดือนจึงอยู่ในสภาพที่น่าวิตกอย่างยิ่ง และนี่ก็คือวิกฤตสำคัญของภาคตะวันออกที่จะเกิดผลกระทบต่อฐานอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดของประเทศ กระทบต่อพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ และแน่นอนว่าย่อมกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศ และรายได้จากการส่งออกของภาคอุตสาหกรรมของประเทศด้วย

สำหรับผู้ที่ถืออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นสรณะก็ควรต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ไว้ให้จงดี เพราะเมื่อการผลิตได้รับผลกระทบ ภาคบริการได้รับผลกระทบ ตัวเลขต่าง ๆ ก็ย่อมได้รับผลตามไปด้วย

ในวันนี้ก็เกิดปรากฏการณ์ที่โรงงานต่าง ๆ ลดการผลิตลง และเกิดปรากฏการณ์ที่ต้องซื้อหาน้ำกันเป็นการจ้าละหวั่น ลุกลามขยายตัวไปถึงน้ำในการบริโภคแล้ว

วันก่อนได้เปรยไว้ในบทความเรื่อง “วิกฤตน้ำ…วิกฤตอุตสาหกรรมและการส่งออก” ว่าหากโชคยังดีก็อาจมีดีเปรสชันสักหลายลูกทำให้ฝนตกในพื้นที่นี้จนมีน้ำพอเพียง แต่ถึงกระนั้นจนวันนี้ยังไม่มีฝนตกจากดีเปรสชันที่ตั้งความหวังไว้นั้นเลย

มันน่าแปลกตรงที่แม้จะมีข่าวคราวว่าจะมีดีเปรสชันพัดเข้าประเทศไทยทางภาคเหนือและภาคอีสาน อาจทำให้ฝนตกหนัก น้ำหลากและน้ำท่วม แต่กลับว่างเว้นที่ภาคตะวันออกเสียเฉย ๆ ราวกับว่ามีกรงเล็บมือปีศาจมาแผ่ปกคลุมพื้นที่นั้นไว้ฉะนั้น

ประเทศไทยของเรานั้นอาศัยน้ำจากฟ้าฝนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะประเทศของเราไม่มีภูเขาน้ำแข็งหรือหิมะที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนเหมือนกับประเทศทางตอนเหนือของเส้นศูนย์สูตรหลายประเทศ

ดังนั้นถ้าฝนฟ้าไม่ตกหรือตกแต่ได้น้ำฝนไม่พอเพียง หรือได้น้ำฝนพอเพียงแล้วแต่เรากักเก็บน้ำไม่เป็นหรือไม่พอเพียงต่อการใช้สอยแล้ว วิกฤตจากการขาดน้ำก็จะเกิดขึ้น

การขาดน้ำนั้นเป็นวิกฤตที่ร้ายแรงมาก อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเป็นอันขาด เอากันที่ร่างกายคนเรา หากขาดน้ำมากก็อาจถึงตายได้ น้ำบริโภคเอย น้ำเพื่อการเกษตรเอย น้ำเพื่อการอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งที่ต้องดำรงการจัดหาและเก็บรักษาให้พอเพียง

ยิ่งประเทศไปเดินตามก้นฝรั่ง เดินหนทางอุตสาหกรรมกันอย่างหนักหน่วงต่อเนื่องมาถึงเพียงนี้แล้ว ความจำเป็นในการใช้น้ำของภาคอุตสาหกรรมได้ทำให้ความจำเป็นในการใช้น้ำและความต้องการปริมาณน้ำมากตามขึ้นไปจากที่เคยเป็นอยู่แต่ก่อนมากนัก

แต่เราก็ไม่ได้สร้างแหล่งน้ำเพิ่ม ไม่ได้ปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติให้กักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น ลำธารคูคลองที่เคยมีมาแต่อดีตก็ตื้นเขินหรือถูกถมจนกักเก็บน้ำไม่ได้ ดังนี้แล้วก็ต้องโทษการบริหารจัดการที่ขาดการใส่ใจในเรื่องน้ำ ที่เป็นมาแต่อดีตถึงปัจจุบันนี้ และกำลังนำพาประเทศของเราไปเผชิญหน้ากับวิกฤตของน้ำเต็มทีแล้ว

การขาดน้ำและวิกฤตน้ำอาจนำไปสู่ความไม่สงบภายในประเทศ และอาจเกิดเป็นสงครามระหว่างประเทศได้ ตัวอย่างก็เคยมีมาแล้วดังเช่นในยุคพุทธกาลที่เกิดสงครามแย่งน้ำกันขึ้นระหว่างแคว้น จนเป็นเหตุให้พระตถาคตเจ้าต้องเสด็จไปห้ามทัพ บทเรียนเรื่องนี้จึงเป็นบทเรียนที่มีคุณค่ามาถึงปัจจุบันด้วย

ดูเหมือนว่าเรากำลังดิ้นรนเรื่องวิกฤตน้ำภาคตะวันออกกันอยู่ เช่น การเจาะบ่อน้ำบาดาลบ้าง การตั้งโครงการงบประมาณร่วม 200,000 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำบ้าง ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะว่าอะไรไปก็คงไม่ได้เรื่อง ดีไม่ดีจะถูกหาว่าไม่สร้างสรรค์เสียเปล่า ๆ

แต่ก็บอกได้ว่าคงจะไม่ทันการณ์ที่จะแก้วิกฤตตั้งแต่ช่วงฤดูแล้งนี้ไปถึงฤดูฝนหน้าเป็นแน่แท้ ควรที่จะได้คิดอ่านเพิ่มมาตรการอย่างอื่นเพื่อแก้ไขวิกฤตน้ำของภาคตะวันออก ซึ่งก็คือการแก้ไขวิกฤตการส่งออกของภาคอุตสาหกรรมและการแก้ไขวิกฤตของภาคอุตสาหกรรมบริการของประเทศโดยตรงนั่นเอง

ก็ไม่ใช่ของใหม่อะไรเลย เพียงแต่อยากกระตุ้นเตือนให้อัญเชิญเอากระแสพระราชดำริและบรรดาโครงการทั้งหลายที่เกี่ยวกับน้ำซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริและได้พระราชทานไว้แล้วมาเร่งทำให้เป็นมรรคเป็นผล

โดยเฉพาะแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้นควรจะยึดมั่นตามพระราชดำริให้มั่นคงในเรื่องดังต่อไปนี้

ประการแรก ทรงพระราชทานกระแสพระราชดำรัสว่าหากขาดแคลนน้ำเข้าจริงแล้วหรือหากจะต้องจัดสรรการใช้น้ำกันแล้วก็ต้องจัดน้ำเพื่อการบริโภคให้พอเพียงก่อน ถัดไปจึงเป็นการจัดน้ำเพื่อการเกษตร จากนั้นก็เป็นการจัดน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม

ย่อมหมายถึงการจัดสรรน้ำให้แก่ผู้ขาดแคลนน้ำในยามน้ำขาดแคลน และย่อมหมายถึงการแก้ปัญหาที่ต้องจัดลำดับก่อนหลังเพื่อบรรเทาวิกฤตของกลุ่มคนแต่ละกลุ่มด้วย

ประการที่สอง ในปัญหาเฉพาะหน้าทรงพระราชทานกระแสพระราชดำรัสให้เร่งทำฝนเทียมอย่างต่อเนื่อง เพราะในเมื่อเราไม่มีต้นน้ำจากน้ำแข็งหรือหิมะ พึ่งแต่ฝนฟ้า ครั้นขาดฝนเข้าแล้วก็ต้องพึ่งพระบารมีทำฝนหลวง ขอฝนหลวงมาบำบัดความร้อนรุ่มของบ้านเมือง

เรื่องนี้จึงควรที่รัฐบาลจะได้น้อมนำมาปฏิบัติให้เป็นมรรคเป็นผลโดยด่วนที่สุด แต่ก็ต้องระวังเรื่องการจัดทำฝนเทียมที่อาจมีการทุจริตของคนบางกลุ่ม เปลี่ยนสารที่ใช้ทำฝนเทียมตามที่ทรงมีพระราชดำริและทรงใช้เป็นแบบอย่างไว้ไปเป็นสารอย่างอื่นที่ทำแล้วก็เป็นฝุ่นร่วงลงถูกชาวบ้านตัวเหนียวตัวขาวไปหมดโดยที่ฝนก็ไม่ตก

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพิ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณไปหยก ๆ จึงควรที่จะเร่งสนองพระราชดำริ เร่งจัดทำฝนหลวง และแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เป็นเหตุให้การทำฝนหลวงไม่ได้ผลอย่างเต็มที่โดยพลัน

ทำสองประการนี้แล้วก็พึงทำเรื่องโครงการแหล่งน้ำและการจัดเก็บน้ำก็เห็นจะแก้ไขปัญหาระยะยาวได้

ดอกตะแบกบานแล้ว บานแล้วก็ใช่ว่าจะจิรังยั่งยืน ย่อมต้องมีอันร่วงโรยเป็นธรรมดา นี่เป็นสัจธรรมอันไม่อาจฝ่าฝืนได้
กำลังโหลดความคิดเห็น