ปัตตานี - เผย 2 ปรากฏการณ์ทุนส่วนกลางและทุนท้องถิ่น ร่วมบูมท่องเที่ยวชายแดนใต้ เครือ "อิมพีเรียล" ควัก 70 ล้าน ซื้อโรงแรมอันดับหนึ่งกลางเมืองนราฯมาฟื้นฟูใหม่ ขณะที่กลุ่ม "เซาท์เทิร์น วิว" ทุ่ม 97 ล้าน สร้างโรงแรมหรูแห่งใหม่กลางเมืองปัตตานี ชี้จะช่วยพลิกฟื้นความมั่นใจด้านการลงทุน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พลิกภาพลักษณ์ 3 จว.ให้ก้าวพ้นวิกฤตไฟใต้ได้ในไม่ช้า
จากกรณีที่กลุ่มโรงแรมอิมพีเรียลจากกรุงเทพฯควักกระเป๋ากว่า 70 ล้านบาทเข้าซื้อธุรกิจโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส นราธิวาส และกำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส เพื่อเปิดบริการใหม่ให้เป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของ จ.นราธิวาส ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้เซ็นสัญญารับมอบโรงแรมระหว่างผู้บริหารบริษัทกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล จำกัดกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ไปแล้วเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการลงนามครั้งนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายศิริชัย ปิติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า การที่นักธุรกิจระดับชาติเข้ามาลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้สถานการณ์ความไม่สงบยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า แท้จริงแล้วนักลงทุนยังมีความมั่นใจ และมองเห็นว่า การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ไม่ให้หยุดนิ่ง แม้จะมีผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบ้าง แต่ก็ยังคงมีศักยภาพด้านการลงทุนสูง
นายศิริชัยกล่าวว่า ใน จ.ปัตตานีเองก็กำลังจะมีโรงแรมแห่งใหม่เปิดให้บริการในเร็วๆ นี้เช่นกัน โดยเป็นการลงทุนของบริษัทเซาท์เทิร์น วิว จำกัด ซึ่งถ้าภาคธุรกิจจะออกมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ ซึ่งตนเชื่อว่าจะทำให้ภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นแน่นอน และก็จะเป็นการช่วยให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปได้เรื่อยๆ ในที่สุดก็จะก้าวพ้นภาวะวิกฤตไฟใต้ไปได้แน่นอน
"นอกจากนี้ยังมีความมั่นใจจากภาครัฐด้วย กล่าวคือ จากการหารือกับนายกรัฐมนตรีและคณะตอนที่ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ท่านก็ได้ให้กำลังใจและรับปากจะช่วยเหลือทุกอย่าง แต่สิ่งสำคัญก็คือ ภาคธุรกิจและคนในพื้นที่ก็ต้องช่วยกันเองด้วย ต้องร่วมมือกันทุกอย่าง ไม่ใช่เฉพาะภาครัฐฝ่ายเดียว หรือเฉพาะภาคธุรกิจฝ่ายเดียว แต่จะต้องร่วมกันเหมือนลักษณะจอยท์เวนเจอร์ ซึ่งในอนาคตข้างหน้าก็จะเป็นการทำงานในลักษณะนี้บ่อยๆ" ประธานหอการค้าจังหวัดปัตตานีกล่าว
สำหรับโรงแรมแห่งใหม่ในเมืองปัตตานีของบริษัทเซาท์เทิร์น วิว จำกัด ถือเป็นการลงทุนของกลุ่มทุนในท้องถิ่น ซึ่งได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แล้ว โดยใช้วงเงินลงทุนประมาณ 97 ล้านบาท มีแผนจะจ้างแรงงานไทย 167 คน ขณะนี้ก่อสร้างตัวอาคารใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าจะเปิดบริการได้ในอีกไม่นานนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี
ด้านนายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานี กล่าวเสริมว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นักลงทุนด้านโรงแรมขนาดใหญ่จากต่างถิ่นมองเห็นศักยภาพการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่ายังมีอยู่สูง โดยเฉพาะใน จ.นราธิวาส ซึ่งเดิมมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียจำนวนมากเข้าไปท่องเที่ยวในแต่ละปี แต่เมื่อเกิดปัญหาความไม่สงบก็ได้หดหายลงไปมาก
"รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในกระบวนการยุติธรรมจะต้องมีการแยกคดีความด้านความมั่นคงออกจากคดีความขัดแย้งส่วนตัว เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าใจผิดว่าทุกอย่างเป็นปัญหาความไม่สงบ นำไปสู่ความรู้สึกว่าทุกพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่อันตราย ซึ่งภาพลักษณ์ที่ถูกต้องเป็นหัวใจสำคัญต่อธุรกิจท่องเที่ยว รัฐบาลจะต้องเร่งกู้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวให้ได้โดยเร็ว"
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานี กล่าวอีกว่า สำหรับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะ พร้อมรับปากว่าจะช่วยเหลือทุกปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น แม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมตามข้อเรียกร้องของภาคธุรกิจ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่อย่างน้อยนายกรัฐมนตรีได้มารับข้อเสนอของภาคเอกชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยตัวเอง ซึ่งนักธุรกิจในพื้นที่ล้วนดีใจ และชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรี
"แม้ว่าข้อเสนอที่นายกรัฐมนตรีรับไปนั้น ทั้งหมดจะเป็นข้อมูลเดิมที่ภาคเอกชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เคยนำเสนอผ่านหลายหน่วยงานภาครัฐไปแล้วก็ตาม แต่ที่ผ่านมาอาจจะไม่เคยถูกส่งถึงมือนายกรัฐมนตรีเลยก็เป็นได้" นายอนุศาสน์กล่าวในที่สุ