"สมคิด"พอใจผลโรดโชว์จีน เผยจีนพร้อมนำนักธุรกิจเดินทางไปร่วมประชุมเพื่อหารือถึงการลงทุนวันที่ 22 ก.ย. ให้นายกฯทักษิณเลี้ยงตอนรับที่เชียงใหม่ ด้านการลงทุนของรฟท. ไทยพร้อมซื้อหัวรถจักรโดยวิธีบาร์เตอร์ เทรดกับลำไย เผยซีเอ็นอีซี ยักษ์ใหญ่ระบบรางสนใจโครงการรางคู่แหลมฉบังด้วยการทำบาร์เตอร์เทรดกับยางพารา มันสำปะหลังและปาล์ม ส่วนแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว ทางการจีนรับปากสนับสนุนให้คนจีนมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น
วานนี้ (26 ส.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเดินทางไปปักกิ่งและนำขบวนตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อมานำเสนอข้อมูลหรือโรดโชว์ในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะการเข้าพบมาดามอู๋อี๋ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจประเทศจีน เมื่อค่ำวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา และหารือว่าต้องการเชิญชวนนักธุรกิจรุ่นใหม่( Young President Organisation - YPO) จากประเทศจีนไปพบปะนักธุรกิจไทย ซึ่งทางรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของจีนได้แสดงความพร้อมจะนำนักธุรกิจยักษ์ใหญ่จากจีนเดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมประชุมหารือทางธุรกิจตลอดจนการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
ทั้งนี้คณะรัฐบาลและเอกชนที่ได้เข้าพบมาดามอู๋อี๋ ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายทนง พิทยะ รมว.คลัง นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของอาณาจักร ซีพี นายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)นายวิกรม กรมดิษฐ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมอมตะ
การประชุมร่วมกันระหว่างนักธุรกิจจากจีนกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 22 ก.ย.48 โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นเลี้ยงต้อนรับที่จ.เชียงใหม่
"การเข้าพบมาดามอู๋อี๋ได้รับการต้อนรับที่ดีในฐานะที่คนไทยมีความสัมพันธ์กับประเทศจีนมาช้านาน เมื่อมาดามอู๋อี๋ถามว่าเรามาเพื่ออะไร พอท่านทราบแนวคิดว่าเรามาชวนนักธุรกิจจีนให้มาเจอกับนักธุรกิจที่เมืองไทย ก็บอกว่าให้นายสมคิด ลิสต์รายชื่อบริษัทในประเทศจีนที่ต้องการเชิญให้ไปพบกับนักธุรกิจไทยเลยทันที"
ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ไม่เคยทำสำเร็จ ครั้งนี้ถือว่าการเดินทางมาโรดโชว์เป็นประเทศแรกๆ และประสบความสำเร็จ โดยจะจัดส่งรายชี่อบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ปิโตรเคมี พลังงาน ก่อสร้าง ฯลฯ ซีติก กรุ๊ป และคอฟโก้ ให้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งในส่วนของไทยจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำ เช่น ปตท. เข้าร่วมหารือกับนักธุรกิจจีน
ทั้งนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการร่วมเศรษฐกิจไทยและจีนครั้งที่ 2 ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยคณะกรรมการฝ่ายจีนมีมาดามอู๋อี๋ เป็นประธาน ส่วนฝ่ายไทยมีนายสมคิด เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ไทยได้จัดส่งทีมงานมาดำเนินการแล้ว โดยจะต้องทำให้เกิด Action Plans (แผนปฏิบัติการ) เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ของการค้าหลายๆ ด้าน
นายสมคิด กล่าวว่า การเดินทางไปปักกิ่งครั้งนี้ ยังได้มีการโอกาสหารือกับบริษัทรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ของจีน บริษัท ซีเอ็นอาร์ ผู้ผลิตหัวรถจักรรถไฟใหญ่สุดของจีน ได้เสนอขอเสนอซื้อแบบแลกเปลี่ยน (Barter Trade) โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท) เสนอหัวรถจักรรถไฟ ขณะที่ซีเอ็นอาร์จะเสนอลำไย แต่อย่างไรก็ตาม ทางซีเอ็นอาร์ ก็เสนอด้วยว่าให้มีสินค้าเกษตรอื่นบางส่วนด้วยได้หรือไม่ เช่น ข้าว ฯลฯ
นอกจากนี้บริษัท ซีเอ็นอีซี ซึ่งเชี่ยวชาญด้านระบบรางรถไฟของจีน แสดงความสนใจโครงการระบบรางคู่ แหลมฉบัง โดยเน้นการบาร์เตอร์ตรงไม่ผ่านบริษัทกลาง เพราะบริษัทเขามีเครือข่ายพร้อมที่จะทำได้เอง ซึ่งสินค้าที่จะทำบาร์เตอร์ได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม
ส่วนบริษัท โซก้า ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเหล็กรีดร้อนของจีนได้ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ในการจัดตั้งโรงงานเหล็กมูลค่า 8 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท
ด้านบริษัท ซิโนเคม ซี่งอดีตเคยติดต่อขอซื้อหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) แต่ไม่ได้ ได้แสดงความต้องการลงทุนในธุรกิจพลังงานในอาเซียน ให้ความสนใจเหมืองโปรแตส ที่จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นเหมืองเดียวที่ไม่มีปัญหาเรื่องเอ็นจีโอ
"ซิโนเคม เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ของจีน ซึ่งใกล้เคียงกับบริษัท ปตท. ถ้า ปตท.มีพาร์ทเนอร์ แบบนี้ดี เพราะเขากำลังขยายใหญ่ บริษัทขนาดใหญ่ของจีนขณะนี้อยู่ในช่วงต้องการออกนอกประเทศ เขาต้องการพาร์ทเนอร์ที่ดี บริษัทขนาดใหญ่ เขากำลังมองไทยเป็นที่แรก"
นอกจากนี้ นายสมคิด ยังได้พบกับนายเส้าเหว่ย รมว.การท่องเทียวของจีน ซึ่งมีการหารือจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ
ทั้งนี้ จากการลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับจีนมีการตกลงกันว่าจะผลักดันให้มีนักท่องเที่ยวจากจีน 3 ถึง 4 ล้านคน แต่พอมีสึนามิทำให้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนลดลงมากสุด เนื่องจากยังมีอารมณ์หวาดกลัว ส่วนในปีหน้าอารมณ์กลัวจะเริ่มหายไป
ไทยจึงขอให้จีนช่วยโปรโมทนักท่องเที่ยวจีนกลับมาไทยด้วย โดยจะจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันเสนอต่อคณะกรรมการร่วมเศรษฐกิจไทยจีนวันที่ 22 ก.ย.ที่ จ.เชียงใหม่ โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีน 1.5 ล้านคน
"ผมให้โจทย์กับการท่องเที่ยวของไทยว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอยู่แล้ว"
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ทางการจีนต้องการให้ไทยช่วยประชาสัมพันธ์เส้นทางล่องแม่น้ำโขง เส้นทางระหว่างเชียงรุ้ง ถึง เชียงแสน เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ร่วมกับจีน ซึ่งจะเป็นเส้นทางเชื่อมกันระหว่างประเทศในอาเซียน ผ่านจากจีนมายังไทยได้เหมือนสามเหลี่ยมทองคำ ที่ฝรั่งชื่นชอบมาก เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจีน
ทั้งนี้ ไทยยินดีให้ความร่วมมือ และยังขอให้มีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอาเซียนเลย ไม่จำเป็นต้องประเทศไทยอย่างเดียว เพราะเส้นทางดังกล่าวไทยเปรียบเสมือนเป็นประตูระหว่างประเทศอาเซียน (Gateway) เพื่อให้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างอาเซียน
วานนี้ (26 ส.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเดินทางไปปักกิ่งและนำขบวนตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อมานำเสนอข้อมูลหรือโรดโชว์ในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะการเข้าพบมาดามอู๋อี๋ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจประเทศจีน เมื่อค่ำวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา และหารือว่าต้องการเชิญชวนนักธุรกิจรุ่นใหม่( Young President Organisation - YPO) จากประเทศจีนไปพบปะนักธุรกิจไทย ซึ่งทางรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของจีนได้แสดงความพร้อมจะนำนักธุรกิจยักษ์ใหญ่จากจีนเดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมประชุมหารือทางธุรกิจตลอดจนการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
ทั้งนี้คณะรัฐบาลและเอกชนที่ได้เข้าพบมาดามอู๋อี๋ ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายทนง พิทยะ รมว.คลัง นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของอาณาจักร ซีพี นายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)นายวิกรม กรมดิษฐ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมอมตะ
การประชุมร่วมกันระหว่างนักธุรกิจจากจีนกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 22 ก.ย.48 โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นเลี้ยงต้อนรับที่จ.เชียงใหม่
"การเข้าพบมาดามอู๋อี๋ได้รับการต้อนรับที่ดีในฐานะที่คนไทยมีความสัมพันธ์กับประเทศจีนมาช้านาน เมื่อมาดามอู๋อี๋ถามว่าเรามาเพื่ออะไร พอท่านทราบแนวคิดว่าเรามาชวนนักธุรกิจจีนให้มาเจอกับนักธุรกิจที่เมืองไทย ก็บอกว่าให้นายสมคิด ลิสต์รายชื่อบริษัทในประเทศจีนที่ต้องการเชิญให้ไปพบกับนักธุรกิจไทยเลยทันที"
ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ไม่เคยทำสำเร็จ ครั้งนี้ถือว่าการเดินทางมาโรดโชว์เป็นประเทศแรกๆ และประสบความสำเร็จ โดยจะจัดส่งรายชี่อบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ปิโตรเคมี พลังงาน ก่อสร้าง ฯลฯ ซีติก กรุ๊ป และคอฟโก้ ให้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งในส่วนของไทยจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำ เช่น ปตท. เข้าร่วมหารือกับนักธุรกิจจีน
ทั้งนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการร่วมเศรษฐกิจไทยและจีนครั้งที่ 2 ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยคณะกรรมการฝ่ายจีนมีมาดามอู๋อี๋ เป็นประธาน ส่วนฝ่ายไทยมีนายสมคิด เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ไทยได้จัดส่งทีมงานมาดำเนินการแล้ว โดยจะต้องทำให้เกิด Action Plans (แผนปฏิบัติการ) เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ของการค้าหลายๆ ด้าน
นายสมคิด กล่าวว่า การเดินทางไปปักกิ่งครั้งนี้ ยังได้มีการโอกาสหารือกับบริษัทรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ของจีน บริษัท ซีเอ็นอาร์ ผู้ผลิตหัวรถจักรรถไฟใหญ่สุดของจีน ได้เสนอขอเสนอซื้อแบบแลกเปลี่ยน (Barter Trade) โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท) เสนอหัวรถจักรรถไฟ ขณะที่ซีเอ็นอาร์จะเสนอลำไย แต่อย่างไรก็ตาม ทางซีเอ็นอาร์ ก็เสนอด้วยว่าให้มีสินค้าเกษตรอื่นบางส่วนด้วยได้หรือไม่ เช่น ข้าว ฯลฯ
นอกจากนี้บริษัท ซีเอ็นอีซี ซึ่งเชี่ยวชาญด้านระบบรางรถไฟของจีน แสดงความสนใจโครงการระบบรางคู่ แหลมฉบัง โดยเน้นการบาร์เตอร์ตรงไม่ผ่านบริษัทกลาง เพราะบริษัทเขามีเครือข่ายพร้อมที่จะทำได้เอง ซึ่งสินค้าที่จะทำบาร์เตอร์ได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม
ส่วนบริษัท โซก้า ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเหล็กรีดร้อนของจีนได้ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ในการจัดตั้งโรงงานเหล็กมูลค่า 8 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท
ด้านบริษัท ซิโนเคม ซี่งอดีตเคยติดต่อขอซื้อหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) แต่ไม่ได้ ได้แสดงความต้องการลงทุนในธุรกิจพลังงานในอาเซียน ให้ความสนใจเหมืองโปรแตส ที่จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นเหมืองเดียวที่ไม่มีปัญหาเรื่องเอ็นจีโอ
"ซิโนเคม เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ของจีน ซึ่งใกล้เคียงกับบริษัท ปตท. ถ้า ปตท.มีพาร์ทเนอร์ แบบนี้ดี เพราะเขากำลังขยายใหญ่ บริษัทขนาดใหญ่ของจีนขณะนี้อยู่ในช่วงต้องการออกนอกประเทศ เขาต้องการพาร์ทเนอร์ที่ดี บริษัทขนาดใหญ่ เขากำลังมองไทยเป็นที่แรก"
นอกจากนี้ นายสมคิด ยังได้พบกับนายเส้าเหว่ย รมว.การท่องเทียวของจีน ซึ่งมีการหารือจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ
ทั้งนี้ จากการลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับจีนมีการตกลงกันว่าจะผลักดันให้มีนักท่องเที่ยวจากจีน 3 ถึง 4 ล้านคน แต่พอมีสึนามิทำให้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนลดลงมากสุด เนื่องจากยังมีอารมณ์หวาดกลัว ส่วนในปีหน้าอารมณ์กลัวจะเริ่มหายไป
ไทยจึงขอให้จีนช่วยโปรโมทนักท่องเที่ยวจีนกลับมาไทยด้วย โดยจะจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันเสนอต่อคณะกรรมการร่วมเศรษฐกิจไทยจีนวันที่ 22 ก.ย.ที่ จ.เชียงใหม่ โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีน 1.5 ล้านคน
"ผมให้โจทย์กับการท่องเที่ยวของไทยว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอยู่แล้ว"
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ทางการจีนต้องการให้ไทยช่วยประชาสัมพันธ์เส้นทางล่องแม่น้ำโขง เส้นทางระหว่างเชียงรุ้ง ถึง เชียงแสน เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ร่วมกับจีน ซึ่งจะเป็นเส้นทางเชื่อมกันระหว่างประเทศในอาเซียน ผ่านจากจีนมายังไทยได้เหมือนสามเหลี่ยมทองคำ ที่ฝรั่งชื่นชอบมาก เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจีน
ทั้งนี้ ไทยยินดีให้ความร่วมมือ และยังขอให้มีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอาเซียนเลย ไม่จำเป็นต้องประเทศไทยอย่างเดียว เพราะเส้นทางดังกล่าวไทยเปรียบเสมือนเป็นประตูระหว่างประเทศอาเซียน (Gateway) เพื่อให้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างอาเซียน