เอเอฟพี - การแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางของโรคไข้หวัดนกในมนุษย์ อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลก ถึงขั้นเทียบเท่ากับยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำใหญ่ทั่วโลกเมื่อทศวรรษ 1930 ทั้งนี้ เป็นคำพยากรณ์ของเหล่านักวิเคราะห์การเงินในแคนาดา
รายงานของ บีเอ็มโอ เนสบิตต์ เบิร์นส์ แห่งแคนาดา ซึ่งออกมาเมื่อวันพุธ(17) และน่าจะเป็นรายงานวิจัยชิ้นแรกที่มีการศึกษาผลกระทบด้านการเงินหากจะเกิดโรคระบาดร้ายแรงกว้างขวางแบบนี้ ได้กล่าวเตือนว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกอาจส่งผลกระทบถึงขั้นทำลายอุตสาหกรรมการบิน การโรงแรมและร้านอาหาร บริษัทห้างร้านน้อยใหญ่ต่างต้องหลุดจำนองและล้มละลาย บริษัทประกันพากันล้มครืน ต่อเนื่องไปจนถึงห่วงโซ่อาหารหยุดชะงัก เนื่องจากผู้คนหันไปบริโภคผักแทนเนื้อสัตว์ ทำให้ต้องสูญเงินเป็นจำนวนหลายแสนล้านดอลลาร์
เชอร์รี คูเปอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบีเอ็มโอ กล่าวในรายงานซึ่งใช้ชื่อว่า "แอน อินเวสเตอร์ส ไกด์ ทู เอเวียน ฟลู" ว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจรุนแรงเทียบเท่ากับในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกเมื่อทศวรรษ 1930 ถึงแม้อาจจะเป็นเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน เพราะการระบาดคงจะยาวนานเพียงแค่นั้น นอกจากนั้นเธอยืนยันว่า ไม่ได้มีจุดประสงค์ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก เนื่องจากไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ไข้หวัดนกจะระบาดใหญ่ในหมู่คนในเวลาอันใกล้นี้
ที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจำนวนมากออกมาเตือนว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 อาจกลายเป็นโรคระบาดคนที่ร้ายแรงระดับโลก หากเชื้อโรคเกิดการพัฒนาความสามารถแพร่กระจายไปในหมู่คนได้อย่างรวดเร็ว
ทว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนใดสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ในมนุษย์ได้ แม้ว่าบางประเทศกำลังดำเนินการพัฒนาอยู่ก็ตาม และมีเพียง 9 ประเทศเท่านั้นที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลิตวัคซีนนี้ในเชิงพาณิชย์ได้
โดนัลด์ คอกซ์ ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้ย้ำว่า เมื่อพิจารณาถึงกระบวนการผลิตในปัจจุบัน ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการส่งมอบวัคซีนไข้หวัดนกเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้อย่างทั่วถึงกัน
ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีการอ้างถึงในรายงาน มีความเป็นไปได้ที่การแพร่ระบาดจะเริ่มต้นจากเอเชียแล้วค่อยแผ่ขยายไปทั่วโลก จำนวนผู้เสียชีวิตอาจพุ่งขึ้นสูงสุดมากกว่า 50 ล้านราย ผู้คนหลายพันล้านคนจะล้มป่วย ทำให้คนจำนวนนับพันล้านไม่กล้าออกไปทำงานนอกบ้าน
คอกซ์พยากรณ์ต่อว่า นอกจากนี้ หลายประเทศที่มีการติดเชื้ออาจมีการบังคับกักกันโรค และปิดทำการตลาดหลักทรัพย์ จำนวนผู้ขาดงานเนื่องจากการล้มป่วยและเสียชีวิตจะทะยานเพิ่มสูงลิ่ว
และเมื่อผู้คนนิยมอยู่ติดบ้านมากขึ้น การค้าขายระบบอี-คอมเมิร์ซก็จะเฟื่องฟูขึ้นตามลำดับ ตราบเท่าที่ธุรกิจบริการไปรษณีย์และพัสดุยังคงยืนหยัดอยู่ได้ ทว่า อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไต้หวันและจีน อาจจะได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของซัปพลายเชน
คอกซ์ระบุว่า ตลาดการเงินจะมีความเปราะบางพอๆ กับมนุษย์ที่ไม่ได้มีวัคซีนป้องกันโรค
บรรดาหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด ด้วยแรงหนุนจากความเข้มแข็งของเศรษฐกิจเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจีน อาจจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากดีมานด์จากอินเดียและจีนลดลงอย่างหนัก
ส่วนตลาดตราสารหนี้ ก็อาจเสี่ยงต่อการที่บรรดาธนาคารในเอเชียโดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น ซึ่งถือครองตราสารเหล่านี้อยู่เป็นจำนวนมหาศาล พากันเทขายสินทรัพย์เหล่านี้ในราคาถูก
รายงานทิ้งท้ายว่า แม้เป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่การที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลักๆ เกือบทุกประเภทพากันซบเซาลง อาจเป็นแรงผลักดันให้การใช้จ่ายชะลอตัวเป็นวงกว้าง จนนำไปสู่การเกิดภาวะเงินฝืดและการว่างงานครั้งใหญ่ เหมือนในครั้งเศรษฐกิจตกต่ำทศวรรษ 1930
รายงานของ บีเอ็มโอ เนสบิตต์ เบิร์นส์ แห่งแคนาดา ซึ่งออกมาเมื่อวันพุธ(17) และน่าจะเป็นรายงานวิจัยชิ้นแรกที่มีการศึกษาผลกระทบด้านการเงินหากจะเกิดโรคระบาดร้ายแรงกว้างขวางแบบนี้ ได้กล่าวเตือนว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกอาจส่งผลกระทบถึงขั้นทำลายอุตสาหกรรมการบิน การโรงแรมและร้านอาหาร บริษัทห้างร้านน้อยใหญ่ต่างต้องหลุดจำนองและล้มละลาย บริษัทประกันพากันล้มครืน ต่อเนื่องไปจนถึงห่วงโซ่อาหารหยุดชะงัก เนื่องจากผู้คนหันไปบริโภคผักแทนเนื้อสัตว์ ทำให้ต้องสูญเงินเป็นจำนวนหลายแสนล้านดอลลาร์
เชอร์รี คูเปอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบีเอ็มโอ กล่าวในรายงานซึ่งใช้ชื่อว่า "แอน อินเวสเตอร์ส ไกด์ ทู เอเวียน ฟลู" ว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจรุนแรงเทียบเท่ากับในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกเมื่อทศวรรษ 1930 ถึงแม้อาจจะเป็นเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน เพราะการระบาดคงจะยาวนานเพียงแค่นั้น นอกจากนั้นเธอยืนยันว่า ไม่ได้มีจุดประสงค์ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก เนื่องจากไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ไข้หวัดนกจะระบาดใหญ่ในหมู่คนในเวลาอันใกล้นี้
ที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจำนวนมากออกมาเตือนว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 อาจกลายเป็นโรคระบาดคนที่ร้ายแรงระดับโลก หากเชื้อโรคเกิดการพัฒนาความสามารถแพร่กระจายไปในหมู่คนได้อย่างรวดเร็ว
ทว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนใดสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ในมนุษย์ได้ แม้ว่าบางประเทศกำลังดำเนินการพัฒนาอยู่ก็ตาม และมีเพียง 9 ประเทศเท่านั้นที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลิตวัคซีนนี้ในเชิงพาณิชย์ได้
โดนัลด์ คอกซ์ ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้ย้ำว่า เมื่อพิจารณาถึงกระบวนการผลิตในปัจจุบัน ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการส่งมอบวัคซีนไข้หวัดนกเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้อย่างทั่วถึงกัน
ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีการอ้างถึงในรายงาน มีความเป็นไปได้ที่การแพร่ระบาดจะเริ่มต้นจากเอเชียแล้วค่อยแผ่ขยายไปทั่วโลก จำนวนผู้เสียชีวิตอาจพุ่งขึ้นสูงสุดมากกว่า 50 ล้านราย ผู้คนหลายพันล้านคนจะล้มป่วย ทำให้คนจำนวนนับพันล้านไม่กล้าออกไปทำงานนอกบ้าน
คอกซ์พยากรณ์ต่อว่า นอกจากนี้ หลายประเทศที่มีการติดเชื้ออาจมีการบังคับกักกันโรค และปิดทำการตลาดหลักทรัพย์ จำนวนผู้ขาดงานเนื่องจากการล้มป่วยและเสียชีวิตจะทะยานเพิ่มสูงลิ่ว
และเมื่อผู้คนนิยมอยู่ติดบ้านมากขึ้น การค้าขายระบบอี-คอมเมิร์ซก็จะเฟื่องฟูขึ้นตามลำดับ ตราบเท่าที่ธุรกิจบริการไปรษณีย์และพัสดุยังคงยืนหยัดอยู่ได้ ทว่า อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไต้หวันและจีน อาจจะได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของซัปพลายเชน
คอกซ์ระบุว่า ตลาดการเงินจะมีความเปราะบางพอๆ กับมนุษย์ที่ไม่ได้มีวัคซีนป้องกันโรค
บรรดาหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด ด้วยแรงหนุนจากความเข้มแข็งของเศรษฐกิจเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจีน อาจจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากดีมานด์จากอินเดียและจีนลดลงอย่างหนัก
ส่วนตลาดตราสารหนี้ ก็อาจเสี่ยงต่อการที่บรรดาธนาคารในเอเชียโดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น ซึ่งถือครองตราสารเหล่านี้อยู่เป็นจำนวนมหาศาล พากันเทขายสินทรัพย์เหล่านี้ในราคาถูก
รายงานทิ้งท้ายว่า แม้เป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่การที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลักๆ เกือบทุกประเภทพากันซบเซาลง อาจเป็นแรงผลักดันให้การใช้จ่ายชะลอตัวเป็นวงกว้าง จนนำไปสู่การเกิดภาวะเงินฝืดและการว่างงานครั้งใหญ่ เหมือนในครั้งเศรษฐกิจตกต่ำทศวรรษ 1930