สสปน. มุ่งผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการดูแลรักษาสุขภาพแห่งภูมิภาค ร่วมสนับสนุนการจัดงาน ฮอสปิเมดิกา ไทยแลนด์ 2005 มั่นใจมีเม็ดเงินสะพัดเข้าไทยกว่า 113 ล้านบาท
นายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน. หรือ TCEB เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเรื่องการดูแลสุขภาพ และถือเป็นนโยบายระดับชาติที่ต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านการแพทย์ในภูมิภาคนี้ หรือ Medical Hub นั้น โดยมุ่งหวังสร้างรายได้เข้าประเทศจากการเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ของชาวต่างชาติในปี 2551 ไม่น้อยกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ดังนั้น เพื่อให้สอดรับกับนโยบายดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า และเพื่อให้มีความก้าวหน้าทางการแพทย์ในเรื่องการวิจัย เทคโนโลยี และยารักษาโรค ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและทันสมัยมากขึ้น สสปน. จึงได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน ฮอสปิเมดิกา ไทยแลนด์ 2005 ของ Messe D?sseldorf Asia Pte Ltd (MDA) ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเปิดโลกวิทยาการทางการแพทย์ของไทย และสร้างเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้และเจรจาธุรกิจทางการแพทย์ในระดับสากลขึ้นในประเทศไทย
"เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจ และบุคลากรทางการแพทย์ได้มาพบปะเจรจาทางธุรกิจ และแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญแขนงต่าง ๆ จากทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพ และยังช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศจากการจัดงานโดยตรงไม่น้อยกว่า 113 ล้านบาท"
ด้านนายเกอนอท ริงลิง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร Messe D?sseldorf Asia ในฐานะผู้จัดงานครั้งนี้ กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้งานมีอัตราการเติบโตทั้งในแง่จำนวนผู้แสดงสินค้า ซึ่งมีผู้ค้าเครื่องมือทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพเข้าร่วมแสดงสินค้า 220 รายจาก 30 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่มีจำนวน 177 ราย และพื้นที่จัดงานมีขนาด 4,600 ตรม. โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 5,000 คน เพิ่มขึ้น 60% จากจำนวน 3,113 ในปีค.ศ.2003
"จากการสำรวจพบว่า ประชากรโลกในปัจจุบันมีอายุขัยยืนยาวขึ้น ขณะที่อัตราการเกิดลดลง ส่งผลให้มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความต้องการที่จะได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพให้ดีเพิ่มขึ้นด้วย งานฮอสปิเมดิกา ไทยแลนด์ จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจทางด้านการแพทย์และการดูแลฟื้นฟูสุขภาพที่ดีที่สุดอีกครั้งหนึ่ง และยังสร้างโอกาสความร่วมมือ เพื่อความก้าวหน้าของการมีสุขภาพดีในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีนในอนาคตอีกด้วย "
งาน ฮอสปิเมดิกา ไทยแลนด์ 2005 จะเน้นในเรื่องอุปกรณ์ และเครื่องมือสำหรับโรงพยาบาล เภสัชกรรม การแพทย์ และการฟื้นฟูสุขภาพ โดยปีนี้มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่โดดเด่นมานำเสนอ อาทิเช่น ที่นอนพิเศษที่สลับและหมุนเวียนได้ด้วยระบบบังคับ เครื่องมืออินฟิวชั่นที่ไม่ต้องพึ่งพาแหล่งไฟฟ้า จักรยานบำบัดสำหรับผู้พิการทางสมอง อุปกรณ์การวัดระดับออกซิเจนชนิดพกพาสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ เครื่องตรวจความดันไร้สายที่เล็กที่สุดและใช้งานคล่องตัวที่สุด กระบวนการพกพาอุปกรณ์ไปใช้ตามสถานที่ที่ต้องการโดยผ่านระบบควบคุมอัลตราซาวน์หรือเครื่องอีซีจีที่พกพาได้ เครื่องมือทดสอบการตั้งครรภ์และช่วงตกไข่ เครื่องช่วยอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศที่ดีขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือสำหรับงานฉุกเฉินและอุบัติเหตุ อุปกรณ์และเครื่องใช้ในงานทันตกรรม เครื่องมือในการรักษาตา อุปกรณ์ฟื้นฟูผู้ป่วย และกายภาพบำบัด อุปกรณ์ในห้องแลป และห้องตรวจ ระบบฆ่าเชื้อและกำจัดของเสีย เป็นต้น
นายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน. หรือ TCEB เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเรื่องการดูแลสุขภาพ และถือเป็นนโยบายระดับชาติที่ต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านการแพทย์ในภูมิภาคนี้ หรือ Medical Hub นั้น โดยมุ่งหวังสร้างรายได้เข้าประเทศจากการเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ของชาวต่างชาติในปี 2551 ไม่น้อยกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ดังนั้น เพื่อให้สอดรับกับนโยบายดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า และเพื่อให้มีความก้าวหน้าทางการแพทย์ในเรื่องการวิจัย เทคโนโลยี และยารักษาโรค ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและทันสมัยมากขึ้น สสปน. จึงได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน ฮอสปิเมดิกา ไทยแลนด์ 2005 ของ Messe D?sseldorf Asia Pte Ltd (MDA) ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเปิดโลกวิทยาการทางการแพทย์ของไทย และสร้างเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้และเจรจาธุรกิจทางการแพทย์ในระดับสากลขึ้นในประเทศไทย
"เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจ และบุคลากรทางการแพทย์ได้มาพบปะเจรจาทางธุรกิจ และแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญแขนงต่าง ๆ จากทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพ และยังช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศจากการจัดงานโดยตรงไม่น้อยกว่า 113 ล้านบาท"
ด้านนายเกอนอท ริงลิง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร Messe D?sseldorf Asia ในฐานะผู้จัดงานครั้งนี้ กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้งานมีอัตราการเติบโตทั้งในแง่จำนวนผู้แสดงสินค้า ซึ่งมีผู้ค้าเครื่องมือทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพเข้าร่วมแสดงสินค้า 220 รายจาก 30 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่มีจำนวน 177 ราย และพื้นที่จัดงานมีขนาด 4,600 ตรม. โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 5,000 คน เพิ่มขึ้น 60% จากจำนวน 3,113 ในปีค.ศ.2003
"จากการสำรวจพบว่า ประชากรโลกในปัจจุบันมีอายุขัยยืนยาวขึ้น ขณะที่อัตราการเกิดลดลง ส่งผลให้มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความต้องการที่จะได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพให้ดีเพิ่มขึ้นด้วย งานฮอสปิเมดิกา ไทยแลนด์ จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจทางด้านการแพทย์และการดูแลฟื้นฟูสุขภาพที่ดีที่สุดอีกครั้งหนึ่ง และยังสร้างโอกาสความร่วมมือ เพื่อความก้าวหน้าของการมีสุขภาพดีในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีนในอนาคตอีกด้วย "
งาน ฮอสปิเมดิกา ไทยแลนด์ 2005 จะเน้นในเรื่องอุปกรณ์ และเครื่องมือสำหรับโรงพยาบาล เภสัชกรรม การแพทย์ และการฟื้นฟูสุขภาพ โดยปีนี้มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่โดดเด่นมานำเสนอ อาทิเช่น ที่นอนพิเศษที่สลับและหมุนเวียนได้ด้วยระบบบังคับ เครื่องมืออินฟิวชั่นที่ไม่ต้องพึ่งพาแหล่งไฟฟ้า จักรยานบำบัดสำหรับผู้พิการทางสมอง อุปกรณ์การวัดระดับออกซิเจนชนิดพกพาสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ เครื่องตรวจความดันไร้สายที่เล็กที่สุดและใช้งานคล่องตัวที่สุด กระบวนการพกพาอุปกรณ์ไปใช้ตามสถานที่ที่ต้องการโดยผ่านระบบควบคุมอัลตราซาวน์หรือเครื่องอีซีจีที่พกพาได้ เครื่องมือทดสอบการตั้งครรภ์และช่วงตกไข่ เครื่องช่วยอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศที่ดีขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือสำหรับงานฉุกเฉินและอุบัติเหตุ อุปกรณ์และเครื่องใช้ในงานทันตกรรม เครื่องมือในการรักษาตา อุปกรณ์ฟื้นฟูผู้ป่วย และกายภาพบำบัด อุปกรณ์ในห้องแลป และห้องตรวจ ระบบฆ่าเชื้อและกำจัดของเสีย เป็นต้น