พักนี้มีข่าวคราวเรื่องผู้คนป่วยและถึงแก่ความตายเนื่องจากเส้นเลือดแตกในสมองค่อนข้างจะหนาหูหนาตาเป็นพิเศษ บ้างก็ตำหนิติโทษว่าเป็นเพราะความเครียดที่เกิดจากราชภัยคือภัยคุกคามหรือแรงกดดันที่มาจากภาครัฐ บ้างก็ตำหนิติโทษว่าเกิดจากความเครียดที่รับผลมาจากวิกฤตทางเศรษฐกิจและน้ำมัน ที่ทำให้ราคาข้าวของต่าง ๆ พุ่งสูงจนรายได้ไม่พอกับรายจ่าย
พรรคพวกคนหนึ่งเพิ่งกลับจากเมืองจีนด้วยกัน ตอนที่อยู่ในประเทศจีนได้ลองให้แพทย์แผนจีนตรวจสุขภาพก็ได้รับคำเตือนว่าให้ระวังอันตรายจากเส้นเลือดในสมองและอาจต้องเข้าโรงพยาบาล
พรรคพวกคนนี้อาจจะคิดว่าไม่มีเวลาพอที่จะเยียวยารักษา ทั้งไม่ต้องการจะซื้อหายาตามที่หมอแนะนำ ครั้นกลับมาถึงเมืองไทยไม่ถึงสามวันก็ปรากฏว่าเส้นเลือดแตกในสมอง เดชะบุญที่เป็นเส้นเลือดฝอย ดังนั้นเมื่ออยู่ห้องไอซียูไม่กี่วันก็ออกมาได้ แต่เห็นจะไม่เป็นปกติเหมือนดังเดิม และคงต้องระมัดระวังสุขภาพต่อไปอีกนาน
มารดาของแม่ครัวของพรรคพวกอีกคนหนึ่งอายุเพียง 60 ต้น ๆ อยู่ดี ๆ ก็มีอันล้มหัวฟาดพื้น ปรากฏว่าเส้นเลือดแตกใกล้แกนสมอง เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้สองวันก็ถึงแก่ความตาย
คนขับรถของพรรคพวกอีกคนหนึ่ง อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกชาที่แขนและตาลาย พรรคพวกพาไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พบว่าเส้นเลือดฝอยแตกในสมอง แต่หลังจากฉีดสีตรวจสอบแล้วอาการก็เข้าขั้นโคม่า วันนี้ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีประการใด
เพียงไม่ถึงสัปดาห์พรรคพวกและญาติของพรรคพวกที่สนิทชิดชอบกันมีอันเป็นไปถึงสามคน ในขณะที่มิตรสหายเพื่อนพ้องที่รู้จักมักคุ้นกันต่างก็ติดพันงานป่วย งานศพกันเป็นทิวแถว ซักไซ้ไล่ความก็ปรากฏว่ามามีเหตุเนื่องจากเส้นเลือดแตกในสมองทั้งสิ้น
ข่าวคราวตามสื่อมวลชนเกี่ยวกับคนเจ็บคนตายในช่วงนี้ก็มีอันเป็นเนื่องจากเส้นเลือดแตกในสมองเสียเป็นส่วนใหญ่อีก
ครั้นได้อ่านข่าวสารเกี่ยวกับสถิติการเจ็บป่วยและตายด้วยโรคก็ปรากฏว่าในเวลาบัดนี้สถิติการเจ็บป่วยและตายด้วยอาการเส้นเลือดแตกในสมองนั้นกำลังพุ่งแรกแซงโค้งขึ้นมาอีกโรคหนึ่งแล้ว และเป็นโรคหรือภัยที่ทำให้ผู้คนเจ็บตายสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
อย่าได้ตำหนิติโทษรัฐบาลหรือเศรษฐกิจหรือการภายนอกเลย เพราะถึงติโทษไปจะถูกจะผิดก็ยังไม่รู้ และแม้จะถูกจะผิดก็ตามก็ไม่มีผลหรือไม่มีส่วนต่อการป้องกันบำบัดเยียวยาหรือแก้ไขปัญหาของการที่เส้นเลือดในสมองแตกได้
มาลองพิจารณาหาหนทางป้องกันแก้ไขโรคภัยชนิดนี้กันดีกว่าว่าจะรักษาตัวและพรรคพวกคนใกล้ชิดให้รอดปลอดภัยได้อย่างไร นั่นคือจะป้องกันแก้ไขอย่างไรไม่ให้เส้นเลือดในสมองแตก หากเกิดเหตุขึ้นแล้วจะทำกันอย่างไรดีจึงจะเสี่ยงตายน้อยที่สุด
ก่อนอื่นขอตั้งข้อสังเกตว่าวิธีการตรวจรักษาเส้นเลือดแตกในสมองโดยวิธีการฉีดสีเพื่อฉายเอกซเรย์นั้นทำให้คนป่วยมีความเสี่ยงที่จะพิการหรือตายสูง เพราะบ้างก็ตายเนื่องจากแพ้สีที่ฉีดเข้าไป บ้างก็โคม่า ถึงหายก็พิการเพราะเหตุจากการฉีดสีอีก ดังนั้นใครที่คิดจะยินยอมให้มีการฉีดสีเข้าไปในเส้นเลือดในสมองเพื่อตรวจสอบว่าเส้นเลือดแตกที่ตรงไหนก็พึงยับยั้งชั่งใจให้ดี
คือพิจารณาเสียก่อนว่ายังมีทางรอดตายประการอื่นหรือไม่ หากไม่เห็นทางรอดแล้วนั่นแหละจึงค่อยเสี่ยงเพราะหากเสี่ยงแล้วมักจะเสี่ยงตายมากกว่าเสี่ยงเป็น
ใครมีพรรคพวกญาติพี่น้องเส้นเลือดแตกในสมองก็พึงทำความรู้ทำความเข้าใจให้ถึงที่สุดเสียก่อนว่าจะต้องประสบกับเหตุหรือจะเกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งในสามประการนี้ คือ
ประการแรก หากเป็นเส้นเลือดฝอยแตกเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะไม่ถึงตาย และไม่ถึงพิการ ไม่ต้องอาศัยการรักษาใด ๆ ก็ได้ ตั้งสติให้ดี พักผ่อนให้ดี อย่าไปกระตุ้นหรือออกกำลังกายแบบกระโชกโฮกฮาก สัก 14-15 วันก็จะฟื้น หลังจากนั้นอีก 6 เดือนก็จะเป็นปกติ
ประการที่สอง หากเป็นเส้นเลือดใหญ่หน่อยหนึ่งแตกในส่วนที่ไม่สำคัญก็อาจพิการเล็กน้อย หรือถ้าโชคดีก็อาจหายเป็นปกติได้ ทำนองเดียวกับประการแรก แต่ถ้าโชคร้ายก็พิการไปตลอดชีวิตตามมากตามน้อย
ประการที่สาม หากเป็นเส้นเลือดใหญ่แตกที่บริเวณใกล้กับแกนสมองหรือเส้นเลือดใหญ่แตกมาก โดยทั่วไปก็มักจะต้องตาย หรือถึงไม่ตายก็จะพิการแบบไม่รู้สติตลอดชีวิต ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ตายเสียย่อมดีกว่าเพราะไม่ทำให้คนเป็นข้างหลังต้องตายไปด้วย
ในสามประการนี้หากตกประการแรกไม่ต้องรักษาก็หาย หากตกประการที่สามถึงรักษาก็ตาย แต่ถ้าตกประการที่สองก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
ที่ต้องระมัดระวังสังเกตก็คือ อย่าทำให้ผู้ที่ป่วยประการแรกอาการหนักซ้ำร้ายถึงตายเพราะเหตุการรักษาผิดพลาด ส่วนผู้ป่วยประการที่สองนั้นจะต้องเสี่ยงมาก เพราะบางครั้งหากไม่ผ่าตัดก็ต้องพิการหรือตาย แต่เมื่อเสี่ยงผ่าตัดก็เสี่ยงหายหรือเสี่ยงตาย ตรงนี้แหละที่ยากลำบากต่อการตัดสินใจ ถึงกระนั้นสุดแท้แต่บุญทำกรรมแต่ง ถึงคราวต้องตัดสินใจแล้วก็ต้องตัดสินใจ แต่ขอให้พยายามใช้โรงพยาบาลหลวงและพยายามติดต่อหมอที่รู้จักมักคุ้นเป็นอันดีที่สุด
นั่นเป็นเรื่องที่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วแต่หากยังไม่เกิดเหตุก็ควรเป็นเรื่องที่ต้องป้องกันระมัดระวังตน นั่นคือจะต้องพยายามทำความเข้าใจว่าเหตุเภทภัยเรื่องนี้มีที่มาจากไหน อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
เพราะคนเรามีปกติอายุยาวถึง 120 ปี แต่อายุมาสั้นลงกว่านั้นก็เพราะคนทำตนเอง ทำให้ตายก่อนเวลาด้วยภัยบ้าง ด้วยโรคบ้าง และด้วยการกระทำของตนเองบ้าง ดังนั้นจึงต้องพยายามไม่ทำให้ตัวเองตายก่อนเวลาอันสมควร หรือถ้าจะตายก็ให้ตายด้วยวิธีที่สบายสักหน่อย แต่อย่าคิดดิ้นรนหนีความตายให้มากเกินไปเพราะนี่ก็เป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกอีกอย่างหนึ่ง
การที่พระท่านสอนให้เจริญมรณานุสติเนือง ๆ ว่าคนเราเกิดมาทุกคนย่อมต้องตาย เรามีความเกิด ความแก่ ความเจ็บเป็นธรรมดา และความตายจะมาถึงในสักวันหนึ่งเป็นธรรมดา ทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้น ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่วนั้นมีอานิสงส์ประการหนึ่งที่จะทำให้เกิดการปล่อยวางและไม่เครียด เป็นการขจัดต้นเหตุที่ทำให้เส้นเลือดแตกในสมองได้อย่างชะงัด
ในร่างกายของคนเราประกอบด้วยท่อมากหลาย และขนาดต่าง ๆ กัน มีความหนาบางต่าง ๆ กัน ในส่วนที่เกี่ยวกับสมองก็มีท่อหรือหลอดเลือดมากหลาย ทั้งหลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงและไหลออก หลอดเลือดเหล่านี้มีการเสื่อมสลาย มีการแตกเป็นธรรมดา มีการซ่อมชำรุดโดยธรรมชาติเป็นธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดามีอยู่สองประการคือ
ประการแรก ความอ่อน หยุ่น เหนียว และความหนาบางของท่อหรือหลอดเลือดนั้นผิดปกติ แล้วทำให้แตกได้ง่าย ซึ่งหากเป็นกรรมพันธุ์ก็ต้องถือว่าเป็นเวรกรรมมาแต่ปางก่อน ต้องมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น ดังเช่นบางคนเส้นเลือดฝอยแตกตามหน้าตามขาทำให้เห็นได้ชัด แม้จะไม่ถึงตายก็ตาม แต่ถ้าไปแตกในสมองก็เสี่ยงตายมากหน่อย แต่ความผิดปกตินี้อาจเกิดขึ้นได้จากอาหาร นั่นคือการกินผักน้อยเกินไป กินน้ำอัดลมมากเกินไป กินผงชูรสมากเกินไป ทำให้หลอดเลือดบางและเปราะ แรงดันของเลือดผิดปกติหน่อยหนึ่งหรือกระทบกระแทกอะไรเข้าหน่อยหนึ่งก็แตกเอาง่าย ๆ
ประการที่สอง เพราะการประพฤติปฏิบัติที่ไม่ปกติ เช่นผลุดลุกผลุดนั่ง หรือนั่งนอนอยู่ดีๆ แล้วผลุดลุกขึ้น หรือซ่ามากเกินไป ไปออกแรงหรือกระตุ้นจนผิดปกติ หรือเคร่งเครียดจนเกินไป แล้วทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
เมื่อเหตุเป็นมาอย่างนี้ การจะป้องกันแก้ไขไม่ให้เส้นเลือดในสมองแตกจึงต้องแก้ที่เหตุ นั่นคือพึงปฏิบัติในประการดังต่อไปนี้
ประการแรก ต้องเพิ่มการกินผัก ผลไม้ ซึ่งมีผลทำให้หลอดเลือดอ่อน เหนียว และมีความเป็นปกติ ไม่เปราะ ไม่แตกได้โดยง่าย แต่ต้องระวังสารพิษที่ติดมากับผัก ผลไม้นั้นด้วย เพราะหากไม่ระมัดระวังแทนที่จะตายด้วยเส้นเลือดในสมองแตกกลับต้องไปตายด้วยสารพิษ
ประการที่สอง พึงลด ละ หรือเลิกการดื่มน้ำอัดลมที่ไม่เป็นประโยชน์ใด ๆ แก่ร่างกาย มีโทษแก่ร่างกายมหันต์อย่างเป็นขั้นตอนให้ได้ น้ำอัดลมมีโทษไม่แพ้กว่าบุหรี่ และทำให้ตายเร็วกว่าบุหรี่
ประการที่สาม พึงลด ละ หรือเลิกติดยึดในความเอร็ดอร่อยของอาหารด้วยการละเว้นขาดจากการกินผงชูรสทุกชนิด เพราะผงชูรสนั้นแท้จริงก็คือสารเคมีชนิดหนึ่งที่ทำให้เส้นเลือดบางเปราะและแตกง่าย เว้นแต่คนที่อยากตายด้วยอาการเส้นเลือดแตกในสมองก็พึงกินผงชูรสให้มากเข้าไว้ ทุกวันนี้ผู้คนเส้นเลือดแตกในสมองมากก็เพราะบริโภคผงชูรสมาก อะไร ๆ ก็ต้องใส่ผงชูรส แม้ทำส้มตำหรือตำน้ำพริก แม้กระทั่งอาหารบางอย่างก็จิ้มผงชูรสกันโดยตรง อย่างนี้ต้องตายด้วยเส้นเลือดในสมองแตกอย่างไม่ต้องสงสัย
ประการที่สี่ พึงปฏิบัติตน 3-4 ประการดังนี้
(1)ตามสถิติปรากฏว่าคนตายในเวลากลางคืนมากกว่าเวลากลางวัน เหตุผลเพราะความดันในเลือดต่ำ น้ำตาลในเลือดต่ำในยามนอนหลับ ดังนั้นเมื่อตื่นขึ้นกลางดึกหรือในตอนเช้า หากผลุนผลันลุกขึ้นทันทีก็อาจตายได้โดยง่าย ที่สำคัญอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตกด้วย ดังนั้นพลันที่ตื่นหรือก่อนที่จะลุก พึงตั้งสติอย่าเพิ่งลุกทันที ให้ขยับตัว มือ และขา สัก 2-3 นาทีก่อน สูดหายใจลึก ๆ สัก 4-5 ครั้งก่อน ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติแล้วค่อย ๆ ลุก จะทำให้ตัวเองหลุดออกมาจากสถิติการตายแบบนี้ และมีผลเป็นการป้องกันเส้นเลือดในสมองไม่ให้แตกอีกด้วย
(2)ในแต่ละวันพยายามบริหารลำคอ โดยการหมุนคอโดยรอบทั้งซ้ายไปขวาและจากขวาไปซ้าย ในขณะหมุนนั้นให้พยายามกรอกลูกตาไปสุดทางที่หมุนนั้นด้วย จากนั้นบริหารศีรษะด้วยการเอียงซ้ายขวาและหน้าหลังอย่างละ 20 ครั้งก็พอ จะทำให้เส้นเลือดหลอดเลือดทั้งหลายได้รับการบริหารโดยอัตโนมัติและมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
(3)พยายามดื่มน้ำในตอนเช้าวันละ 5 แก้ว อย่างน้อยก็สัก 3 แก้วก็ยังดี จะมีผลทำให้หลอดเลือดทั้งหลายมีความสะอาด มีความคล่องตัว ไม่ติดขัด และทำให้เลือดไม่ข้นผิดปกติ
(4)อย่าเชื่อว่าการออกกำลังกายจะทำให้อายุยืนเสมอไป ต้องระมัดระวังการออกกำลังกายมากเกินไป หรือประเภทที่เกินกว่าวัย โดยเฉพาะการออกกำลังกายประเภทที่กระตุ้นเลือดและหัวใจให้ฉีดแรง ย่อมมีผลทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้โดยง่าย จึงพึงออกกำลังกายโดยประมาณ ที่สำคัญคือกำลังกาย กำลังใจ และการหายใจต่างหาก หากเป็นเอกภาพแล้วก็จะมีผลทำให้อายุยืน
ดังนั้นท่านทั้งปวงพึงทดลองปฏิบัติตนตามคำแนะนำนี้ดู แล้วพึงตั้งใจให้มีอายุยืนยาวถึง 120 ปีทั่วกันเทอญ
พรรคพวกคนหนึ่งเพิ่งกลับจากเมืองจีนด้วยกัน ตอนที่อยู่ในประเทศจีนได้ลองให้แพทย์แผนจีนตรวจสุขภาพก็ได้รับคำเตือนว่าให้ระวังอันตรายจากเส้นเลือดในสมองและอาจต้องเข้าโรงพยาบาล
พรรคพวกคนนี้อาจจะคิดว่าไม่มีเวลาพอที่จะเยียวยารักษา ทั้งไม่ต้องการจะซื้อหายาตามที่หมอแนะนำ ครั้นกลับมาถึงเมืองไทยไม่ถึงสามวันก็ปรากฏว่าเส้นเลือดแตกในสมอง เดชะบุญที่เป็นเส้นเลือดฝอย ดังนั้นเมื่ออยู่ห้องไอซียูไม่กี่วันก็ออกมาได้ แต่เห็นจะไม่เป็นปกติเหมือนดังเดิม และคงต้องระมัดระวังสุขภาพต่อไปอีกนาน
มารดาของแม่ครัวของพรรคพวกอีกคนหนึ่งอายุเพียง 60 ต้น ๆ อยู่ดี ๆ ก็มีอันล้มหัวฟาดพื้น ปรากฏว่าเส้นเลือดแตกใกล้แกนสมอง เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้สองวันก็ถึงแก่ความตาย
คนขับรถของพรรคพวกอีกคนหนึ่ง อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกชาที่แขนและตาลาย พรรคพวกพาไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พบว่าเส้นเลือดฝอยแตกในสมอง แต่หลังจากฉีดสีตรวจสอบแล้วอาการก็เข้าขั้นโคม่า วันนี้ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีประการใด
เพียงไม่ถึงสัปดาห์พรรคพวกและญาติของพรรคพวกที่สนิทชิดชอบกันมีอันเป็นไปถึงสามคน ในขณะที่มิตรสหายเพื่อนพ้องที่รู้จักมักคุ้นกันต่างก็ติดพันงานป่วย งานศพกันเป็นทิวแถว ซักไซ้ไล่ความก็ปรากฏว่ามามีเหตุเนื่องจากเส้นเลือดแตกในสมองทั้งสิ้น
ข่าวคราวตามสื่อมวลชนเกี่ยวกับคนเจ็บคนตายในช่วงนี้ก็มีอันเป็นเนื่องจากเส้นเลือดแตกในสมองเสียเป็นส่วนใหญ่อีก
ครั้นได้อ่านข่าวสารเกี่ยวกับสถิติการเจ็บป่วยและตายด้วยโรคก็ปรากฏว่าในเวลาบัดนี้สถิติการเจ็บป่วยและตายด้วยอาการเส้นเลือดแตกในสมองนั้นกำลังพุ่งแรกแซงโค้งขึ้นมาอีกโรคหนึ่งแล้ว และเป็นโรคหรือภัยที่ทำให้ผู้คนเจ็บตายสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
อย่าได้ตำหนิติโทษรัฐบาลหรือเศรษฐกิจหรือการภายนอกเลย เพราะถึงติโทษไปจะถูกจะผิดก็ยังไม่รู้ และแม้จะถูกจะผิดก็ตามก็ไม่มีผลหรือไม่มีส่วนต่อการป้องกันบำบัดเยียวยาหรือแก้ไขปัญหาของการที่เส้นเลือดในสมองแตกได้
มาลองพิจารณาหาหนทางป้องกันแก้ไขโรคภัยชนิดนี้กันดีกว่าว่าจะรักษาตัวและพรรคพวกคนใกล้ชิดให้รอดปลอดภัยได้อย่างไร นั่นคือจะป้องกันแก้ไขอย่างไรไม่ให้เส้นเลือดในสมองแตก หากเกิดเหตุขึ้นแล้วจะทำกันอย่างไรดีจึงจะเสี่ยงตายน้อยที่สุด
ก่อนอื่นขอตั้งข้อสังเกตว่าวิธีการตรวจรักษาเส้นเลือดแตกในสมองโดยวิธีการฉีดสีเพื่อฉายเอกซเรย์นั้นทำให้คนป่วยมีความเสี่ยงที่จะพิการหรือตายสูง เพราะบ้างก็ตายเนื่องจากแพ้สีที่ฉีดเข้าไป บ้างก็โคม่า ถึงหายก็พิการเพราะเหตุจากการฉีดสีอีก ดังนั้นใครที่คิดจะยินยอมให้มีการฉีดสีเข้าไปในเส้นเลือดในสมองเพื่อตรวจสอบว่าเส้นเลือดแตกที่ตรงไหนก็พึงยับยั้งชั่งใจให้ดี
คือพิจารณาเสียก่อนว่ายังมีทางรอดตายประการอื่นหรือไม่ หากไม่เห็นทางรอดแล้วนั่นแหละจึงค่อยเสี่ยงเพราะหากเสี่ยงแล้วมักจะเสี่ยงตายมากกว่าเสี่ยงเป็น
ใครมีพรรคพวกญาติพี่น้องเส้นเลือดแตกในสมองก็พึงทำความรู้ทำความเข้าใจให้ถึงที่สุดเสียก่อนว่าจะต้องประสบกับเหตุหรือจะเกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งในสามประการนี้ คือ
ประการแรก หากเป็นเส้นเลือดฝอยแตกเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะไม่ถึงตาย และไม่ถึงพิการ ไม่ต้องอาศัยการรักษาใด ๆ ก็ได้ ตั้งสติให้ดี พักผ่อนให้ดี อย่าไปกระตุ้นหรือออกกำลังกายแบบกระโชกโฮกฮาก สัก 14-15 วันก็จะฟื้น หลังจากนั้นอีก 6 เดือนก็จะเป็นปกติ
ประการที่สอง หากเป็นเส้นเลือดใหญ่หน่อยหนึ่งแตกในส่วนที่ไม่สำคัญก็อาจพิการเล็กน้อย หรือถ้าโชคดีก็อาจหายเป็นปกติได้ ทำนองเดียวกับประการแรก แต่ถ้าโชคร้ายก็พิการไปตลอดชีวิตตามมากตามน้อย
ประการที่สาม หากเป็นเส้นเลือดใหญ่แตกที่บริเวณใกล้กับแกนสมองหรือเส้นเลือดใหญ่แตกมาก โดยทั่วไปก็มักจะต้องตาย หรือถึงไม่ตายก็จะพิการแบบไม่รู้สติตลอดชีวิต ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ตายเสียย่อมดีกว่าเพราะไม่ทำให้คนเป็นข้างหลังต้องตายไปด้วย
ในสามประการนี้หากตกประการแรกไม่ต้องรักษาก็หาย หากตกประการที่สามถึงรักษาก็ตาย แต่ถ้าตกประการที่สองก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
ที่ต้องระมัดระวังสังเกตก็คือ อย่าทำให้ผู้ที่ป่วยประการแรกอาการหนักซ้ำร้ายถึงตายเพราะเหตุการรักษาผิดพลาด ส่วนผู้ป่วยประการที่สองนั้นจะต้องเสี่ยงมาก เพราะบางครั้งหากไม่ผ่าตัดก็ต้องพิการหรือตาย แต่เมื่อเสี่ยงผ่าตัดก็เสี่ยงหายหรือเสี่ยงตาย ตรงนี้แหละที่ยากลำบากต่อการตัดสินใจ ถึงกระนั้นสุดแท้แต่บุญทำกรรมแต่ง ถึงคราวต้องตัดสินใจแล้วก็ต้องตัดสินใจ แต่ขอให้พยายามใช้โรงพยาบาลหลวงและพยายามติดต่อหมอที่รู้จักมักคุ้นเป็นอันดีที่สุด
นั่นเป็นเรื่องที่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วแต่หากยังไม่เกิดเหตุก็ควรเป็นเรื่องที่ต้องป้องกันระมัดระวังตน นั่นคือจะต้องพยายามทำความเข้าใจว่าเหตุเภทภัยเรื่องนี้มีที่มาจากไหน อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
เพราะคนเรามีปกติอายุยาวถึง 120 ปี แต่อายุมาสั้นลงกว่านั้นก็เพราะคนทำตนเอง ทำให้ตายก่อนเวลาด้วยภัยบ้าง ด้วยโรคบ้าง และด้วยการกระทำของตนเองบ้าง ดังนั้นจึงต้องพยายามไม่ทำให้ตัวเองตายก่อนเวลาอันสมควร หรือถ้าจะตายก็ให้ตายด้วยวิธีที่สบายสักหน่อย แต่อย่าคิดดิ้นรนหนีความตายให้มากเกินไปเพราะนี่ก็เป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกอีกอย่างหนึ่ง
การที่พระท่านสอนให้เจริญมรณานุสติเนือง ๆ ว่าคนเราเกิดมาทุกคนย่อมต้องตาย เรามีความเกิด ความแก่ ความเจ็บเป็นธรรมดา และความตายจะมาถึงในสักวันหนึ่งเป็นธรรมดา ทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้น ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่วนั้นมีอานิสงส์ประการหนึ่งที่จะทำให้เกิดการปล่อยวางและไม่เครียด เป็นการขจัดต้นเหตุที่ทำให้เส้นเลือดแตกในสมองได้อย่างชะงัด
ในร่างกายของคนเราประกอบด้วยท่อมากหลาย และขนาดต่าง ๆ กัน มีความหนาบางต่าง ๆ กัน ในส่วนที่เกี่ยวกับสมองก็มีท่อหรือหลอดเลือดมากหลาย ทั้งหลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงและไหลออก หลอดเลือดเหล่านี้มีการเสื่อมสลาย มีการแตกเป็นธรรมดา มีการซ่อมชำรุดโดยธรรมชาติเป็นธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดามีอยู่สองประการคือ
ประการแรก ความอ่อน หยุ่น เหนียว และความหนาบางของท่อหรือหลอดเลือดนั้นผิดปกติ แล้วทำให้แตกได้ง่าย ซึ่งหากเป็นกรรมพันธุ์ก็ต้องถือว่าเป็นเวรกรรมมาแต่ปางก่อน ต้องมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น ดังเช่นบางคนเส้นเลือดฝอยแตกตามหน้าตามขาทำให้เห็นได้ชัด แม้จะไม่ถึงตายก็ตาม แต่ถ้าไปแตกในสมองก็เสี่ยงตายมากหน่อย แต่ความผิดปกตินี้อาจเกิดขึ้นได้จากอาหาร นั่นคือการกินผักน้อยเกินไป กินน้ำอัดลมมากเกินไป กินผงชูรสมากเกินไป ทำให้หลอดเลือดบางและเปราะ แรงดันของเลือดผิดปกติหน่อยหนึ่งหรือกระทบกระแทกอะไรเข้าหน่อยหนึ่งก็แตกเอาง่าย ๆ
ประการที่สอง เพราะการประพฤติปฏิบัติที่ไม่ปกติ เช่นผลุดลุกผลุดนั่ง หรือนั่งนอนอยู่ดีๆ แล้วผลุดลุกขึ้น หรือซ่ามากเกินไป ไปออกแรงหรือกระตุ้นจนผิดปกติ หรือเคร่งเครียดจนเกินไป แล้วทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
เมื่อเหตุเป็นมาอย่างนี้ การจะป้องกันแก้ไขไม่ให้เส้นเลือดในสมองแตกจึงต้องแก้ที่เหตุ นั่นคือพึงปฏิบัติในประการดังต่อไปนี้
ประการแรก ต้องเพิ่มการกินผัก ผลไม้ ซึ่งมีผลทำให้หลอดเลือดอ่อน เหนียว และมีความเป็นปกติ ไม่เปราะ ไม่แตกได้โดยง่าย แต่ต้องระวังสารพิษที่ติดมากับผัก ผลไม้นั้นด้วย เพราะหากไม่ระมัดระวังแทนที่จะตายด้วยเส้นเลือดในสมองแตกกลับต้องไปตายด้วยสารพิษ
ประการที่สอง พึงลด ละ หรือเลิกการดื่มน้ำอัดลมที่ไม่เป็นประโยชน์ใด ๆ แก่ร่างกาย มีโทษแก่ร่างกายมหันต์อย่างเป็นขั้นตอนให้ได้ น้ำอัดลมมีโทษไม่แพ้กว่าบุหรี่ และทำให้ตายเร็วกว่าบุหรี่
ประการที่สาม พึงลด ละ หรือเลิกติดยึดในความเอร็ดอร่อยของอาหารด้วยการละเว้นขาดจากการกินผงชูรสทุกชนิด เพราะผงชูรสนั้นแท้จริงก็คือสารเคมีชนิดหนึ่งที่ทำให้เส้นเลือดบางเปราะและแตกง่าย เว้นแต่คนที่อยากตายด้วยอาการเส้นเลือดแตกในสมองก็พึงกินผงชูรสให้มากเข้าไว้ ทุกวันนี้ผู้คนเส้นเลือดแตกในสมองมากก็เพราะบริโภคผงชูรสมาก อะไร ๆ ก็ต้องใส่ผงชูรส แม้ทำส้มตำหรือตำน้ำพริก แม้กระทั่งอาหารบางอย่างก็จิ้มผงชูรสกันโดยตรง อย่างนี้ต้องตายด้วยเส้นเลือดในสมองแตกอย่างไม่ต้องสงสัย
ประการที่สี่ พึงปฏิบัติตน 3-4 ประการดังนี้
(1)ตามสถิติปรากฏว่าคนตายในเวลากลางคืนมากกว่าเวลากลางวัน เหตุผลเพราะความดันในเลือดต่ำ น้ำตาลในเลือดต่ำในยามนอนหลับ ดังนั้นเมื่อตื่นขึ้นกลางดึกหรือในตอนเช้า หากผลุนผลันลุกขึ้นทันทีก็อาจตายได้โดยง่าย ที่สำคัญอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตกด้วย ดังนั้นพลันที่ตื่นหรือก่อนที่จะลุก พึงตั้งสติอย่าเพิ่งลุกทันที ให้ขยับตัว มือ และขา สัก 2-3 นาทีก่อน สูดหายใจลึก ๆ สัก 4-5 ครั้งก่อน ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติแล้วค่อย ๆ ลุก จะทำให้ตัวเองหลุดออกมาจากสถิติการตายแบบนี้ และมีผลเป็นการป้องกันเส้นเลือดในสมองไม่ให้แตกอีกด้วย
(2)ในแต่ละวันพยายามบริหารลำคอ โดยการหมุนคอโดยรอบทั้งซ้ายไปขวาและจากขวาไปซ้าย ในขณะหมุนนั้นให้พยายามกรอกลูกตาไปสุดทางที่หมุนนั้นด้วย จากนั้นบริหารศีรษะด้วยการเอียงซ้ายขวาและหน้าหลังอย่างละ 20 ครั้งก็พอ จะทำให้เส้นเลือดหลอดเลือดทั้งหลายได้รับการบริหารโดยอัตโนมัติและมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
(3)พยายามดื่มน้ำในตอนเช้าวันละ 5 แก้ว อย่างน้อยก็สัก 3 แก้วก็ยังดี จะมีผลทำให้หลอดเลือดทั้งหลายมีความสะอาด มีความคล่องตัว ไม่ติดขัด และทำให้เลือดไม่ข้นผิดปกติ
(4)อย่าเชื่อว่าการออกกำลังกายจะทำให้อายุยืนเสมอไป ต้องระมัดระวังการออกกำลังกายมากเกินไป หรือประเภทที่เกินกว่าวัย โดยเฉพาะการออกกำลังกายประเภทที่กระตุ้นเลือดและหัวใจให้ฉีดแรง ย่อมมีผลทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้โดยง่าย จึงพึงออกกำลังกายโดยประมาณ ที่สำคัญคือกำลังกาย กำลังใจ และการหายใจต่างหาก หากเป็นเอกภาพแล้วก็จะมีผลทำให้อายุยืน
ดังนั้นท่านทั้งปวงพึงทดลองปฏิบัติตนตามคำแนะนำนี้ดู แล้วพึงตั้งใจให้มีอายุยืนยาวถึง 120 ปีทั่วกันเทอญ