xs
xsm
sm
md
lg

กุศโลบายของคุณแม่

เผยแพร่:   โดย: บุญรักษ์ บุญญะเขตมาลา

นอกจากคุณแม่ของผมเองผู้เปี่ยมไปด้วยความรักอันไร้พรมแดนอย่างแท้จริงแล้ว ในบรรดาคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่ผมได้มีโอกาสรู้จัก มีอยู่ท่านหนึ่งที่ผมเห็นว่าค่อนข้างจะพิเศษ เพราะการแสดงความรักต่อลูกของท่านนั้นเต็มไปด้วยกุศโลบายที่ความสำเร็จจะต้องอาศัยการเสียสละอย่างลึกซึ้ง จนสามารถกล่าวได้ว่าท่านตกอยู่ในฐานะจำยอมมานานเป็นสิบๆ ปี จนถึงขั้นที่ต้องเลี้ยงลูกด้วยน้ำตาที่อั้นอยู่ในอกก็ว่าได้ ทั้งนี้ เป้าหมายสูงสุดของท่านก็คือการคำนึงถึงความสุขสมบูรณ์ของลูกๆ ล้วนๆ เป็นสำคัญ

ในที่นี้ เรากำลังพูดถึง “คุณแม่” ที่เป็น “ผู้หญิงเก่ง” อีกท่านหนึ่ง นั่นก็คือ เนื่องจากท่านโชคไม่ดีเลยตรงที่บังเอิญไปได้สามีที่ไม่น่ารักในทุกกระบวนท่าเท่าที่ใครๆ จะพึงพานพบได้ในชีวิตหนึ่ง ท่านจึงต้องตกบันไดพลอยโจนทำหน้าที่เป็น “หัวหน้าครอบครัว” ในทุกความหมาย กล่าวคือ เป็นผู้ทำมาหากินเลี้ยงดูทั้งสามีและลูกๆ ทั้งหมดในธุรกิจที่เข้าข่ายที่ต้องเรียกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงเลยทีเดียว

ในเงื่อนไขที่สามีผู้ไม่ยอมทำมาหากินใดๆ ทว่ากลับใช้เงินทองสุรุยสุร่ายเป็นว่าเล่น แทนที่จะเกลียดชัง คุณแม่ท่านนี้กลับได้เพียรพยายามให้โอกาสแก่สามีของตนครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งนี้ ด้วยการสร้างธุรกิจให้เขาเป็นผู้ดูแลเองในหลายๆ โอกาส ด้วยความเชื่อที่ว่า “การทำงาน” จะทำให้เขามีความภาคภูมิใจในตนเอง จนกระทั่งกลายเป็นคนที่มีคุณค่า สามารถเคารพตนเองได้ และในที่สุด อาจจะทำให้เขาเป็นสามีและคุณพ่อที่ดีขึ้นมาได้ในมาตรฐานหนึ่ง

ทั้งหมดนี้เป็นไปได้เพราะเธอเคยได้เห็นความดีเล็กๆ น้อยๆ ของเขาในอดีตกาลอันไกลโพ้น ฉะนั้น เธอจึงมีความปรารถนาที่จะให้โอกาสเขาอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ประสบการณ์วันต่อวันในระยะหลายๆ ปีที่ผ่านมาล้วนเป็นที่มาของความเจ็บปวดรวดร้าว

ทว่าความหวังของเธอดูเหมือนจะเป็นเพียงความฝัน เพราะยิ่งวันเวลาผ่านไปนานเท่าใด สามีของเธอก็ยิ่งมีพฤติกรรมในทางทำลายที่พิสดารมากขึ้นทุกที รวมทั้งการละทิ้งธุรกิจที่ภรรยาสู้อุตส่าห์สร้างและลงทุนให้ อีกทั้งแสดงอากัปกริยาและคำพูดหยาบคายกับภรรยาและลูกๆ ของตนเป็นนิจศีล ราวกับว่าเป็นศัตรูกันมานานแสนนาน

นอกจากจะเตร็ดเตร่ไปในที่ต่างๆ แทบทั้งวันทั้งคืน รวมทั้งการเล่นการพนันแล้ว ในคราวใดที่อยู่กับบ้าน สามีคนที่ว่านี้ก็แทบจะไม่เคยมีกิจกรรมใดๆ ที่เป็นประโยชน์กับใครเลย เหนือจากการข่มขู่ภรรยาเพื่อเอาเงินทองไปผลาญแล้ว ว่ากันว่าเขาชอบแสดงอารมณ์ร้ายๆ ให้ใครๆ ดูเล่นเพื่อกลบเกลื่อนปมด้อยของตนที่ไม่ยอมทำมาหากินอีกต่างหาก

รวมความแล้ว ทุกๆ คนภายในบ้านกลับมีความสุขมากกว่าเมื่อเขาไม่อยู่กับบ้านกับช่อง

นั่นก็คือ ผู้เป็นภรรยามีอารมณ์ผ่องใส ส่วนลูกๆ ก็สามารถทำการบ้านและเล่นอะไรๆ ของตนไปได้อย่างสงบในบรรยากาศที่สร้างสรรค์

เมื่อเพื่อนๆ ผู้ทราบเรื่องดีของ “คุณแม่” ท่านนี้แสดงความเป็นห่วงเป็นใยในสวัสดิภาพของเธอ เธอก็มักจะตอบอย่างเรียบๆ ว่าไม่เป็นไร เธอยังทนได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากไปกว่าที่เคยพบมาแล้ว เพราะตอนนี้ลูกๆ แต่ละคนก็มีสภาพทางจิตใจที่ลงตัวแล้วกับการต้องอยู่กับคุณแม่ของตนในลักษณะที่ไม่มีใครทำหน้าที่เป็นพ่อ มิหนำซ้ำ ลูกๆ เหล่านี้ยังเป็นนักเรียนดีระดับที่มีเหรียญทองประดับตนอีกต่างหาก

ในบรรยากาศอย่างนี้ ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่ลูกๆ จะเปี่ยมไปด้วยความรักในตัวคุณแม่ และในบางครั้งก็อดที่จะแสดงความไม่พอใจเล็กๆ น้อยๆ แบบเด็กๆ กับความไม่รู้จักรับผิดชอบอย่างเห็นได้ชัดของบุคคลที่อ้างตนว่าเป็นพ่อของเขาไม่ได้

ในสถานการณ์อันเลวร้ายอย่างนี้ แทนที่คุณแม่ท่านนี้จะยุยงส่งเสริมให้ลูกๆ ของท่านสาปส่งผู้ที่อยู่ในฐานะพ่อของเขา เธอกลับมองเห็นว่าการอนุญาตให้ลูกๆ ทำเช่นนั้นจะเป็นผลเสียกับลูกของตนเอง ฉะนั้น เธอจึงเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม นั่นก็คือ การสั่งสอนให้ลูกๆ ให้ความรักกับพ่อของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยความเชื่อของท่านที่ว่าการกระทำเช่นนั้นของเด็กๆ จะเป็นประสบการณ์ที่ช่วยฝึกฝนอารมณ์ของลูกๆ ให้สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้

เนื่องจากตัวท่านเองก็ได้เคยตกเป็นเหยื่อของครอบครัวของตนเองที่ไม่สมบูรณ์มาแล้วตั้งแต่เด็กๆ ทว่าท่านก็ได้เรียนรู้จะ “ก้าวข้าม” ปัญหาดั้งเดิมที่ไม่ได้รับความรักจากคุณแม่และคุณพ่อของตนเอง ท่านจึงไม่ต้องการให้ลูกๆ ของท่านเองต้องพานพบกับประสบการณ์อันเจ็บปวดเหมือนของตนเอง

ด้วยประการฉะนี้ นอกจากการที่ต้องทำหน้าที่เป็นคนหาเงินหาทองมาเลี้ยงดูทุกคนแล้ว คุณแม่ท่านนี้ยังต้องทำหน้าที่เป็นทั้งคุณแม่และคุณพ่อของลูกๆ พร้อมๆ กันไปด้วย ไม่ว่าลูกจะมีคำถามเกี่ยวกับการบ้าน ข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพทั้งกายและใจ และความต้องการอื่นใด ท่านต้องทำหน้าที่เหล่านั้นด้วยตนเองทั้งสิ้น

มิหนำซ้ำ เพื่อนๆ ของคุณแม่ท่านนี้ล้วนยืนยันว่าเพื่อนของเขาคนนี้สามารถทำหน้าที่ร้อยแปดพันเก้าได้เป็นอย่างดี และมีอารมณ์ขันหลงเหลือมาแจกจ่ายให้เพื่อนๆ ของเธอได้ลิ้มรสด้วย

เพื่อนคนหนึ่งเสนอทฤษฎีว่า การเป็นนักเรียนอักษรศาสตร์ของคุณแม่ท่านนี้คงจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ท่านสามารถมีชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางสถานการณ์อันเลวร้ายอย่างมีความสุขตามสมควร

จริงๆ แล้ว นอกจากความซาบซึ้งในรสชาติของวรรณคดีแล้ว ความสุขของคุณแม่ท่านนี้คงจะมาจากความสำเร็จของลูกๆ ที่ผ่านการเลี้ยงดูอันเปี่ยมไปด้วยความรักของท่านเองเป็นสำคัญ อย่างน้อยลูกๆ ก็กำลังเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศกันทั้งนั้น ในขณะที่คนหนึ่งกำลังจะเป็นแพทย์ อีกคนหนึ่งก็เป็นนักภาษาต่างประเทศที่มีอนาคตแจ่มใส ส่วนอีกคนหนึ่งก็ดูจะมีวี่แววว่าจะเป็นนักการเงินที่เฉลียวฉลาดไม่ใช่น้อยๆ

ข้อที่น่าสังเกตที่สุดก็คือ ลูกๆ ของคุณแม่ท่านนี้ล้วนอยู่ติดบ้าน ไม่ค่อยไปไหนๆ โดยไม่จำเป็น อีกทั้งมีนิสัยกระเหม็ดกระแหม่ ชอบกินง่ายๆ และอยู่ง่ายๆ ทั้งๆ ที่คุณแม่ของพวกเขาเป็นอะไรที่ไม่น้อยไปกว่าเศรษฐีย่อยๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว

นอกจากนี้ เด็กๆ เหล่านี้ดูจะมีความเมตตากับบุคคลที่ต่ำต้อยกว่าตนเองอย่างไม่มีข้อยกเว้น มิหนำซ้ำ ยังมีอารมณ์ขันกันทั่วหน้า ไม่เล็กๆ ก็เข้าขั้นแพรวพราวเลยทีเดียว

เนื่องจากคุณแม่ท่านนี้เลี้ยงดูลูกๆ ของตนด้วยกุศโลบายอันลึกล้ำ นั่นก็คือ ความอดทนด้วยการให้โอกาสกับสามีที่ดูเหมือนว่าไม่มีอนาคตใดๆ แล้ว ทั้งหมดนี้ เป็นไปได้เพราะการคำนึงถึงสุขภาพกายและใจ รวมทั้งอนาคตของลูกๆ ของท่านเอง ซึ่งท่านต้องการให้มีหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความเมตตา ทั้งๆ ที่เงื่อนไขต่างๆ ไม่เอื้ออำนวยสักเท่าใดนัก

พูดง่ายๆ คุณแม่ท่านนี้ยอมรับความเจ็บปวดต่างๆ เอาไว้กับตนเอง จนกล่าวได้ว่าเป็นความพยายามในอันที่จะเลี้ยงลูกให้ได้ดีด้วยน้ำตาของตนเองเลยทีเดียว

ในโลกนี้มีคุณแม่ที่ยิ่งใหญ่ในรูปลักษณ์ต่างๆ มากมาย ในกรณีของคุณแม่ท่านนี้ ความยิ่งใหญ่ของท่านก็คือการยอมเสียสละความสุขสมบูรณ์ในชีวิตของตนเองเพื่อที่ลูกๆ ของตนจะมีโอกาสได้เติบใหญ่ขึ้นมาอย่างเป็นมนุษย์ที่บริบูรณ์ที่สุดเท่าที่ลูกๆ แต่ละคนจะเป็นไปได้

ถ้าลูกๆ ของคุณแม่ท่านนี้สามารถล่วงรู้ถึงการเสียสละอันยิ่งใหญ่อย่างนี้ได้อย่างครบถ้วน พวกเขาคงจะรักคุณแม่ของเขามากยิ่งขึ้นอีกโข

ความรักที่คุณแม่ท่านนี้ได้รับจากลูกๆ ของท่านนี้เองคือ พลังที่หล่อเลี้ยงร่างกายและจิตใจของท่านได้ท่ามกลางเงื่อนไขอันเลวร้ายในชีวิตประจำวัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ได้ ทุกๆ วันก็คือ “วันแม่” ไม่มีของขวัญอื่นใดสามารถทดแทนความรักของแม่ได้ดีเท่ากับความรักของลูกๆ อีกแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น