ผู้จัดการรายวัน - คอลเกตทุ่มงบการตลาด 100 กว่าล้านบาทก้อนใหญ่สุดในรอบ 10 ปี หวังแจ้งเกิดสินค้าใหม่ "คอลเกต แมกซ์เฟรช" เพิ่มมาร์เกตแชร์อีก 4% ดึงซูเปอร์สตาร์ทาทายังสร้างภาพลักษณ์แมกซ์เฟรชให้โดนใจวัยรุ่นไทยพร้อมชูจุดขายผสมแผ่นฟิล์มน้ำยาบ้วนปากในเนื้อยาสีฟันเจลใส คาดสิ้นปีมีส่วนแบ่ง 36% จากมูลค่าทั้งตลาดยาสีฟันในประเทศ 5,500 ล้านบาท
นายดอร์เซท ซัททัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ
(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในการผลักดันสินค้าตัวใหม่ภายใต้ชื่อ คอลเกต แมกซ์เฟรช ให้ออกสู่ตลาดซึ่งถือเป็นงบการตลาดก้อนใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของคอลเกตประเทศไทย โดยมุ่งหวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอีก 5% ในปีนี้ จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้เมื่อตอนต้นปีว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 31% ส่งผลให้สิ้นปีนี้คอลเกตจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 36%
จากมูลค่าตลาดยาสีฟันทั้งประเทศ 5,500 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ดาลี่มีส่วนแบ่งตลาด 16% ใกล้ชิดมีส่วนแบ่งตลาด 11% และดอกบัวคู่มีส่วนแบ่งตลาด 11%
สำหรับงบดังกล่าวจะจัดสรรให้กับกิจกรรมตลาดที่มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นไทยโดยเฉพาะ ซึ่งมีอายุระหว่าง 15-25 ปี โดยมีระยะเวลาแคมเปญ 5 เดือน ตั้งแต่สิงหาคม-ธันวาคม 2548 ล่าสุดได้มีการว่าจ้างนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์ ทาทายัง มาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาทางทีวีให้กับสินค้าตัวใหม่นี้ด้วย อีกทั้งมีกาแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 2 ล้านชิ้นให้ลูกค้าได้ทดลองใช้
เพื่อให้สินค้าติดตลาดให้เร็วที่สุด
นอกจากนั้นยังชูจุดขายในแง่ที่เป็นสินค้านวัตกรรม ซึ่งผสมแผ่นฟิล์มน้ำยาบ้วนปากเข้าไปกับเนื้อยาสีฟัน 2 รส ได้แก่ รสมินท์ในเนื้อเจลสีฟ้า และรสเปปเปอร์มินท์ ไอซ์ในเนื้อเจลสีเขียว
โดยคอลเกตได้จดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะสามารถผลักดันให้คอลเกต แมกซ์เฟรช กลายเป็นยาสีฟันหลอดที่ 2 ของบ้านในอนาคต
นายดอร์เซทยังกล่าวด้วยว่าสินค้าดังกล่าวได้มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มวัยรุ่น
ที่ห่วงเรื่องกลิ่นปากมากที่สุด 73% จากผลวิจัยล่าสุดของบริษัท เอซี เนลสัน โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะผลิตออกมาจำหน่ายผ่านทุกช่องทางการขาย ซึ่งปัจจุบันคอลเกตมีการขายผ่านโมเดิร์นเทรด 55% และผ่านทราดิชั่นแนลเทรดอีก 45% ทั้งนี้ ไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ที่มีการออกวางจำหน่ายสินค้านวัตกรรมใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นได้เปิดตัวไปแล้วที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนสิงหาคม 47
และฮ่องกงเมื่อเดือนมกราคม 48
ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ถือเป็นสินค้าในตระกูลกล่องแดงตัวที่ 7 ของคอลเกต
โดยก่อนหน้านั้นมีคอลเกตโทโทล, บิ๊กเรด, เฮอเบิล, ไวเทนนิ่ง, คิดส์โปแกมมอน,
เฟรช คอนฟิเด้นท์
สำหรับสินค้ายาสีฟันในปัจจุบันนี้ แบ่งเป็น ตลาดเฉพาะในกลุ่มสินค้ายาสีฟันที่ห่วงใยเรื่องกลิ่นปาก 24% กลุ่มยาสีฟันสมุนไพรสกัด 32% กลุ่มยาสีฟันมัลติเบเนฟิต 10%
กลุ่มยาสีฟันสำหรับเด็ก 4% และกลุ่มเรกกูล่าอีก 24%
นายดอร์เซท ซัททัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ
(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในการผลักดันสินค้าตัวใหม่ภายใต้ชื่อ คอลเกต แมกซ์เฟรช ให้ออกสู่ตลาดซึ่งถือเป็นงบการตลาดก้อนใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของคอลเกตประเทศไทย โดยมุ่งหวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอีก 5% ในปีนี้ จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้เมื่อตอนต้นปีว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 31% ส่งผลให้สิ้นปีนี้คอลเกตจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 36%
จากมูลค่าตลาดยาสีฟันทั้งประเทศ 5,500 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ดาลี่มีส่วนแบ่งตลาด 16% ใกล้ชิดมีส่วนแบ่งตลาด 11% และดอกบัวคู่มีส่วนแบ่งตลาด 11%
สำหรับงบดังกล่าวจะจัดสรรให้กับกิจกรรมตลาดที่มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นไทยโดยเฉพาะ ซึ่งมีอายุระหว่าง 15-25 ปี โดยมีระยะเวลาแคมเปญ 5 เดือน ตั้งแต่สิงหาคม-ธันวาคม 2548 ล่าสุดได้มีการว่าจ้างนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์ ทาทายัง มาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาทางทีวีให้กับสินค้าตัวใหม่นี้ด้วย อีกทั้งมีกาแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 2 ล้านชิ้นให้ลูกค้าได้ทดลองใช้
เพื่อให้สินค้าติดตลาดให้เร็วที่สุด
นอกจากนั้นยังชูจุดขายในแง่ที่เป็นสินค้านวัตกรรม ซึ่งผสมแผ่นฟิล์มน้ำยาบ้วนปากเข้าไปกับเนื้อยาสีฟัน 2 รส ได้แก่ รสมินท์ในเนื้อเจลสีฟ้า และรสเปปเปอร์มินท์ ไอซ์ในเนื้อเจลสีเขียว
โดยคอลเกตได้จดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะสามารถผลักดันให้คอลเกต แมกซ์เฟรช กลายเป็นยาสีฟันหลอดที่ 2 ของบ้านในอนาคต
นายดอร์เซทยังกล่าวด้วยว่าสินค้าดังกล่าวได้มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มวัยรุ่น
ที่ห่วงเรื่องกลิ่นปากมากที่สุด 73% จากผลวิจัยล่าสุดของบริษัท เอซี เนลสัน โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะผลิตออกมาจำหน่ายผ่านทุกช่องทางการขาย ซึ่งปัจจุบันคอลเกตมีการขายผ่านโมเดิร์นเทรด 55% และผ่านทราดิชั่นแนลเทรดอีก 45% ทั้งนี้ ไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ที่มีการออกวางจำหน่ายสินค้านวัตกรรมใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นได้เปิดตัวไปแล้วที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนสิงหาคม 47
และฮ่องกงเมื่อเดือนมกราคม 48
ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ถือเป็นสินค้าในตระกูลกล่องแดงตัวที่ 7 ของคอลเกต
โดยก่อนหน้านั้นมีคอลเกตโทโทล, บิ๊กเรด, เฮอเบิล, ไวเทนนิ่ง, คิดส์โปแกมมอน,
เฟรช คอนฟิเด้นท์
สำหรับสินค้ายาสีฟันในปัจจุบันนี้ แบ่งเป็น ตลาดเฉพาะในกลุ่มสินค้ายาสีฟันที่ห่วงใยเรื่องกลิ่นปาก 24% กลุ่มยาสีฟันสมุนไพรสกัด 32% กลุ่มยาสีฟันมัลติเบเนฟิต 10%
กลุ่มยาสีฟันสำหรับเด็ก 4% และกลุ่มเรกกูล่าอีก 24%