เชียงราย - "อดิศร" เปิดถนนเชื่อมเชียงรายดอยวาวี มูลค่า 100 กว่าล้านบาท หลังเส้นทางเดิมโดนน้ำท่วมตลอดปี ชี้เกษตรชาวไทยภูเขา สามารถนำผลผลิตลงมาจำหน่ายได้ง่ายขึ้น ด้านท้องถิ่นเตรียมสานต่อการท่องเที่ยวหลังถนนดี
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา นายอดิศร เพียงเกษ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานในพิธี เปิดการใช้เส้นทาง โครงการก่อสร้างถนนทดแทนเดิมเดิมที่ถูกน้ำท่วม บริเวณ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่สรวย กม.ที่ 6 จาก อ.แม่สรวย ถึงบ้านทุ่งพร้าว อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเส้นทางหลักไปสู่ดอยวาวี
นายอดิศร เพียงเกษ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หากเส้นทางคมนาคมสะดวก เกษตรกรจะได้นำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่ายได้ง่าย และ สร้างความอยู่ดีกินดี ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายปลูกพืชเศรษฐกิจหลายชนิด เช่น ชา กาแฟ รวมทั้งส่งเสริมการปลูกยางพาราอย่างจริงจัง ด้วย
นอกจากนี้จะเร่งผลักดันให้มีการส่งสินค้าเกษตร อาทิ ข้าวสาร ยางพารา ลำไยอบแห้ง ไปขายประเทศเพื่อนบ้านเช่น จีน ผ่านเส้นทางแม่น้ำโขง และ ถนนที่ตัดผ่าน อ. เชียงของ สู่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ไปจีน (R3e) หรือ ถนนสาย อ.แม่สาย สู่ประเทศพม่า และจีนตอนใต้ ด้วย
ด้านนายฉลอง มหาวุฒิ ส.อบจ.เชียงราย กล่าวว่า เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่ชาวไทยพื้นราบและโดยเฉพาะชาวไทยภูเขา ใช้สัญจร นำผลผลิตทางการเกษตร เช่น ใบชา ลิ้นจี่ เมล็ดกาแฟ มะเขือเทศ และพืชเมืองหนาว จาก ดอยวาวี และ ดอยช้าง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ลงมาสู่พื้นราบ
"ที่ผ่านมา เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก บริเวณนี้จะสัญจรด้วยรถยนต์ผ่านยาก บางครั้งต้องใช้เรือแทน เพราะน้ำท่วมเส้นทางถนน ซึ่งการก่อสร้างครั้งนี้ ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น โดยบริเวณนี้มีชาวไทยภูเขาหลายเผ่าอาศัยอยู่กว่า 3 หมื่นคน ทั้งชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ลาหู่ ลีซอ เย้า จีนฮ่อ กะเหรี่ยง และเมื่อถนนดี การค้าขายก็ดีขึ้น ก็จะช่วยลดปัญหายาเสพติดที่อาจจะกลับมาระบาดอีกได้ รวมทั้งเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวดอยวาวีมากขึ้น เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อหลายแห่ง เช่น น้ำตกเที่ยงคืน และ ลานสาวกอด ตามประเพณีชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า" นายฉลอง กล่าว
สำหรับ โครงการก่อสร้างถนนดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจาก ถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรผ่านจะถูกน้ำท่วมหากมีน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากอยู่ในช่องเขาที่มีน้ำป่าจากดอยวาวีไหลลงอ่างเก็บน้ำแม่สรวย
ดังนั้น หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จึงได้เข้ามาช่วยก่อสร้างถนน และสะพานที่มีความสูงขึ้นกว่าเดิม อยู่ในระดับ 510 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระยะทาง 6,960 เมตร ที่มีการก่อสร้างสะพาน 3 แห่ง และถนนลาดยาง งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้น 108,835,655 บาท เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2547 ก่อนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2548


