องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างประเทศแห่สังเกตุการณ์คดี "สมชาย นีละไพจิตร" วันนี้ จี้นายกฯหาความจริงการอุ้มฆ่า ก่อนจะได้ชื่อ"เป็นดินแดนแห่งการอุ้มหาย"
นายเมธา มาสขาว ผู้ประสานงานคณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวถึง คดีการอุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตร หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.47 ว่า ที่ผ่านมานั้น หลังจากอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายในข้อหาลักทรัพย์ และพาทรัพย์นั้น จะมีการเปิดศาลพิจารณาคดีครั้งแรกในวันนี้(9 สิ.ค.) ที่ศาลอาญารัชดา โดยนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ปากแรก เวลา 09.00 น.
“คดีดังกล่าว เป็นเรื่องที่คนไทยต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องนี้นอกจากกำลังเป็นคดีในชั้นศาลนั้น DSI ก็รับโอนคดีไปสืบสวนใหม่ ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาคมโลกกำลังจับตาว่า รัฐบาลไทยจะมีความสามารถค้นหาปลายทางการหายไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ได้หรือไม่ และเรื่องนี้จะคลี่คลายลงอย่างใด เพราะเรื่องนี้ บางส่วนมีการพาดพิงถึงนโยบายของรัฐบาลเรื่องการแก้ปัญหาภาคใต้ และมีผู้เกี่ยวข้องระดับสูงเป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกระทำการด้วย ทำให้เรื่องการอุ้มสมชาย ผ่านมากว่า 500 วันแล้วยังไม่รู้ว่านายสมชายถูกอุ้มหายไปไหน"
ขณะนี้นั้นองค์การสหประชาชาติ และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายองค์กร กำลังจับตาดูว่า รัฐบาลจะจริงใจต่อเรื่องนี้หรือไม่ หลังการออกมาประกาศว่า สังคมไทยจะหมดยุคอุ้มฆ่าเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเห็นว่า รัฐบาลจะสามารถคลี่คลายการอุ้มหายได้ ต้องมีการแสดงความรับผิดชอบของรัฐบาลอย่างจริงจังกรณีนายสมชาย เพราะคดีลักษณะนี้ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้อำนาจคนใดเคยรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่จึงได้ใจและมีการละเมิดสิทธิตามกระบวนการยุติธรรมจำนวนมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนาย ซึ่งเรื่องนี้พล.อ.กิตติ รัตนฉายา ก็ออกมายอมรับว่า มีหน่วยอุ้มจากส่วนกลางลงพื้นที่ภาคใต้จริง รัฐบาลควรเร่งจัดการเรื่องดังกล่าวให้เป็นจริงด้วย ก่อนที่ประเทศไทยจะขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งการอุ้มฆ่า โดยเจ้าหน้าที่รัฐ
นายเมธา กล่าวด้วยว่า การหายไปของนายสมชาย เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการเมือง และเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรงของประชาคมโลก องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายองค์กร จึงเตรียมเข้าสังเกตุการณ์คดีในชั้นศาลวันนี้ด้วย อาทิ คณะกรรมาธิการนิติศาสตร์สากล (International Commission of Jurists-ICJ), ตัวแทนสหพันธ์ต่อต้านการทรมานและการอุ้มหายแห่งเอเชีย(Asian Federation Against Involuntary Disapperances-AFAD) จากประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์, Human Rights First และ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย ซึ่งนอกจากจะมีการร่วมสังเกตุการณ์การพิจารณาคดีในชั้นศาลแล้ว จะเดินหน้าร่วมเคลื่อนไหวช่วยคนไทย ให้รัฐบาลทักษิณเร่งหาคำตอบเรื่องการอุ้มหายโดยอำนาจนอกกระบวนการยุติธรรม กับประชาคมโลกด้วย พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้ประชาชนไทยผู้รักความเป็นธรรม ช่วยกันส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งคลี่คลายความไม่เป็นธรรมเรื่องนี้ และการละเมิดสิทธิของประชาชนจากผู้มีอำนาจรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก
นายเมธา มาสขาว ผู้ประสานงานคณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวถึง คดีการอุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตร หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.47 ว่า ที่ผ่านมานั้น หลังจากอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายในข้อหาลักทรัพย์ และพาทรัพย์นั้น จะมีการเปิดศาลพิจารณาคดีครั้งแรกในวันนี้(9 สิ.ค.) ที่ศาลอาญารัชดา โดยนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ปากแรก เวลา 09.00 น.
“คดีดังกล่าว เป็นเรื่องที่คนไทยต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องนี้นอกจากกำลังเป็นคดีในชั้นศาลนั้น DSI ก็รับโอนคดีไปสืบสวนใหม่ ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาคมโลกกำลังจับตาว่า รัฐบาลไทยจะมีความสามารถค้นหาปลายทางการหายไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ได้หรือไม่ และเรื่องนี้จะคลี่คลายลงอย่างใด เพราะเรื่องนี้ บางส่วนมีการพาดพิงถึงนโยบายของรัฐบาลเรื่องการแก้ปัญหาภาคใต้ และมีผู้เกี่ยวข้องระดับสูงเป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกระทำการด้วย ทำให้เรื่องการอุ้มสมชาย ผ่านมากว่า 500 วันแล้วยังไม่รู้ว่านายสมชายถูกอุ้มหายไปไหน"
ขณะนี้นั้นองค์การสหประชาชาติ และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายองค์กร กำลังจับตาดูว่า รัฐบาลจะจริงใจต่อเรื่องนี้หรือไม่ หลังการออกมาประกาศว่า สังคมไทยจะหมดยุคอุ้มฆ่าเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเห็นว่า รัฐบาลจะสามารถคลี่คลายการอุ้มหายได้ ต้องมีการแสดงความรับผิดชอบของรัฐบาลอย่างจริงจังกรณีนายสมชาย เพราะคดีลักษณะนี้ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้อำนาจคนใดเคยรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่จึงได้ใจและมีการละเมิดสิทธิตามกระบวนการยุติธรรมจำนวนมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนาย ซึ่งเรื่องนี้พล.อ.กิตติ รัตนฉายา ก็ออกมายอมรับว่า มีหน่วยอุ้มจากส่วนกลางลงพื้นที่ภาคใต้จริง รัฐบาลควรเร่งจัดการเรื่องดังกล่าวให้เป็นจริงด้วย ก่อนที่ประเทศไทยจะขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งการอุ้มฆ่า โดยเจ้าหน้าที่รัฐ
นายเมธา กล่าวด้วยว่า การหายไปของนายสมชาย เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการเมือง และเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรงของประชาคมโลก องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายองค์กร จึงเตรียมเข้าสังเกตุการณ์คดีในชั้นศาลวันนี้ด้วย อาทิ คณะกรรมาธิการนิติศาสตร์สากล (International Commission of Jurists-ICJ), ตัวแทนสหพันธ์ต่อต้านการทรมานและการอุ้มหายแห่งเอเชีย(Asian Federation Against Involuntary Disapperances-AFAD) จากประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์, Human Rights First และ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย ซึ่งนอกจากจะมีการร่วมสังเกตุการณ์การพิจารณาคดีในชั้นศาลแล้ว จะเดินหน้าร่วมเคลื่อนไหวช่วยคนไทย ให้รัฐบาลทักษิณเร่งหาคำตอบเรื่องการอุ้มหายโดยอำนาจนอกกระบวนการยุติธรรม กับประชาคมโลกด้วย พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้ประชาชนไทยผู้รักความเป็นธรรม ช่วยกันส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งคลี่คลายความไม่เป็นธรรมเรื่องนี้ และการละเมิดสิทธิของประชาชนจากผู้มีอำนาจรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก