เอเอฟพี - คาดในสัปดาห์นี้ ทางการมาเลเซียน่าจะประกาศนโยบายโครงสร้างภาษีและภาษีศุลกากรอุตสาหกรรมยานยนต์ฉบับใหม่ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นขัดแย้งภายในประเทศ
หนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ ของมาเลเซียฉบับวานนี้ (8) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมหลายรายบอกว่า หลังจากชะลอการออกนโยบายนี้มานาน 2 เดือน ล่าสุด นโยบายดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติขั้นสุดท้าย
คาดหมายกันว่า นโยบายใหม่ดังกล่าวจะตัดสินประเด็นปัญหาหลายๆ ประเด็นที่กำลังมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ภายในมาเลเซีย อาทิ ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการประกาศเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภาษีในอุตสาหกรรมดังกล่าวเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา ที่ผู้ประกอบรถยนต์ท้องถิ่นโวยวายว่า ทำให้พวกตนเสียเปรียบผู้ประกอบการในประเทศอื่นๆ ของภูมิภาค
นอกจากนั้น ยังน่าจะมีการปรับลดภาษีให้แก่รถยนต์ที่ประกอบภายในมาเลเซีย ตลอดจนรถยนต์นำเข้าทั้งคัน ถึงแม้มีแหล่งข่าวที่ทราบนโยบายใหม่นี้เป็นอันดีบอกกับเดอะ สตาร์ว่า รัฐบาลต้องการให้ราคารถคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีการปรับภาษีใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน นโยบายใหม่จะมีการแก้ไขระบบออกใบอนุญาตนำเข้ารถจากต่างประเทศ ที่เมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งกันระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ราฟิดาห์ อาซิส และอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโปรตอน ค่ายรถสัญชาติมาเลเซียในทศวรรษ 1980
ปีที่แล้ว มาเลเซียได้ประกาศว่า จะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2005 เป็นต้นไปตามข้อตกลงการค้าเสรีอาฟตา โดยจะลดลงเหลือ 20% ในปีนี้ และเหลือ 5% ในปี 2008 ขณะเดียวกัน ก็จะยังคงคืนภาษีให้กับผู้ผลิตในประเทศต่อไป เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ผลิตเหล่านี้ลงให้น้อยที่สุด
ทว่า เมื่อถึงเดือนมกราคม แผนการใช้นโยบายดังกล่าวกลับถูกเลื่อนออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน เพื่อรอผลการทบทวนด้านโครงสร้างภาษีศุลกากร เนื่องจากวิตกกันว่า บริษัทรถยนต์ต่างชาติอาจระงับแผนการเข้ามาลงทุนใหม่ๆ หรืออาจถึงขั้นย้ายธุรกิจที่มีอยู่ในมาเลเซียขณะนี้ออกไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเสือเหลืองได้ประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถที่ขายในประเทศจากเดิมที่ 30-100% ในเดือนธันวาคมปีก่อน เป็น 40-250% ซึ่งเป็นแผนการที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการขจัดข้อได้เปรียบที่เกิดขึ้นจากการปรับลดภาษีศุลกากรให้กับผู้บริโภคภายในประเทศและบริษัทคู่แข่งจากต่างชาติ
หนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ ของมาเลเซียฉบับวานนี้ (8) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมหลายรายบอกว่า หลังจากชะลอการออกนโยบายนี้มานาน 2 เดือน ล่าสุด นโยบายดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติขั้นสุดท้าย
คาดหมายกันว่า นโยบายใหม่ดังกล่าวจะตัดสินประเด็นปัญหาหลายๆ ประเด็นที่กำลังมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ภายในมาเลเซีย อาทิ ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการประกาศเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภาษีในอุตสาหกรรมดังกล่าวเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา ที่ผู้ประกอบรถยนต์ท้องถิ่นโวยวายว่า ทำให้พวกตนเสียเปรียบผู้ประกอบการในประเทศอื่นๆ ของภูมิภาค
นอกจากนั้น ยังน่าจะมีการปรับลดภาษีให้แก่รถยนต์ที่ประกอบภายในมาเลเซีย ตลอดจนรถยนต์นำเข้าทั้งคัน ถึงแม้มีแหล่งข่าวที่ทราบนโยบายใหม่นี้เป็นอันดีบอกกับเดอะ สตาร์ว่า รัฐบาลต้องการให้ราคารถคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีการปรับภาษีใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน นโยบายใหม่จะมีการแก้ไขระบบออกใบอนุญาตนำเข้ารถจากต่างประเทศ ที่เมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งกันระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ราฟิดาห์ อาซิส และอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโปรตอน ค่ายรถสัญชาติมาเลเซียในทศวรรษ 1980
ปีที่แล้ว มาเลเซียได้ประกาศว่า จะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2005 เป็นต้นไปตามข้อตกลงการค้าเสรีอาฟตา โดยจะลดลงเหลือ 20% ในปีนี้ และเหลือ 5% ในปี 2008 ขณะเดียวกัน ก็จะยังคงคืนภาษีให้กับผู้ผลิตในประเทศต่อไป เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ผลิตเหล่านี้ลงให้น้อยที่สุด
ทว่า เมื่อถึงเดือนมกราคม แผนการใช้นโยบายดังกล่าวกลับถูกเลื่อนออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน เพื่อรอผลการทบทวนด้านโครงสร้างภาษีศุลกากร เนื่องจากวิตกกันว่า บริษัทรถยนต์ต่างชาติอาจระงับแผนการเข้ามาลงทุนใหม่ๆ หรืออาจถึงขั้นย้ายธุรกิจที่มีอยู่ในมาเลเซียขณะนี้ออกไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเสือเหลืองได้ประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถที่ขายในประเทศจากเดิมที่ 30-100% ในเดือนธันวาคมปีก่อน เป็น 40-250% ซึ่งเป็นแผนการที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการขจัดข้อได้เปรียบที่เกิดขึ้นจากการปรับลดภาษีศุลกากรให้กับผู้บริโภคภายในประเทศและบริษัทคู่แข่งจากต่างชาติ