xs
xsm
sm
md
lg

สับรัฐบาลสับสนสิทธิมนุษยชน-อุ้มฆ่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สับนายกฯเข้าใจสับสนสิทธิมนุษยชน ครป.ระบุรัฐบาลมีดีแค่ใช้เงินแต่แฝงวาระซ่อนเร้นทางการเมืองเป็นเงื่อนไขส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของของประชาชน เผยนโยบายรัฐบาลชุดนี้เป็นตัวเปิดทางให้อุ้มฆ่าได้ง่าย ปชป.จี้รัฐบาลทำอย่างที่พูดให้ได้

กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงวิสัยทัศน์เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง"สิทธิมนุษยชนสังคมไทย: มาตรฐานสู่การปฏิบัติ"เมื่อวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยระบุตอนหนี่งว่า จะส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากขึ้น สนับสนุนแผนแม่บทด้านสิทธิมนุษยชน และ ขจัดปัญหาอุ้มฆ่าโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น วานนี้(7ส.ค.)นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)กล่าวว่า นายกฯยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อประเด็นสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย โดยเฉพาะการสนับสนุนงบประมาณให้กับองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติและ ประชาชน ซึ่งแม้จะเป็นเจตนาที่ดี แต่ที่ผ่านมารัฐบาลมักสร้างเงื่อนไขในการให้เงิน

สำหรับกรณีที่นายกฯระบุว่า อย่าฟ้องต่างชาติหรือประจานประเทศตัวเองไปทั่วโลก ครป.เห็นว่าประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องไร้พรหมแดน ไม่ได้หมายความว่าการอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร หรือสุจริตชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องภายในประเทศ ขณะเดียวกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยกำลังทหารอเมริกาในอิรักหรือในหลายประเทศก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย หากแต่การละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ซอกหลืบหรือมุมใดของโลก ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องต่อต้านและประณามกัน

"เราไม่อยากเห็นผู้นำประเทศไทยคนใดก็ตาม หรือนายกทักษิณถูกชูป้ายประจาน หรือถูกต่อต้านจากประชาคมโลกว่าเป็นจอมฆาตรกร เหมือนประธานาธิบดีอเมริกา ที่ส่งกำลังทหารเข้ายึดประเทศอิรักเวลาเดินทางไปที่ไหนๆ ก็ถูกต่อต้านและถูกประจานว่าเป็นอาชญากรโลก"

ส่วน การจัดทำแผนแม่บทแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชน ครป.เห็นว่าการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในสังคมที่ผ่านมาไร้ประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพราะประเทศไทยเราขาดแผนแม่บท ตรงกันข้ามเรามีแผนแม่บทแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชนที่ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2543 มีอายุ 5 ปี ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีสุดท้าย แต่ทำไมการละเมิดสิทธิมนุษยชนยังอยู่ในระดับที่น่ากลัว ทั้งนี้เพราะแนวปฏิบัติของภาครัฐ กระทั่งแนวทางในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงแผนแม่บทด้านสิทธิมนุษยชน ซ้ำร้ายบางนโยบายยังมีลักษณะสวนทางกับกรอบการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ เช่น การทำสงครามปราบปรามยาเสพติดที่มีการฆ่าตัดตอนมากกว่า 2,000 ราย การใช้แนวทางความรุนแรงแก้ปัญหาภาคใต้

นายสุริยะใส ยังกล่าวถึง ความพยายามของนายกฯที่จะแก้ปัญหาอุ้มฆ่าว่าแนวนโยบายของรัฐบาลในหลายมาตรการมีลักษณะก้าวล่วงและตัดตอนอำนาจตุลาการหรือบทบาทของศาล และเปิดช่องให้มีการ"สถาปนาศาลเตี้ย"โดยเจ้าหน้าที่เช่นการฆ่าตัดตอน การอุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตร หรือในหลายๆกรณีกระทั่งการใช้อำนาจบริหาร ตราพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่อยู่เหนือการกำกับและตรวจสอบถ่วงดุลจากศาลปกครองและศาลสถิตยุติธรรม จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปิดช่องให้มีใบอนุญาตฆ่า หรือ นิรโทษกรรมให้เจ้าหน้าที่ล่วงหน้า

ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ขอให้นายกฯปฏิบัติตามคำพูดอย่างจริงจัง เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ถ้าไม่เกิดกับลูกหลานของใครคงไม่รู้สึก จึงขอให้รัฐบาลเข้าไปเยียวยารักษาบาดแผลประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกระทำโดยไม่รู้เรื่องด้วย เพราะคำพูดนี้สะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมามีการอุ้มรีดฆ่ากันจริง ดังนั้นนายกฯต้องสัญญาณเพิ่มเติมด้วยว่ามีวิธีการอย่างไรที่จะให้การอุ้มฆ่าหมดไปจากสังคม

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย ขอเวลา 30 วันในการทำให้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นว่า พรรคประชาธิปัตย์ยินดีอย่างยิ่งหากพล.อ.อ.คงศักดิ์ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ดีขึ้นจริง แต่สิ่งที่ประชาชนสังสัยคือพล.อ.อ.คงศักดิ์ มีวิธีการอย่างไรที่จะดำเนินการให้สถานการณ์ดีขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ประชาชนต้องการขณะนี้คือทำอย่างไรที่จะให้การลอบฆ่าประชาชนและเจ้าหน้าที่ยุติลง และสามารถใช้ชีวิตปกติได้
กำลังโหลดความคิดเห็น