รอยเตอร์/เอเอเฟพี – ลี เรย์มอนด์ วัย 66 ปี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนดังของเอ็กซ์ซอน โมบิล บริษัทน้ำมันอันดับ 1 ของโลก ประกาศก้าวลงจากตำแหน่งปลายปีนี้ ขณะที่บอร์ดเตรียมเสนอชื่อ “ทิลเลอร์สัน” ลูกหม้อของบริษัทขึ้นนั่งเก้าอี้แทน
เอ็กซ์ซอน โมบิล เผยเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (4) ว่า ผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนเรย์มอนด์ คาดว่าน่าจะเป็นกรรมการผู้จัดการ เรกซ์ ทิลเลอร์สัน ซึ่งทำงานให้กับบริษัทมานาน 42 ปี
ทิลเลอร์สัน วัย 53 ปีได้ถูกวางตัวให้เป็นทายาทคนสำคัญสืบตำแหน่งเรย์มอนด์ เมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสมาเป็นเวลา 3 ปี
เอ็กซ์ซอน โมบิลยังแถลงอีกว่า การวางแผนเฟ้นหาผู้สืบทอดตำแหน่งซีอีโอของบริษัทนั้น จะอิง “ระบบการพัฒนาด้านการจัดการที่มีมายาวนาน ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดค่านิยมหลักๆ ทั้งในเรื่องระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์ ความน่าเชื่อถือ ความสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ และการยึดมั่นต่อเทคโนโลยี”
พร้อมทั้งกล่าวย้ำว่า “บริษัทคาดหวังว่าบอร์ดบริหารจะเลือกเรกซ์ ทิลเลอร์สันขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทนที่เรย์มอนด์”
ที่ผ่านมา เรย์มอนด์ได้ยืดเวลาการอยู่ในตำแหน่งนี้ออกไปจากข้อกำหนดการเกษียณอายุของบริษัท ที่ระบุไว้ 65 ปีตามคำขอของบอร์ดผู้บริหาร เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่สามารถหาตัวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนได้
แม้ว่าเรย์มอนด์จะเป็นที่เกลียดชังของบรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมากถึงทรรศนะเรื่องโลกร้อนของเขา และยังกล่าวกันว่า เรย์มอนด์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจไม่ยอมลงนามให้สัตยาบันในพิธีสารเกียวโตของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐฯ
ทว่าในโลกธุรกิจ เรย์มอนด์เป็นผู้ที่ได้รับความยำเกรงและชื่มชมในแวดวงบริษัทอเมริกัน จากการนำพาเอ็กซ์ซอน โมบิล ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทระดับโลกที่มีความสามารถในการทำกำไรมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง และเป็นบริษัทที่มีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์สูงที่สุดในโลก โดยเอ็กซ์ซอน โมบิลมีผลประกอบการทั้งสิ้น 7,640 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 2 หรือเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
บรรดานักวิเคราะห์มองกันว่า การลาออกของเรย์มอนด์ หลังจากนั่งตำแหน่งนี้มานาน 12 ปี จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ ภายใต้การบริหารงานของเรย์มอนด์ เอ็กซ์ซอน โมบิล ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่มุ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างมีวินัย และไม่หวั่นไหวต่อราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไปมาโดยตลอด อันเป็นแนวปฏิบัติที่ทิลเลอร์สัน ไม่น่าฉีกแนวออกไปมากนัก
เอ็กซ์ซอน โมบิล เผยเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (4) ว่า ผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนเรย์มอนด์ คาดว่าน่าจะเป็นกรรมการผู้จัดการ เรกซ์ ทิลเลอร์สัน ซึ่งทำงานให้กับบริษัทมานาน 42 ปี
ทิลเลอร์สัน วัย 53 ปีได้ถูกวางตัวให้เป็นทายาทคนสำคัญสืบตำแหน่งเรย์มอนด์ เมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสมาเป็นเวลา 3 ปี
เอ็กซ์ซอน โมบิลยังแถลงอีกว่า การวางแผนเฟ้นหาผู้สืบทอดตำแหน่งซีอีโอของบริษัทนั้น จะอิง “ระบบการพัฒนาด้านการจัดการที่มีมายาวนาน ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดค่านิยมหลักๆ ทั้งในเรื่องระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์ ความน่าเชื่อถือ ความสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ และการยึดมั่นต่อเทคโนโลยี”
พร้อมทั้งกล่าวย้ำว่า “บริษัทคาดหวังว่าบอร์ดบริหารจะเลือกเรกซ์ ทิลเลอร์สันขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทนที่เรย์มอนด์”
ที่ผ่านมา เรย์มอนด์ได้ยืดเวลาการอยู่ในตำแหน่งนี้ออกไปจากข้อกำหนดการเกษียณอายุของบริษัท ที่ระบุไว้ 65 ปีตามคำขอของบอร์ดผู้บริหาร เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่สามารถหาตัวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนได้
แม้ว่าเรย์มอนด์จะเป็นที่เกลียดชังของบรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมากถึงทรรศนะเรื่องโลกร้อนของเขา และยังกล่าวกันว่า เรย์มอนด์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจไม่ยอมลงนามให้สัตยาบันในพิธีสารเกียวโตของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐฯ
ทว่าในโลกธุรกิจ เรย์มอนด์เป็นผู้ที่ได้รับความยำเกรงและชื่มชมในแวดวงบริษัทอเมริกัน จากการนำพาเอ็กซ์ซอน โมบิล ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทระดับโลกที่มีความสามารถในการทำกำไรมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง และเป็นบริษัทที่มีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์สูงที่สุดในโลก โดยเอ็กซ์ซอน โมบิลมีผลประกอบการทั้งสิ้น 7,640 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 2 หรือเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
บรรดานักวิเคราะห์มองกันว่า การลาออกของเรย์มอนด์ หลังจากนั่งตำแหน่งนี้มานาน 12 ปี จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ ภายใต้การบริหารงานของเรย์มอนด์ เอ็กซ์ซอน โมบิล ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่มุ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างมีวินัย และไม่หวั่นไหวต่อราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไปมาโดยตลอด อันเป็นแนวปฏิบัติที่ทิลเลอร์สัน ไม่น่าฉีกแนวออกไปมากนัก