เอเอฟพี – ไอเอ็มเอฟประกาศหั่นคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซน พร้อมวอนเร่งดำเนินการทางการเมืองอย่างเด็ดขาดเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เผยเมื่อวันพุธ (3) ว่าขณะนี้ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วมกัน ลงมาอยู่ที่ 1.3% ในปีนี้และ 1.9% ในปีหน้า จากการคาดการณ์เดิมก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งให้ไว้ที่ 1.6% และ 2.3% ในปี 2005 และ 2006 ตามลำดับ
คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟ ยังระบุในรายงานการทบทวนสภาพเศรษฐกิจประจำปีของกลุ่มยูโรโซนครั้งนี้ว่า ถ้าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็น่าจะเป็นเรื่อง “เหมาะสม” หากปรากฏหลักฐานบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังชะลอตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไอเอ็มเอฟย้ำในรายงานยาว 63 หน้าฉบับนี้ ว่า “การฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า” นั้น เป็นสาเหตุให้กลุ่มประเทศยูโรโซนขาดแรงกระตุ้นอันจำเป็น เพื่อให้กลับสามารถเติบโตได้ใหม่อย่างชัดเจนถนัดตา หรือลดอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงลงมาให้ได้
พร้อมชี้ว่า การที่ความเชื่อมั่นของภาคบริษัทและผู้บริโภคลดต่ำลงนั้น มีสาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากรัฐบาลยุโรปบางประเทศขาดความกระตือรือล้นที่จะปฏิรูปแก้ไข
“คณะกรรมการบริหารลงความเห็นว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม ซึ่งจะเอื้อให้เศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2005 ยังคงขยายตัวเพียงเล็กน้อย ทว่า ความเสี่ยงด้านต่างๆ ที่จะทำให้เกิดภาวะขาลงยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน”
“ด้วยเหตุนี้ ไอเอ็มเอฟจึงเรียกร้องให้กลุ่มยูโรโซน ติดตามนโยบายต่างๆ ซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้กับการปฏิรูปเชิงโครงสร้างและการปรับปรุงด้านการคลังอย่างต่อเนื่องและเด็ดขาด”
ไอเอ็มเอฟได้เคยพูดมานานแล้วว่า ชาติต่างๆ ในกลุ่มยูโรโซน อาทิ ฝรั่งเศสและเยอรมนี ควรผ่อนคลายความเข้มงวดกฎข้อบังคับด้านการจ้างงานและการปลดพนักงาน ตลอดจนควรลดบทบาทรัฐบาล และต้องขจัดปัญหาระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ หากต้องการไล่ให้ทันกับอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งไอเอ็มเอฟพยากรณ์ไว้อยู่ที่ 3.6% ในปีนี้ และ 3.5% ในปีหน้า
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เผยเมื่อวันพุธ (3) ว่าขณะนี้ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วมกัน ลงมาอยู่ที่ 1.3% ในปีนี้และ 1.9% ในปีหน้า จากการคาดการณ์เดิมก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งให้ไว้ที่ 1.6% และ 2.3% ในปี 2005 และ 2006 ตามลำดับ
คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟ ยังระบุในรายงานการทบทวนสภาพเศรษฐกิจประจำปีของกลุ่มยูโรโซนครั้งนี้ว่า ถ้าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็น่าจะเป็นเรื่อง “เหมาะสม” หากปรากฏหลักฐานบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังชะลอตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไอเอ็มเอฟย้ำในรายงานยาว 63 หน้าฉบับนี้ ว่า “การฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า” นั้น เป็นสาเหตุให้กลุ่มประเทศยูโรโซนขาดแรงกระตุ้นอันจำเป็น เพื่อให้กลับสามารถเติบโตได้ใหม่อย่างชัดเจนถนัดตา หรือลดอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงลงมาให้ได้
พร้อมชี้ว่า การที่ความเชื่อมั่นของภาคบริษัทและผู้บริโภคลดต่ำลงนั้น มีสาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากรัฐบาลยุโรปบางประเทศขาดความกระตือรือล้นที่จะปฏิรูปแก้ไข
“คณะกรรมการบริหารลงความเห็นว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม ซึ่งจะเอื้อให้เศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2005 ยังคงขยายตัวเพียงเล็กน้อย ทว่า ความเสี่ยงด้านต่างๆ ที่จะทำให้เกิดภาวะขาลงยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน”
“ด้วยเหตุนี้ ไอเอ็มเอฟจึงเรียกร้องให้กลุ่มยูโรโซน ติดตามนโยบายต่างๆ ซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้กับการปฏิรูปเชิงโครงสร้างและการปรับปรุงด้านการคลังอย่างต่อเนื่องและเด็ดขาด”
ไอเอ็มเอฟได้เคยพูดมานานแล้วว่า ชาติต่างๆ ในกลุ่มยูโรโซน อาทิ ฝรั่งเศสและเยอรมนี ควรผ่อนคลายความเข้มงวดกฎข้อบังคับด้านการจ้างงานและการปลดพนักงาน ตลอดจนควรลดบทบาทรัฐบาล และต้องขจัดปัญหาระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ หากต้องการไล่ให้ทันกับอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งไอเอ็มเอฟพยากรณ์ไว้อยู่ที่ 3.6% ในปีนี้ และ 3.5% ในปีหน้า