xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เข้าใจ เข้าไม่ถึง ไม่พัฒนา: ทักษิณกับอานันท์ (2)

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ผมเชื่อว่าความแตกต่างของสองนายกฯ ข้างนอกมีมากกว่าในทีวี ทักษิณพูดถึงกลไกและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ภายใต้เงื่อนเวลาและเงื่อนกฎหมาย อ้างถึงอำนาจในตัวหนังสือ บ่นว่า คนค้านทั้งที่ยังไม่ได้อ่าน อานันท์ มองกว้างออกไปกว่าตัวรัฐบาล และยาวไปถึงอดีตและอนาคตด้วย เช่นนี้ ผมเชื่อว่า ความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการสมานฉันท์กับรัฐบาลคงจะเป็นเพียงการประชาสัมพันธ์และการรักษามารยาทต่อกันเท่านั้น จะช่วยกันแก้ปัญหาอย่างจริงจังเห็นจะไม่ได้

ลืมเรียนว่า เมื่อ 19 เมษายน 2548 ผมเขียนเรื่อง เว็บไซต์ไฟลามทุ่ง เล่าถึงความน่าขนหัวลุกของเว็บไซต์มุสลิมแอนตี้อเมริกาและบริวาร ซึ่งเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วตั้งแต่เกิดสงครามอิรักคือเริ่มจากไม่ถึงสิบกลายเป็นแสน เรื่องนี้รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงจะขี้เกียจและมองข้ามมิได้

เรื่องนี้บังคับเราให้สำรวจปัจจัยภายนอกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยนอกโดดๆ ปัจจัยผสม หรือปัจจัยอันเกี่ยวโยงหรือเกิดจากการกระทำภายในของเราเอง

ผมนึกอยากเขียนเรื่อง “ใครจะเป็นรายต่อไป” หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดสยองในลอนดอน เป็นกรรมของผมอย่างหนึ่ง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งที่ลอนดอนและเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์แห่งละกว่าห้าปีทั้งคู่ ทำให้ผมเกิดความสลดหดหู่ และเลิกคิดเลือกเชื่อแบบง่ายๆว่าเมืองไทยของเรามีบุญเป็นพิเศษ ไม่มีวันจะเกิดเรื่องอย่างนี้ได้ ผมเคยเชื่อว่าทั้งลอนดอนและนิวยอร์ก มีความหลากหลายเชื้อชาติศาสนาเป็นองค์ประกอบพิเศษที่น่าจะเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดี ผมโง่จริงๆ

อะไรคือสาเหตุของการระเบิดในลอนดอน ความแค้นหรือคลุ้มคลั่งของมุสลิมหัวรุนแรง หรือเพราะอังกฤษตามก้นอเมริกันเข้าไปในอิรัก เรื่องนี้ยังสรุปไม่ได้

แต่ที่สรุปได้ไล่ๆกับการออกทีวี มี 2 เรื่อง ผมขอเล่าเพื่อเป็น การเจริญสติพวกเรา

เริ่มด้วยเรื่องที่Cherie Booth ภริยา นายกฯอังกฤษไปปาฐกถาที่กัวลาลัมเปอร์ เมื่อ 26 กรกฎาคมนี้ เธอเตือนว่าการตอบโต้ผู้ก่อวินาศกรรมจนเกินเหตุจะกระทบกระเทือนอุดมการณ์อันลึกซึ้งที่คนอังกฤษยึดถือ ( warned that an excessive response to the terrorist threat could undermine "our most deeply held values) เธอชื่นชมผู้พิพากษาคดี Belmarsh ที่ประกาศว่า รัฐบาลนั่นแหละเป็นภัยต่อเสรีภาพยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย (that the government was a bigger threat to liberty than terrorism) การที่รัฐบาลกักขังผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติ 11 คนไว้โดยไม่มีกำหนดเป็นการละเมิดพ.ร.บ.สิทธิมนุษยชน นายกรัฐมนตรีสามีเธอตำหนิว่าผู้พิพากษาเป็นเสียอย่างนี้ จะ ทำให้ปราบผู้ก่อการร้ายไม่ถนัด แต่ภริยาเขาย้อนว่า “รัฐบาล แม้แต่ในยามวิกฤติ ก็จำต้องปฏิบัติภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย การโต้ตอบใดๆที่ก้าวล่วงพื้นฐานนี้ ย่อมจะทำให้อังกฤษราคาถูกลงจนหมดสิทธิจะเรียกตัวเองว่าเป็นชาติอารยะได้ that governments, even during crises, must act within the law. Any response that undermined basic values "cheapens our right to call ourselves a civilised nation"

สื่ออังกฤษเลยมีเรื่องวิจารณ์กันเกรียวกราว คุณอานันท์คงยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้ แต่ที่คุณอานันท์เตือนนายกฯทักษิณกลับคล้ายกัน ก็ท่านเป็นนักเรียนกฎหมายอังกฤษเหมือนกับ Cherie Blair

อีกเรื่อง คือ IRA หรือกองทัพมหาชนรัฐไอร์แลนด์ในไอร์แลนด์เหนือของสหราชอาณาจักร ประกาศเมื่อ 28 กรกฎาคมนี้ ปลดกำลังอาวุธและเลิกใช้ความรุนแรงแยกดินแดนจากอังกฤษที่ต่อสู้มาร่วม 36 ปี ไอร์แลนด์เหนือนี้อยู่ติดกับสาธารณรัฐไอรแลนด์ ซึ่งแยกออกจากอังกฤษเมื่อปี 1921 หลังจากที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 บัดนี้ชาวไอรแลนด์เหนือซึ่งทั้งสู้รบกันเองระหว่างนิกายคาโธลิกกับโปรเตสแตนต์ และฝ่ายแรกสู้รบกับอังกฤษด้วย จะหันกลับมาใช้สันติวิธีและการต่อสู้ทางการเมืองแทน ทั้งนี้เพราะได้ประจักษ์และตระหนักแล้วว่า การสู้รบด้วยอาวุธแบบนี้ไม่มีวันแตกหัก จนโลกแตกก็ไม่มีใครแพ้ไม่มีใครชนะ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละจะเป็นผู้พ่ายแพ้ และความฉิบหายวายป่วงคือความเที่ยงแท้แน่นอนแต่อย่างเดียว

ภาคใต้ของเราเป็นคนไทยเชื้อสายมลายู ซึ่งคุณอานันท์พยายามบอกว่าไม่น่าจะต่างกับคนไทยเชื้อสายมอญอย่างใด ที่ต่างก็คือภาคใต้อยู่ติดมาเลเซีย เหมือนกับไอร์แลนด์เหนือติดกับสาธารณรัฐไอรแลนด์ ที่ผมว่าไม่ต่างก็คือผมเชื่อว่าทั้งรัฐบาลมาเลเซียและรัฐบาลไอรแลนด์ไม่ได้สนับสนุนการต่อสู้ด้วยกำลังทั้งคู่

ผมไม่ทราบว่าคู่ต่อสู้สามจังหวัดภาคใต้จะสำนึกในเรื่องอย่างนี้หรือไม่ หรือจะต่อสู้กันต่อไปจนเลือดท่วมท้องช้างเสียก่อน

จริงๆแล้ว ผมตั้งใจจะเขียนเรื่อง “ไม่เข้าใจ เข้าไม่ถึง ไม่ พัฒนา” และวิธีแก้ปัญหาด้วยหลักอโหสิกรรม และหลักกฎหมายธรรมชาติให้จบ ฉบับที่แล้วผมได้พูดถึงพล.ต.ท.ชูชาติ ทัศนเสถียร วุฒิสมาชิกปัตตานี วันนี้ไม่น่าเชื่อว่าผมเกือบจะเดินชนกับท่านในซูเปอร์มาร์เกต นั่งคุยกันเรื่องสามจังหวัดภาคใต้ต่อกว่าชั่วโมง

ผมถามว่า ไม่มีใครทาบทามท่านเป็นกรรมการสมานฉันท์บ้างหรือ ท่านไม่ตอบตรงๆ แต่บอกว่า “อย่างผมไม่รอดการวีโต้ของฝ่ายทหารหรอก” ผมนึกในใจว่า “ไม่จริง ก็ไหนนายกฯว่า ท่านอานันท์จะเลือกใครก็ได้ รัฐบาลยอมหมด”

ผมแปลกใจที่ท่านใช้คำว่าฝ่ายทหาร ก็ฝ่ายความมั่นคงเดี๋ยวนี้ตำรวจเป็นพระเอกมิใช่หรือ ท่านก็บอกว่า ตำรวจหรือทหารก็ไม่ต่างกัน ที่จะต่างก็คือเรื่องของใจ จะต้องตอบใจเสียก่อนว่า จะเลือกอย่างไหน ระหว่างการปกครอง และการปราบปราม

ถ้าเลือกการปราบปราม ด้วยความคิดแบบเดิมๆ ด้วยการกระทำอย่างเดิมๆ ด้วยระบบแบบเดิม ด้วยความเคยชินแบบเดิมๆ อีกร้อยชาติก็ปราบไม่หมด อีกร้อยชาติก็แก้ปัญหาไม่สำเร็จ แหละนี่ก็คือสิ่งที่รัฐบาลนี้กระทำอยู่

ท่านยกตัวอย่างเด็กมุสลิมถูกเกณฑ์ทหาร แทนที่จะให้เขาอยู่ในพื้นที่ กลับส่งเขาไปไกลลิบเพราะไม่ไว้ใจ เขาจะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่แต่ละทีก็แสนยาก ครั้นปลดมาแล้วแทนที่จะช่วยเหลือ กลับตั้งแง่อีก ว่าไอ้พวกนี้ไม่ใช่ธรรมดา ฝึกอาวุธมาแล้วทั้งนั้น อย่างนี้จะชนะใจเขาได้หรือ

อย่างหมอ(ท่านเอ่ยชื่อ)ก็เหมือนกัน แทนที่จะไปจับแกว่ารักษาผู้ก่อการร้าย น่าจะขนยาและเวชภัณฑ์ไปให้เยอะๆ แล้วบอกว่า เอ้ารักษาเข้าไป เราเป็นหมออย่าเลือกคนไข้ แต่ถ้าเป็นพวกนั้น ก็ช่วยเตือนๆให้เขากลับใจด้วยนะ เรื่องโรงเรียนเด็ก 300 คนแทนที่จะตั้งแง่ ปล่อยให้เขาอดอยาก น่าที่จะนำมาถวายเข้าโครงการอาหารกลางวันของสมเด็จพระเทพฯ อย่างนี้เป็นต้น แล้วทำไมไม่ทำ

ที่นายกฯอานันท์ว่าหายไปเป็นร้อย เป็นไปได้หรือ ท่านบอกว่าน้อยไปสิ เอะอะก็อ้างว่าหนีเข้ามาเลเซียหมด ที่หนีไปจริงๆก็คงมีบ้าง แต่ที่ไม่หนีแต่หายไปนี่แหละ มีทั้งอุ้ม มีทั้งนั่งเรียง มีทั้งหนีกระเซอะกระเซิง แต่ตายเหมือนกันหมด ไม่เลือกว่าคนไหนชั่ว คนไหนดี ทั้งนี้เพราะไม่เข้าใจ เข้าไม่ถึง มีแต่เข้าใจว่า เข้าใจว่า เขาเป็นอย่างนั้น ก็เมื่อเราเข้าไม่ถึงจะเข้าใจได้อย่างไร ก็ได้แต่เข้าใจว่า เข้าใจว่าอย่างนี้พัฒนา เขาใจว่าอย่างนี้เขาชอบ พอเขาไม่ชอบเราก็ขัดใจ สงสัยตะพึดไปหมด

พอสงสัยก็เข้าไปบุก เข้าไปจี้ เข้าไปค้น เข้าไปขู่ ครั้งที่หนึ่งก็ไม่พอ ครั้งที่ 2 ก็ไม่หยุด ครั้งที่ 3 ก็ไม่เลิก ครบ 4 ครั้งยังบอกจะเอาอีก มนุษย์ธรรมดาที่ไหนจะทนไหว ใครบ้างจะไม่กลัว ใครบ้างจะไม่หนี พอเขาหนี ก็บอกว่า อ้าว เห็นไหม ใช่แล้ว คนบริสุทธิ์หนีทำไม

เรื่องตากใบ เสียดายว่า นายกฯทักษิณน่าจะสั่งให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เขาจะได้เห็นว่ารัฐบาลจริงใจ ไม่ขยิบตาหรือเข้าข้างทหาร ส่วนศาลจะจะรอลงอาญาหรือตัดสินหนักหนาอย่างไรก็เป็นเรื่องของศาล ชาวบ้านเขารู้อยู่แล้วว่าศาลไม่ใช่รัฐบาล นี่เขาเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ยุติธรรม รัฐบาลเข้าข้างคนผิด รู้ชื่อ รู้จำนวนอยู่แล้ว ทั้งหมด แต่ไม่รู้หรอกว่า คนที่ถูกขนไปตายใครถูกใครผิด และผิดอย่างไร หรือ ถูกกฎหมายฉบับไหนที่จับเขามัดโยนกองกันเหมือนหมูหมา เอากระสอบคลุมหัวไม่ให้หายใจ เสียงที่ร้องอ้อนวอนโอดโอยก็ไม่ยอมฟัง ถ้าเป็นลูกหลานเราบ้างจะนึกอย่างไร ฯลฯ

ผมถามว่าท่านคลุกคลีอยู่ในจังหวัดเหล่านี้ ไม่มีบ้างหรือที่ท่านรู้สึกเหลืออด ต้องปราบ ท่านหัวเราะแล้วบอกว่าตำรวจอย่างเราเป็นนักปกครอง ไม่ได้สาบานตนว่าจะมาปราบหรือไม่มาปราบ แต่คนชั่ว คนไม่ดี คนมีแต่สร้างปัญหา คนติดยา ลักเล็กขโมยน้อย ฉุดคร่าข่มขืน และคนที่สมควรตายมันก็มีทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าที่ไหน แต่มันเป็นเช่นนั้น เพราะว่ามันเป็นคน ไม่ใช่เพราะเป็นมุสลิม (หรือเป็นพุทธ) เราจะต้องรู้จักแยกแยะ และรู้จักวิธีจัดการ

มีอยู่รายหนึ่งฉุดครูขึ้นเขา เราตามอย่างไรก็ไม่เจอ เราก็ต้องเฝ้ามันทุกจุดนั่นแหละให้มันรู้ไปว่ามึงจะไม่ลงมา แล้วก็ไปบอกพ่อแม่มันว่ารู้ไหม ลูกไปทำอะไร พอมันลงมาก็จัดการเอาตัวไปเลย เปล่านะครับ ไม่ได้เอาไปยิงทิ้งหรือเอาไปโรงพัก แต่เอาไปมัสยิด แล้วไปเรียกพ่อแม่มา มาฟังซิว่า ลูกมันจะว่าอย่างไร ครูผู้หญิงคนนั้นจะว่าอย่างไร บอกว่าเอาละเรื่องเป็นอย่างนี้ เราให้โอกาส ถ้ามันจะหนีอีก คราวนี้เสี่ยงนะ แต่ถ้ามอบตัวก็ขึ้นศาล หรือว่าพวกเขาจะให้ทำอย่างไร เราอยากฟังความเห็นเขา เราอยากให้เขาช่วยตัดสิน เพราะเขารู้จักลูกหลานเขาดีกว่าเรา

เรื่องทำนองนี้มีนับไม่ถ้วน และผมก็ไม่เคยจะต้องลงมือเอง พ่อแม่ของเขาซึ่งเป็นมุสลิมที่ดี กลับมาบอกเราเองว่า เอาไว้ไม่ไหวแล้วครับ เจ้านายช่วยด้วย ไอ้นี่ “คอ ออ มอ ปาแย-คอ ดอ ซอ บาเยาะ” แปลว่า “ ยิ่งอยู่นาน ยิ่งบาปมาก” ส่งมันไปหาพระเจ้าเสียเถอะ

“พ่อแม่เหล่านี้พากันมากราบไหว้ผม และมาลงคะแนนเสียงให้ผมเมื่อผมสมัครวุฒิสมาชิก”

“เชื่อไหม ทั้งๆที่ผมเป็นวุฒิสมาชิก เขายังรายงานว่าผมฝักใฝ่ขบวนการแยกดินแดน หาว่าผมนุ่งโสร่งไปเล่นตะกร้อเชิงเขา แอบไปถ่ายรูปมาด้วย ก็จริงนะครับผมไปเล่นจริงๆ แต่ถามหน่อยเถอะ ผมจะได้อะไรถ้าแยกดินแดน เขาจะตั้งผมเป็นสุลต่านไหม ใครๆเขาก็รู้ว่าผมเป็นพุทธ”

ท่านนายกฯและท่านอานันท์ อยากฟังบ้างไหม อะไรอีกหลายอย่างที่พล.ต.ท.ชูชาติยังไม่ได้เล่า
กำลังโหลดความคิดเห็น