สมศักดิ์ สั่งเปลี่ยนด่วนจากการตั้งสมาคมส่งเสริมการคุ้มครองนักท่องเที่ยว มาเป็นการตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว หลังทราบข้อมูลการตั้งสมาคมต้องใช้เวลานาน หวั่นไม่ทันร้องรับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น โดยเฉพาะตลาดจีน ชี้ต้องการการทำงานที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง พร้อมแจกซิมการ์ดนักท่องเที่ยวใช้โทรแจ้งเหตุ ขณะที่ทุนจัดตั้ง และงบ ดำเนินการยังเท่าเดิม
นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะทำงานปรับปรุง และแก้ไขในการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ล่าสุด ได้ปรับเปลี่ยนการจัดตั้งสมาคมส่งเสริมการคุ้มครองนักท่องเที่ยว มาเป็นการตั้งเป็น ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ดำเนินการโดยภาครัฐ ทั้งนี้เพราะขั้นตอนในการจัดตั้งสมาคม จะใช้เวลานาน ทำให้ ไม่ทันต่อการแก้ไขปัญหาทัวร์จีน และจัดเตรียมความพร้อมให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ( High Season)ที่จะมาถึงในปลายปีนี้
“การดำเนินการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับทราบข้อมูลและเหตุผลแล้ว จังมีคำสั่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ 52/2548 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานปรับปรุงและแก้ไขในการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากจีน โดยให้ผม เป็นประธานคณะทำงานในการจัดตั้งศูนย์การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของภาครัฐ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คล่องตัว และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ในรายละเอียดศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวดังกล่าว เดิมตั้งอยู่ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และได้ย้ายการดำเนินงานมาที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน อีกทั้งลดอุปสรรคในการทำงานต่างๆ ที่ไม่ทันสถานการณ์ให้มีการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที โดยมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์ จะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ลักษณะงานและความรับผิดชอบ คือ จะเป็นศูนย์รับข้อร้องเรียน (Call Center) ตลอด 24 ชั่วโมง มีซิมการ์ดโทรศัพท์บริการให้นักท่องเที่ยว เพื่อสามารถใช้ติดต่อกับศูนย์ได้ทันทีหากเกิดปัญหา โดยมีเจ้าหน้าที่ ที่สามารถพูดภาษาจีนได้ไว้คอยให้บริการ มีแบบฟอร์มและการเก็บข้อมูลนักท่องเที่ยว ตลอดจน มีการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนและการหลอกลวงต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางด้านเงินทุนจัดตั้ง จะใช้เงินงบประมาณอุดหนุนที่มีอยู่แล้วจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นวงเงินเดียวกับที่อนุมัติไปแล้วในการจัดตั้งสมาคม คือในปีแรกระหว่าง เดือน สิงหาคม-ตุลาคม 2548 จำนวน 3.5 ล้านบาท และ ในปีต่อๆ ไปจะมีเงินงบประมาณปีละ 5 ล้านบาท สนับสนุนการทำงานของศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะสามารถสนองนโยบายของรัฐในการแก้ปัญหาทัวร์จีนและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวจีนที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย อย่างมีประสิทธิภาพ
นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะทำงานปรับปรุง และแก้ไขในการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ล่าสุด ได้ปรับเปลี่ยนการจัดตั้งสมาคมส่งเสริมการคุ้มครองนักท่องเที่ยว มาเป็นการตั้งเป็น ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ดำเนินการโดยภาครัฐ ทั้งนี้เพราะขั้นตอนในการจัดตั้งสมาคม จะใช้เวลานาน ทำให้ ไม่ทันต่อการแก้ไขปัญหาทัวร์จีน และจัดเตรียมความพร้อมให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ( High Season)ที่จะมาถึงในปลายปีนี้
“การดำเนินการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับทราบข้อมูลและเหตุผลแล้ว จังมีคำสั่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ 52/2548 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานปรับปรุงและแก้ไขในการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากจีน โดยให้ผม เป็นประธานคณะทำงานในการจัดตั้งศูนย์การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของภาครัฐ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คล่องตัว และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ในรายละเอียดศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวดังกล่าว เดิมตั้งอยู่ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และได้ย้ายการดำเนินงานมาที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน อีกทั้งลดอุปสรรคในการทำงานต่างๆ ที่ไม่ทันสถานการณ์ให้มีการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที โดยมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์ จะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ลักษณะงานและความรับผิดชอบ คือ จะเป็นศูนย์รับข้อร้องเรียน (Call Center) ตลอด 24 ชั่วโมง มีซิมการ์ดโทรศัพท์บริการให้นักท่องเที่ยว เพื่อสามารถใช้ติดต่อกับศูนย์ได้ทันทีหากเกิดปัญหา โดยมีเจ้าหน้าที่ ที่สามารถพูดภาษาจีนได้ไว้คอยให้บริการ มีแบบฟอร์มและการเก็บข้อมูลนักท่องเที่ยว ตลอดจน มีการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนและการหลอกลวงต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางด้านเงินทุนจัดตั้ง จะใช้เงินงบประมาณอุดหนุนที่มีอยู่แล้วจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นวงเงินเดียวกับที่อนุมัติไปแล้วในการจัดตั้งสมาคม คือในปีแรกระหว่าง เดือน สิงหาคม-ตุลาคม 2548 จำนวน 3.5 ล้านบาท และ ในปีต่อๆ ไปจะมีเงินงบประมาณปีละ 5 ล้านบาท สนับสนุนการทำงานของศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะสามารถสนองนโยบายของรัฐในการแก้ปัญหาทัวร์จีนและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวจีนที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย อย่างมีประสิทธิภาพ