xs
xsm
sm
md
lg

ยูนนาน มลฑลแห่งทรัพยากรของจีนที่น่าลงทุน

เผยแพร่:   โดย: พิชิต เดชนีรนาท


จีนสามารถเชื่อมโยงกับภูมิภาคอินโดจีนและเอเซียใต้ได้โดยผ่านทางมณฑลยูนนาน และได้ใช้มลฑลนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ยูนนานเป็นมลฑลที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีพื้นที่ประมาณ 394,000 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 4.1 ของประเทศจีน พื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 94 เป็นภูเขาและที่ราบสูง ทางตะวันตกติดชายแดนพม่า ทางใต้และบางส่วนของตะวันออกติดลาวและเวียดนาม

ยูนนานจึงเป็นมลฑลที่สามารถติดต่อกับทางเหนือของประเทศไทยได้โดยผ่านทางลาวหรือพม่า ดังนั้นเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างจีนและไทยจะขยายตัวอย่างมาก โดยการพัฒนาเชื่อมโยงเส้นทางเหล่านี้

ตลาดยูนนานนับว่ามีขนาดใหญ่พอสมควร ในปี 2547 มีประชากรประมาณ 44.15 ล้านคน มากเป็นอันดับ 3 ของจีน ส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น ด้านสังคมและวัฒนธรรมมีความหลากหลายเนื่องจากเป็นมลฑลที่ประกอบไปด้วยชนชาติมากที่สุดถึง 26 ชนชาติจาก 56 ชนชาติของจีน และมีเมืองคุนหมิงเป็นเมืองหลวง มีพื้นที่ 21,018 ตารางกิโลเมตรซึ่งใหญ่กว่ากรุงเทพฯ เกือบ 20 เท่า มีประชากร 5.78 ล้านคน

คุนหมิงเป็นเมืองเก่าที่มีการจัดการใหม่ มีการวางผังเมืองที่ดี มีสวนสาธารณะให้ประชาชนได้พักผ่อน มีถนนคนเดินที่รายล้อมไปด้วยร้านค้าเล็ก-ใหญ่จนถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ชื่อดังของต่างชาติ คนสูงอายุมักจะใช้เวลาพักผ่อนโดยการร้องรำทำเพลงกันเป็นกลุ่มอย่างสนุกสนานที่สวนสาธารณะ เช่น ที่ Green Lake แสดงให้เห็นสังคมของชาวเมืองที่มีความสุข สงบ มีการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ด้านทรัพยากรธรรมชาติยูนนานมีความอุดมสมบูรณ์มากเป็นอันดับ 6 ของจีน จึงได้ฉายาว่าเป็นอาณาจักรแห่งพืช สัตว์ โลหะ เป็นแหล่งดอกไม้ สมุนไพรยา และศูนย์รวมพันธุกรรมชีวภาพ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยทรัพยากรแร่ธาตุจำนวนมากติดอันดับต้นๆของจีน เช่น แร่โลหะที่ไม่เป็นสนิม ฟอสฟอรัส ตะกั่ว สังกะสี จึงคาดกันว่าในอนาคตยูนนานจะเป็นแหล่งพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอีกซีกหนึ่งของจีน

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตพลังงานจากน้ำได้สูงถึง 97 ล้านกิโลวัตต์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 20 ของการผลิตของประเทศ และเป็นอันดับ 2 รองจากมลฑลเสฉวน ยูนนานมีลักษณะพิเศษ คือ มีแม่น้ำไหลขนานกัน 3 สาย จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกที่มีความหลากหลายได้แก่ ป่าหิน ทะเลสาบในคุนหมิง ภูเขามังกรหยก น้ำพุร้อน เป็นต้น

ได้มีการพัฒนาการเดินทางทั้งทางรถไฟ ทางรถยนต์ ทางน้ำ และทางอากาศไปแล้วอย่างมาก ในแต่ละปีมีการขนส่งสินค้าทางรถไฟมากกว่า 50 ล้านตันและขนส่งผู้โดยสาร 15 ล้านคน ทางถนนขนส่งสินค้ากว่า 540 ล้านตัน และขนส่งผู้โดยสารกว่า 370 ล้านคน ทางอากาศขนสินค้ากว่า 70,000 ตันและผู้โดยสารกว่า 4.64 ล้านคน ส่วนทางน้ำขนสินค้ารวม 2.21 ล้านตันและผู้โดยสาร 4.12 ล้านคน การเดินทางทางรถยนต์จึงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจยูนนาน การเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอินโดจีน ได้แก่ พม่า อินเดีย บังคลาเทศ และไทยก็มีความสะดวก าใช้เวลาเพียง 1-2 วันเท่านั้น เพระมีระยะทางแค่ 2,000 กิโลเมตร และถนนหนทางก็มีสภาพที่ดี

หลังจากที่จีนได้เปิดประเทศสู่โลกภายนอก ทำให้ยูนนานมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 9% ต่อปี ประชากรมีความเป็นอยู่สงบสุขและกลมเกลียว ภาครัฐได้สนับสนุนให้เอกชนมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจ ในปี2547มีการจดทะเบียนบริษัทเอกชนคิดเป็นมูลค่า 132 พันล้านหยวนและก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม 102 พันล้านหยวน ภาคเอกชนมีส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด(Provincial GDP)สูงถึงร้อยละ 34 โดยภาคการผลิตได้เริ่มให้ความสำคัญในการแปรรูป การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการใช้วิทยาศาสตร์มากขึ้น ยูนนานมีชื่อเสียงในการผลิตผลิตภัณฑ์หลายประเภท และมีแบรนด์ของตนเองในด้านอุตสาหกรรมการผลิตบุหรี่และเภสัชจากชีวภาพในระดับชาติและระดับโลก

อุตสาหกรรมหลักของยูนนาน คือ ยาสูบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพ การท่องเที่ยว เหมืองแร่ และการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ ในอนาคตยูนนานจะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในด้าน ยาสูบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพ อุตสาหกรรมเคมีฟอสฟอรัส เหล็กไร้สนิม และจะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าส่งจากภาคตะวันตกไปภาคตะวันออกของจีน รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโลก

กลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรมของยูนนานนั้น ได้มีการวางแผนพัฒนา 10 อุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมยาสูบ พลังงาน เภสัช โลหะ ข่าวสาร วัสดุก่อสร้าง เคมี เครื่องจักรกล แปรรูปเกษตร และอุตสาหกรรมกระดาษ นอกจากนั้นจะก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม 33 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมต่างๆ

ด้านอุตสาหกรรมการเกษตรก็มีโครงการพัฒนาสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพโดยมีเป้าหมายเน้นด้านคุณภาพ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับสินค้า สินค้าเกษตรเป้าหมาย 18 รายการ เช่น ใบยาสูบ ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ มันฝรั่ง ผักปลอดสาร ผลิตภัณฑ์ยา ดอกไม้ ชา ยางพารา ผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากป่า เป็นต้น

ยูนนานจะเป็นประตูเชื่อมโยงจีนกับประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเซียใต้ที่มีศักยภาพอย่างยิ่ง ในปี 2547 ยูนนานมีการค้ากับต่างประเทศมูลค่า 3.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 40 โดยเป็นการส่งออกมูลค่า 2.24 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และการนำเข้ามีมูลค่า 1.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

การค้าชายแดนของยูนนานนับวันจะมีความสำคัญมากขึ้นต่อการค้าระหว่างประเทศ ในปี 2547 การค้าบริเวณชายแดนมีมูลค่า 524 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการส่งออก 309 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำเข้า 215 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นการค้าบริเวณชายแดนพม่ามูลค่ากว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และบริเวณชายแดนเวียดนามมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับการลงทุนในปี 2547 มีมูลค่า 16.46 พันล้านหยวน ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนของนักลงทุนจีนจากภูมิภาคอื่น 15.23 พันล้านหยวน และเป็นการลงทุนจากต่างประเทศ 170 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนตามสัญญา 365 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นการลงทุนจริง 158 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี การลงทุนจากต่างประเทศก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของยูนนาน
นักธุรกิจไทยมีความสนใจลงทุนในยูนนาน ตั้งแต่ปี 2500 ถึง 2546 จำนวน 126 โครงการ มูลค่าการลงทุน 167 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสาขาไฟฟ้า ก่อสร้าง อัญมณี บริการ เป็นต้น

ยูนนานมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอีก 5 ประเทศ โดยแม่น้ำโขงมีจุดเริ่มต้นมาจากทิเบตผ่านยูนนาน ส่วนที่อยู่ในจีนเรียกว่าแม่น้ำหลานซาง (Lancang) ส่วนที่อยู่นอกจีนเรียกว่า แม่น้ำโขง (Mekong) ซึ่งไหลผ่านพม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ความยาวทั้งหมด 4,880 กิโลเมตร ในจำนวนนี้อยู่ในจีน 2,130 กิโลเมตร ประเทศในอนุภูมิภาคนี้มีพื้นที่รวมประมาณ 2.33 ล้านตารางกิโลเมตร และมีประชากรมากถึง 255 ล้านคน

รัฐบาลของมณฑลยูนนานพยายามเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน โดยออกกฎระเบียบและแนวปฏิบัติเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุน มีการจัดตั้งศูนย์บริการลงทุนจากภายนอกเพื่อให้บริการแก่นักลงทุน และได้จัดหน่วยรับฟังข้อร้องเรียนของนักลงทุนและให้คำปรึกษา สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลยูนนานมีความตั้งใจที่จะพัฒนายูนนานให้เป็นที่ดึงดูดด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง

ดังนั้น นักธุรกิจไทยที่มีความพร้อมอยากไปลงทุนในต่างประเทศ มณฑลยูนนานนับเป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีศักยภาพในการเข้าไปลงทุนด้านอุตสาหกรรมต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น