ผู้จัดการรายวัน-“ทนง”เสนอโครงสร้างกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมให้ “ทักษิณ”พิจารณาสัปดาห์หน้า คาดบังคับใช้ต.ค.นี้เป็นต้นไป คุณหญิงหน่อยระบุ 30 ก.ค.ได้ข้อสรุปโครงสร้างกระทรวงใหม่
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ได้เห็นชอบการจัดทำโครงสร้างการควบรวมกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าด้วยแล้ว คาดว่าจะนำเสนอต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า และโครงสร้างกระทรวงใหม่จะมีผลบังคับอย่างเป็นทางการในเดือนต.ค.2548 นี้ ภายใต้ชื่อใหม่ว่ากระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม
โดยโครงสร้างใหม่ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนแรก ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานนโยบายพาณิชย์และอุตสาหกรรม ส่วนที่ 2 ได้แก่ สำนักงานอัญมณี สำนักงานยานยนต์ สำนักงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ สำนักงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานเหล็กและเหล็กกล้า และส่วนที่ 3 จะมีการแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่มภารกิจด้านศักยภาพการประกอบธุรกิจ ประกอบด้วย กรมพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ศูนย์กระจายสินค้า และอีก 3 สถาบันเฉพาะทาง ได้แก่ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม สถาบันเพิ่มผลผลิต สถาบันไทย-เยอรมัน 2.กลุ่มภารกิจด้านมาตรฐาน ประกอบด้วย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ สำนักงานมาตรฐานสถานประกอบการ สำนักงานมาตรฐานการประกอบธุรกิจ และ 1 สถาบันเฉพาะทาง คือสถาบันรับรองมาตรฐานไอ เอส โอ 3.กลุ่มภารกิจด้านส่งเสริม การค้าและการลงทุน ประกอบด้วย สำนักงานสิทธิประโยชน์การลงทุน สำนักงานการส่งออกและการลงทุน ซึ่งจะมีสำนักงานในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) การนิคมอุตสาหกรรม (รสก.) 4.กลุ่มภารกิจด้านผลประโยชน์การค้าและการประกอบธุรกิจ ประกอบด้วย กรมบริหารการค้าและการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ในส่วนศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ยังคงเป็นหน่วยงานอิสระ ซึ่งโครงสร้างจะมีฐานะเทียบเท่ากรม 12 กรม 5 สำนักงาน 1 องค์กรอิสระ
ส่วนอำนาจหน้าที่ในส่วนแรกจะเป็นผู้กำกับดูแลและวางนโยบาย ส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เดิมการทำงานจะมุ่งเฉพาะด้าน เน้นดูแลอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำเป็นหลัก แต่หน่วยงานใหม่จะดูตั้งแต่ต้นน้ำมาถึงปลายน้ำและการทำตลาดในต่างประเทศ ส่วนที่ 3 จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ที่กำหนดขึ้น ขณะที่ในส่วนของกำลังพลกำลังอยู่ในการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
ทางด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างกระทรวงเกษตรฯ จะทำให้เสร็จก่อนวันที่ 30 ก.ค.นี้ โดยจะปรับระบบการทำงาน ทั้งการจัดวางคน และปรับภารกิจของหน่วยงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับภารกิจให้มากขึ้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ได้เห็นชอบการจัดทำโครงสร้างการควบรวมกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าด้วยแล้ว คาดว่าจะนำเสนอต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า และโครงสร้างกระทรวงใหม่จะมีผลบังคับอย่างเป็นทางการในเดือนต.ค.2548 นี้ ภายใต้ชื่อใหม่ว่ากระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม
โดยโครงสร้างใหม่ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนแรก ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานนโยบายพาณิชย์และอุตสาหกรรม ส่วนที่ 2 ได้แก่ สำนักงานอัญมณี สำนักงานยานยนต์ สำนักงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ สำนักงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานเหล็กและเหล็กกล้า และส่วนที่ 3 จะมีการแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่มภารกิจด้านศักยภาพการประกอบธุรกิจ ประกอบด้วย กรมพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ศูนย์กระจายสินค้า และอีก 3 สถาบันเฉพาะทาง ได้แก่ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม สถาบันเพิ่มผลผลิต สถาบันไทย-เยอรมัน 2.กลุ่มภารกิจด้านมาตรฐาน ประกอบด้วย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ สำนักงานมาตรฐานสถานประกอบการ สำนักงานมาตรฐานการประกอบธุรกิจ และ 1 สถาบันเฉพาะทาง คือสถาบันรับรองมาตรฐานไอ เอส โอ 3.กลุ่มภารกิจด้านส่งเสริม การค้าและการลงทุน ประกอบด้วย สำนักงานสิทธิประโยชน์การลงทุน สำนักงานการส่งออกและการลงทุน ซึ่งจะมีสำนักงานในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) การนิคมอุตสาหกรรม (รสก.) 4.กลุ่มภารกิจด้านผลประโยชน์การค้าและการประกอบธุรกิจ ประกอบด้วย กรมบริหารการค้าและการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ในส่วนศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ยังคงเป็นหน่วยงานอิสระ ซึ่งโครงสร้างจะมีฐานะเทียบเท่ากรม 12 กรม 5 สำนักงาน 1 องค์กรอิสระ
ส่วนอำนาจหน้าที่ในส่วนแรกจะเป็นผู้กำกับดูแลและวางนโยบาย ส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เดิมการทำงานจะมุ่งเฉพาะด้าน เน้นดูแลอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำเป็นหลัก แต่หน่วยงานใหม่จะดูตั้งแต่ต้นน้ำมาถึงปลายน้ำและการทำตลาดในต่างประเทศ ส่วนที่ 3 จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ที่กำหนดขึ้น ขณะที่ในส่วนของกำลังพลกำลังอยู่ในการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
ทางด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างกระทรวงเกษตรฯ จะทำให้เสร็จก่อนวันที่ 30 ก.ค.นี้ โดยจะปรับระบบการทำงาน ทั้งการจัดวางคน และปรับภารกิจของหน่วยงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับภารกิจให้มากขึ้น