ผู้จัดการรายวัน - เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 2 อุดรธานี คึกคัก คาดมีผู้ใช้สิทธิ 60 % “จารุภัทร” พอใจการหาเสียงสร้างสรรค์ไม่มีการโจมตีกัน เชื่อไม่มีเลือกตั้งรอบ 2 ด้าน กกต.อุดรธานี มั่นใจประชาชนไม่สับสนเรื่องใช้ตรายางในการใช้สิทธิเลือกตั้ง คาดเริ่มนับคะแนน 20.00 น. รู้ผล 03.00 น. วันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานได้เดินทางไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งซ่อมเขต 2 จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมี น.ส.ธิรดา สนิทวงศ์ชัย ผู้สมัคร หมายเลข 1 พรรคไทยรักไทย และนาย นายองอาจ วิเศษ ผู้สมัครหมายเลข 3 จากพรรคมหาชน ลงแข่งขัน ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 8 โรงเรียนบ้านหนองขาม ต.หนองบัว อ.เมือง พร้อมให้สัมภาษณ์แสดงความพอใจ ภาพรวมการเตรียมการเลือกตั้งและการหาเสียงที่ผ่านมา ว่า ผู้สมัครของทั้งพรรคไทยรักไทยและพรรคมหาชนต่างหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีการโจมตีและไม่พบรายงานเรื่องทุจริต
“ผมถาม กกต.จังหวัด และไปดูพื้นที่แล้ว คะแนนของประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะการหาเสียงทั้งสองพรรคเรียบร้อยดี ไม่น่าจะมีการเลือกตั้งรอบสอง เพราะต่างคนต่างก็ใช้นโยบายชี้แจงกับประชาชน เรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงก็ไม่มีเลย ได้รับรายงานว่าเรียบร้อยดีมาก”
ส่วนกรณีการใช้ตรายางปั๊มแทนปากกาลงคะแนน นั้น พล.อ.จารุภัทร กล่าวว่า กกต.อุดรธานี ได้แก้ปัญหา ด้วยการตอกหมุดที่บริเวณด้ามจับของตรายางแล้ว นำไปผูกเชือกกับคูหาเลือกตั้ง ทำให้เกิดความชัดเจนว่า บริเวณใดเป็นด้ามจับบริเวณใดเป็นตรายาง จึงเชื่อว่า จำนวนบัตรเสียจะลดลง
นายบุญลือ เชื้อหอม ประธาน กกต. จังหวัดอุดรธานี กล่าวภายหลังปิดหีบบัตรเลือกตั้งเกี่ยวกับภาพรวมของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.อุดรธานี เขต 2 ว่า จากการตรวจสอบแต่ละหน่วยมีประชาชนมาใช้สิทธิอย่างน้อย 50 % และมีบางหน่วย ที่มีผู้ใช้สิทธิถึง 70 % จึงคาดว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้คือ ประมาณ 60 %
ทั้งนี้ ตลอดการลงคะแนนไม่มีการร้องเรียนหรือบ่งชี้ว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งชี้นำ หรือเข้าข้างผู้สมัครคนหนึ่งคนใด ส่วนการให้ผู้มาใช้สิทธิ ได้ทดลองใช้ตรายางประทับตราแทนการใช้ปากกาก่อนเข้าคูหาเลือกตั้งนั้น ถือว่า ได้ผลดี เพราะทำให้ประชาชนมีความเข้าใจการใช้ตรายางมากขึ้น
“ระหว่างที่มีการลงคะแนนไม่มีรายงานเรื่องการทุจริตเกิดขึ้นเลย ส่วนที่ผู้สมัครได้ประสานมาที่ กกต. เพราะมีความกังวลเรื่องการซื้อเสียงนั้น จากการที่ได้ส่ง เจ้าหน้าที่ ออกไปในคืนวันหมาหอน ก็ไม่พบว่ามีการซื้อเสียง ส่วนการนับคะแนนคาดว่าจะเริ่มได้ในเวลาประมาณ 20.00 น. ถ้าไม่มีปัญหาคาดว่า เวลา 03.00 น. จะรู้ผลการเลือกตั้งได้ โดยจะใช้กระดานในการนับคะแนน 20 กระดาน ถ้าผู้มาใช้สิทธิ 60 % ตามเป้าที่ตั้งไว้ 20 กระดาน ก็น่าจะเพียงพอ ซึ่งก็ได้ชี้แจง ให้กรรมการนับคะแนนทราบถึงวิธีการนับและการวินิจฉัยบัตรแล้ว เชื่อว่าจะทำให้การนับคะแนนทำได้รวดเร็วขึ้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานได้เดินทางไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งซ่อมเขต 2 จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมี น.ส.ธิรดา สนิทวงศ์ชัย ผู้สมัคร หมายเลข 1 พรรคไทยรักไทย และนาย นายองอาจ วิเศษ ผู้สมัครหมายเลข 3 จากพรรคมหาชน ลงแข่งขัน ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 8 โรงเรียนบ้านหนองขาม ต.หนองบัว อ.เมือง พร้อมให้สัมภาษณ์แสดงความพอใจ ภาพรวมการเตรียมการเลือกตั้งและการหาเสียงที่ผ่านมา ว่า ผู้สมัครของทั้งพรรคไทยรักไทยและพรรคมหาชนต่างหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีการโจมตีและไม่พบรายงานเรื่องทุจริต
“ผมถาม กกต.จังหวัด และไปดูพื้นที่แล้ว คะแนนของประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะการหาเสียงทั้งสองพรรคเรียบร้อยดี ไม่น่าจะมีการเลือกตั้งรอบสอง เพราะต่างคนต่างก็ใช้นโยบายชี้แจงกับประชาชน เรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงก็ไม่มีเลย ได้รับรายงานว่าเรียบร้อยดีมาก”
ส่วนกรณีการใช้ตรายางปั๊มแทนปากกาลงคะแนน นั้น พล.อ.จารุภัทร กล่าวว่า กกต.อุดรธานี ได้แก้ปัญหา ด้วยการตอกหมุดที่บริเวณด้ามจับของตรายางแล้ว นำไปผูกเชือกกับคูหาเลือกตั้ง ทำให้เกิดความชัดเจนว่า บริเวณใดเป็นด้ามจับบริเวณใดเป็นตรายาง จึงเชื่อว่า จำนวนบัตรเสียจะลดลง
นายบุญลือ เชื้อหอม ประธาน กกต. จังหวัดอุดรธานี กล่าวภายหลังปิดหีบบัตรเลือกตั้งเกี่ยวกับภาพรวมของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.อุดรธานี เขต 2 ว่า จากการตรวจสอบแต่ละหน่วยมีประชาชนมาใช้สิทธิอย่างน้อย 50 % และมีบางหน่วย ที่มีผู้ใช้สิทธิถึง 70 % จึงคาดว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้คือ ประมาณ 60 %
ทั้งนี้ ตลอดการลงคะแนนไม่มีการร้องเรียนหรือบ่งชี้ว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งชี้นำ หรือเข้าข้างผู้สมัครคนหนึ่งคนใด ส่วนการให้ผู้มาใช้สิทธิ ได้ทดลองใช้ตรายางประทับตราแทนการใช้ปากกาก่อนเข้าคูหาเลือกตั้งนั้น ถือว่า ได้ผลดี เพราะทำให้ประชาชนมีความเข้าใจการใช้ตรายางมากขึ้น
“ระหว่างที่มีการลงคะแนนไม่มีรายงานเรื่องการทุจริตเกิดขึ้นเลย ส่วนที่ผู้สมัครได้ประสานมาที่ กกต. เพราะมีความกังวลเรื่องการซื้อเสียงนั้น จากการที่ได้ส่ง เจ้าหน้าที่ ออกไปในคืนวันหมาหอน ก็ไม่พบว่ามีการซื้อเสียง ส่วนการนับคะแนนคาดว่าจะเริ่มได้ในเวลาประมาณ 20.00 น. ถ้าไม่มีปัญหาคาดว่า เวลา 03.00 น. จะรู้ผลการเลือกตั้งได้ โดยจะใช้กระดานในการนับคะแนน 20 กระดาน ถ้าผู้มาใช้สิทธิ 60 % ตามเป้าที่ตั้งไว้ 20 กระดาน ก็น่าจะเพียงพอ ซึ่งก็ได้ชี้แจง ให้กรรมการนับคะแนนทราบถึงวิธีการนับและการวินิจฉัยบัตรแล้ว เชื่อว่าจะทำให้การนับคะแนนทำได้รวดเร็วขึ้น”